บทที่ 7 บทที่ 13-2 ชั่วชีวิตนี้จะไม่

สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด

ฉันเริ่มเข้าเรียนกับเซวียเซ่า เรียนพิเศษด้วยกัน เลิกเรียนด้วยกัน 

 

 

เจ้าดื้อคนนี้ ตั้งนานแล้วยังไม่กล้าจูงมือฉันอีก ใจกล้าหน่อยสิ หรือยังจะต้องให้ฉันเริ่มก่อน 

 

 

ฉัน…ฉันต้องเริ่มก่อนจริงๆ 

 

 

โอ๊ย อยากตายจริงๆ…ฉันเริ่มก่อน 

 

 

… 

 

 

พวกเราจูงมือเดินทุกวัน พวกเรากินอาหารที่แผงขายอาหารทุกแผงด้วยกัน ดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน แอบหนีไปเล่นเกมด้วยกัน 

 

 

ทำทุกอย่างด้วยกัน 

 

 

จากนั้นนายก็ทิ้งป้ายของพรอันที่สองไว้บนตัวของฉัน นายบอกว่า จะอยู่กับสวี่เจียอี้ตลอดไป 

 

 

สวี่เจียอี้…ไม่ใช่ฉัน 

 

 

ฉันก็คิดว่าจะอยู่กับนายตลอดไป 

 

 

ตลอดไป 

 

 

แต่ว่า…นายไม่รู้ว่าฉันไม่ใช่เธอ 

 

 

ปวดจริงๆ ปวดมาก ปวดมากเลย… 

 

 

ฉันเริ่มรู้สึกเสียใจแล้วจริงๆ ความรู้สึกนี้…ความรู้สึกแบบนี้ ฉันไม่ต้องการ ไม่ต้องการ ฉันไม่ต้องการจริงๆ 

 

 

แต่ว่า 

 

 

ขอเพียงแค่นายมีความสุขก็พอ… 

 

 

… 

 

 

มีอยู่วันหนึ่ง เซวียเซ่าเพิ่งไปฉันก็ล้มลง 

 

 

ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน…ฉันใช้เรี่ยวแรงจนหมดถึงปีนขึ้นไปบนตัวของตัวเองได้ รู้สึกทรมาน รู้สึกเหมือนจะระเบิด 

 

 

ฉันยังไม่ทันพูดอะไรก็สลบไป 

 

 

หลังจากตื่นขึ้นมา ฉันมองเห็นใต้เท้าหลงขมวดคิ้ว ถอนหายใจมองฉัน ‘ฉันไม่ควรยอมตกลงช่วยเธอจริงๆ สวี่ซิน เธอรู้ไหม เธอควรหยุดได้แล้ว กลับไปร่างเดิมของเธอแล้วบำเพ็ญเพียรซะ เธอรู้ไหมว่าความรักของมนุษย์สำหรับเธอแล้วเป็นเหมือนเคราะห์ อีกทั้งยังเป็นเคราะห์ที่แก้ยากที่สุดอีกด้วย…ถ้าเธอยังทำต่อไป เธอที่เป็นจิตวิญญาณต้นไม้จะไม่มีวันที่ได้เปลี่ยนรูป…ขอเพียงเธอตัดเคราะห์ความรักนี้ซะถึงจะบำเพ็ญเพียรขั้นต่อไปได้’ 

 

 

 ‘ฉันไม่ยอม’ 

 

 

 ‘ไม่สนว่าเธอจะยอมหรือไม่ยอม ฉันทำผิด ฉันจะไม่ยอมให้มันผิดต่อไป…ความทรงจำของมนุษย์คนนั้นจะฟื้นฟูและจะลบร่องรอยในโลกมนุษย์ของเธอทั้งหมด’ 

 

 

 ‘ใต้เท้าหลงอยากเห็นฉันฆ่าตัวตายอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ’ 

 

 

 ‘เธอกำลังขู่ฉันงั้นเหรอ’ 

 

 

ฉันรู้ว่าเธอโมโหมาก อีกทั้งพลังมหาศาลนั้นก็กดทับฉันจนหายใจไม่ออก 

 

 

ฉันร้องไห้และพูดว่า ‘ฉันจะทำจริงๆ’ 

 

 

เธอไล่ฉันออกไปและไม่พูดกับฉันอีก…ฉันมองออกว่าเธอผิดหวังกับฉันมาก แต่ฉันรู้ว่าเธอจะไม่สนใจแล้ว 

 

 

ส่วนที่ฉันคิดในตอนนี้ก็คือใกล้จะถึงวันเกิดของเซวียเซ่าแล้ว ฉันควรจะมอบของอะไรให้เขา 

 

 

… 

 

 

