Ch.47 – คนที่ชื่นชม

Translator : Asiran / Author

 

**ตอนที่****47 –**คนที่ชื่นชม

 

“ในแอคเคาท์ของพี่ชายผมมีหยางเมิ่งฉีอยู่ในรายชื่อเพื่อนด้วยนะ!” เหออวี้บอกข่าวอีกเรื่องทำให้โจวม่อตื่นเต้นสุด ๆ

“เอามาให้พี่ดู!” ปกติแล้วโจวม่อเป็นคนที่เงียบมาก เป็นคนที่จืดชืดเป็นพิเศษซึ่งมักจะถูกมองข้ามในกลุ่มคน แต่พอได้พูดเรื่องที่เขาหลงใหลขึ้นมาเขาก็จะแปลงร่างไปเป็นคนละคนกันเลย พอได้ยินคำพูดของเหออวี้ก็ตะโกนขึ้นมา ดูเหมือนกำลังจะฉกโทรศัพท์มือถือไปดื้อ ๆ แต่เอื้อมมือไปได้ครึ่งทางก็รู้สึกตัวขึ้นมา พอมองเห็นเหออวี้ที่ทำหน้าแตกตื่นก็ยิ้มแหะ ๆ แล้วพูดว่า “นายเอามาให้พี่ดูหน่อยสิ”

“อยู่นี่ครับ…” เหออวี้เปิดไปที่หน้ารายชื่อเพื่อน ตอนนี้หยางเมิ่งฉีไม่ได้ออนไลน์ แต่ชื่อ “พ่อเมิ่งฉี” ก็ยังถูกเหออวี้หาพบอย่างรวดเร็ว โจวม่อหยิบโทรศัพท์มือถือไปชื่นชมข้อมูลของไอดอลตัวเอง พูดจาชมเชยไม่หยุดปากจนเหออวี้เริ่มเบื่อ

“เพราะงี้ไงฉันถึงไม่ค่อยชอบหยางเมิ่งฉี” เกาเกอพูดขึ้นมาหนึ่งประโยคอย่างกะทันหัน

“เอ๊ะ” เหออวี้ไม่เข้าใจ

“ติ่งหนึ่งคนร้ายกว่าแอนตี้แฟนสิบคน*” เกาเกอชี้นิ้วไปที่โจวม่อแล้วพูดออกมา

“นิดหน่อยเองครับ…” เหออวี้ได้แต่หัวเราะ แต่ในใจกลับรู้สึกเห็นด้วยอยู่บ้าง พอเห็นโจวม่อเป็นแบบนี้ก็อดไม่ได้จริง ๆ ที่อยากจะไปหาจุดอ่อนละข้อบกพร่องของหยางเมิ่งฉีมาฟาดใส่หน้าโจวม่อสักหน่อย แม้ว่าจะต้องทำให้เขารู้สึกไม่พอใจสุด ๆ ก็ยังจะมีความสุขกว่าตอนนี้

แน่นอนว่