ใต้เท้าหลงพูดถูก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ร่างกายของฉันอ่อนแอลงทุกวัน เหมือนมีอะไรภายในร่างกายของฉันกำลังดูดกลืนพลังของฉัน พลังชีวิตของฉัน… 

 

 

ฉันค่อยๆ รับรู้ว่ามันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และกลืนฉันไปทั้งหมดและฉันก็จะหายไป…จากนั้นสิ่งที่ไม่ดีก็จะปรากฏขึ้น 

 

 

ฉันกลัวมาก 

 

 

ไม่มีสักวันที่ฉันสามารถหยุดพักผ่อนได้เลย…ฉันอ่อนแอลงเรื่อยๆ 

 

 

… 

 

 

วันนี้…วันนี้ ฉันทำอะไร 

 

 

ฉันกลัวจนร่างกายสั่น กลัว…ร่างกายสั่นสะท้าน 

 

 

ฉัน…ฉันกลับฉวยโอกาสตอนที่เซวียเซ่าหลับบีบคอของเขา ฉันไม่รู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร แต่ฉันรู้ว่าการกระทำนี้ของฉัน…กำลังจะฆ่าเขา  

 

 

เป็นของสิ่งนั้น 

 

 

เป็นของสิ่งนั้น 

 

 

เป็นสัญชาตญาณของฉัน…สัญชาตญาณของฉันไม่ยอมให้ฉันถูกมันกลืนกิน สัญชาตญาณสั่งให้ฉันฆ่า…ฆ่าเซวียเซ่า และทำให้มันหายไป 

 

 

สัญชาตญาณของฉัน… 

 

 

ฉันกลัวจริงๆ…เซวียเซ่า…ฉันกลัวจริงๆ 

 

 

เพราะฉันเองก็รู้ว่าหากมันโตจนถึงรากแล้วจะไม่มีทางกำจัดออก…สัญชาตญาณกำลังต่อต้านความตาย 

 

 

แต่ฉัน…แต่ฉันทำอย่างนี้ได้ยังไง 

 

 

… 

 

 

ถ้าหาก…ถ้าหากให้ฉันถูกกลืนไปแบบนี้จนลืมนาย ฉันยอม…ยอมตายดีกว่า  

 

 

ฉันควักเอาหัวใจต้นไม้ของตนเองออกมา 

 

 

สิ่งนี้บรรจุพลังทั้งหมดของฉัน เป็นของที่ฉันพึ่งพิงเพื่อดำรงชีวิตอยู่ หากเป็นแบบนั้น แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะกลืนกินฉันก็เอามันไปไม่ได้ 

 

 

เมื่อฉันตาย…มันก็จะตายไปกับฉัน 

 

 

ฉันทำให้หัวใจต้นไม้เป็นรูปจันทร์เสี้ยวอันหนึ่งและมอบให้เขา…มนุษย์คนเดียวที่ฉันเคยรัก 

 

 

… 

 

 

ฉันจะฝืนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ฉันพยายามฝืนทนอยู่เป็นเพื่อนเขาหนึ่งวันก่อนที่ตนเองจะหายไป 

 

 

ฉันบอกเขาว่าฉันจะสอบมหาวิทยาลัยที่ดีมากแห่งหนึ่ง ฉันอยากให้เขาขยันเรียนและสอบติดมหาวิทยาลัยแห่งนั้นด้วย…ฉันหวังว่าเขาจะมีอนาคตที่ดี 

 

 

ฉันฝืนจนกระทั่งถึงหลังวันที่พวกมนุษย์สอบเอ็นทรานซ์เสร็จ 

 

 

แต่ฉันไม่อาจฝืนทนต่อไปได้อีกแล้ว 

 

 

ฉันค่อยๆ ละลายเข้าไปในร่างกายของฉัน สติของฉันไม่สามารถออกจากร่างกายของฉันได้อีก ฉันค่อยๆ มองอะไรไม่เห็นและไม่ได้ยินอะไรอีก 

 

 

มีบางครั้งที่ฉันตื่น มีบางครั้งที่ฉันหลับ ไม่รู้ว่าครั้งหน้าตอนที่ฉันตื่นนั้นจะเป็นเมื่อไหร่ 

 

 

ทุกครั้งตอนที่นายเดินผ่าน ฉันจะต้องลืมตาให้ได้…แม้ว่าจะเป็นเพียงแวบเดียวที่จะได้เห็นนายอีกครั้งก็ตาม 

 

 

ฉันรู้ว่านายสอบติดแล้ว 

 

 

ฉันรู้… 

 

 

ฉันรู้หมด… 

 

 

ฉันรู้หมด… 

 

 

ฉันรู้…หมด 

 

 

… 

 

 

‘เธอจะทรมานอย่างนี้ไปทำไม’ 

 

 

สุดท้ายฉันได้ยินเสียงของใต้เท้าหลง เธอน่าจะอยู่ข้างกายของฉัน 

 

 

‘ควักหัวใจต้นไม้ของตัวเอง ทำให้ต่อไปเธอไม่สามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้อีกแล้ว สติของเธอก็จะค่อยๆ กระจายหายไป สุดท้ายก็จะกลายเป็นต้นไม้ธรรมดาต้นหนึ่งเท่านั้น…ผ่านอีกไม่กี่ปี เธอก็จะลืมแม้กระทั่งตัวเองคือใคร’ 

 

 

ฉันพูดว่า ฉันชื่อสวี่ซิน…ผู้ที่มอบหัวใจให้เขา…สวี่ซิน 

 

 

ใต้เท้าหลงยืนอยู่ตรงหน้าฉันอยู่นาน สุดท้ายแล้วเธอก็ถอนหายใจ พูดกับฉันเบาๆ ว่า “ฉันจะไม่ลบความทรงจำหลายเดือนนี้ของมนุษย์คนนั้น ฉันจะจัดการเรื่องที่เธอจะหายไปให้ดี…ถือว่ามอบความฝันความฝันหนึ่งให้กับมนุษย์คนนั้นก็แล้วกัน” 

 

 

‘ขอบคุณมาก ใต้เท้าหลง…’ 

 

 

‘เด็กโง่’ 

 

 

ในที่สุด…ฉันก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลยและก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย 

 

 

ฉันไม่รู้ว่าเขามีชีวิตที่ดีไหม ไม่รู้ว่าหลังเขารู้ว่า ‘สวี่เจียอี้’ คนนี้จากไปแล้วจะมาพูดกับรูต้นไม้ของฉันอีกหรือเปล่า 

 

 

ฉันไม่รู้อะไรเลย 

 

 

รอบกายเปลี่ยนเป็นเงียบมาก เงียบ…หนักจัง…หนักมากเลย 

 

 

มีอะไรบางอย่างมัดฉันเอาไว้ ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถไปจากสถานที่ที่มืดมิดแห่งนี้ได้อีกแล้ว 

 

 

เซวียเซ่า นายสบายดีไหม… 

 

 

ต่อมา พบเจอเด็กสาวที่ชอบหรือปล่า… 

 

 

เซวียเซ่า…อยากเจอนายอีกครั้งจังเลย 

 

 

… 

 

 

… 

 

 

ทันใดนั้นก็มีอยู่วันหนึ่ง ฉันตื่นขึ้นมา สามารถมองเห็นและก็ได้ยินอีกครั้ง ความรู้สึกอบอุ่นชนิดหนึ่งตกอยู่บนตัวของฉัน 

 

 

คืนวันนั้น ฉันมองเห็นแสงสีงดงามมากวาบผ่านอยู่กลางอากาศ เหมือนดอกไม้ไฟ แสงดาวเหล่านั้นค่อยๆ ตกลงบนตัวฉันทำให้ฉันฟื้นฟูพลังได้เล็กน้อย 

 

 

ฉันแปลกใจที่ตนเองยังสามารถฟื้นตื่นขึ้นมาได้อีกครั้งและไม่ได้ลืมเรื่องเมื่อก่อน…แต่ฉันไม่สามารถออกไปจากที่นี่ไกลเกินไปได้…สามารถไปได้เพียงสองสามร้อยเมตรเท่านั้น ทั้งยังเหนื่อยมากเหมือนกับเมื่อก่อน 

 

 

ฉันยังอ่อนแออยู่…แสงดาวเหล่านั้นให้พลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

 

 

รอบด้านเปลี่ยนไปมาก…ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว 

 

 

เซวียเซ่า…คงโตแล้ว หรือว่าแก่แล้ว 

 

 

ฉันหลับไปนานแค่ไหน หลับแล้วตื่น ตื่นแล้วก็หลับอีก แบบนั้นทำให้ฉันถ่วงเวลาไปได้อีกหน่อย 

 

 

… 

 

 

‘เซวียเซ่า’ 

 

 

ทันใดนั้นฉันก็ได้ยินชื่อนี้จากปากของผู้หญิงคนหนึ่ง มันปลุกฉันให้ตื่น ชื่อนี้ปลุกฉันให้ตื่นขึ้น 

 

 

ฉันลืมตาขึ้นมาและก็มองเห็นเขา 

 

 

เติบโตขึ้นมาจริงๆ แต่ฉันก็จำเขาได้ในแวบเดียวที่มองเห็น…เจ้าเด็กดื้ออ้วนขึ้นตั้งเยอะเลย 

 

 

… 

 

 

ฉันรู้ว่าผ่านไปสิบเอ็ดปีแล้ว 

 

 

ฉันรู้ว่านายใกล้จะแต่งงานแล้ว อีกทั้งยังซื้อชุดแต่งงานและถ่ายรูปอยู่ฝั่งตรงข้ามอีก 

 

 

โธ่ นายเดินมาอีกหน่อยสิ ผ้าม่านบังแล้ว ฉันมองไม่เห็นเลย 

 

 

นายหัวเราะอย่างมีความสุข…นายจูงมือผู้หญิงคนนั้น จะต้องชอบมากใช่ไหม 

 

 

รู้สึกอิจฉานิดหน่อย 

 

 

แต่ว่า…ได้พบนายอีกครั้งนั้นดีจริงๆ 

 

 

อยาก อยากจูงมือนายอีกสักครั้งจริงๆ… 

 

 

อยากมาก  

 

 

… 

 

 

แต่ฉันก็พบว่าที่จริงแล้วฉันมองดูเขาแบบนี้ก็ดี 

 

 

ฉันตื่นขึ้นแล้วก็เอาแต่จ้องร้านขายชุดแต่งงานฝั่งตรงกันข้าม รอให้เขาปรากฏตัวออกมา…แต่คงไม่ได้บ่อยมากสินะ 

 

 

ฉันคิดว่าพลังที่แสงดาวให้ฉันใกล้จะหมดแล้ว…ใกล้จะต้องกลับไปสถานที่มืดทึบนั่นอีกแล้ว 

 

 

และคงจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง 

 

 

แต่ก็ต้องขอบคุณมัน…ที่ทำให้ฉันสามารถมองเห็นได้อีกครั้ง 

 

 

… 

 

 

‘คุณสวี่ซิน คุณยินดีออกมาสักหน่อยไหม’ 

 

 

ฉันหลับลึกไปหลายวันแล้ว อยู่ดีๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังมาถึงฉัน…ฉันมีแรงที่จะลืมตาได้อีกครั้ง จากนั้นก็มองเห็นคนสวมหน้ากากคนหนึ่ง 

 

 

เขาถามฉันว่าต้องการไปพบเซวียเซ่าและให้เซวียเซ่ามองเห็นฉันอีกครั้งไหม ทั้งยังอธิบายเหตุผลให้ฉันฟัง  

 

 

ฉันตกลง 

 

 

ดูเหมือนฉันจะตกลงโดยที่ไม่ได้หยุดคิดเลย 

 

 

เซวียเซ่า…นี่เป็นคำขอสุดท้ายของนาย ฉันจะไม่ตกลงได้ยังไง ฉันจะทนเห็นนายกังวลเกี่ยวกับอดีตอยู่อย่างนี้ได้ยังไง…ฉันต้องการมอบอนาคตที่มีความสุขให้นาย 

 

 

ฉันจะต้องทำให้ได้ 

 

 

ครั้งสุดท้ายที่จะสามารถทำอะไรให้นายได้…ทันใดนั้นก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา 

 

 

ดังนั้นฉันจะใช้สถานะของสวี่เจียอี้ไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านายอีกครั้ง…สุดท้ายฉันจะช่วยนายแก้ไขความฝันเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน ดีไหม 

 

 

เจ้าเด็กดื้อ 

 

 

ฉัน…ฉันสามารถ…ทำได้อีกสักครั้ง 

 

 

เกลียดนัก ฉันร้องไห้อีกแล้ว 

 

 

… 

 

 

พวกเรามีวันหยุดเล็กๆ ที่แสนงดงามครั้งหนึ่ง 

 

 

เด็กดื้อ…กลับพูดว่าจะแนะนำภรรยาของนายให้ฉันรู้จัก อยากจะให้ฉันร้องไห้ให้นายดูเดี๋ยวนี้งั้นเหรอ 

 

 

แต่เห็นแก่ที่นายเป็นฝ่ายเริ่มจูงมือฉันก่อนในครั้งนี้ ฉันให้อภัยนายแล้ว 

 

 

เซวียเซ่า…ครั้งนี้นายปล่อยวางหรือยัง 

 

 

ฉันรู้ว่านายโตแล้ว ไม่ใช่เจ้าเด็กจอมดื้อเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว 

 

 

สุดท้ายของสุดท้าย ฉันไม่กล่าวลาดีกว่า…ใครให้นายใช้หัวใจต้นไม้ที่ฉันให้นายไปจนหมดล่ะ 

 

 

ใครใช้ให้ฉัน…ใครใช้ให้ฉันไม่กล้าพูดคำว่าลาก่อนเองล่ะ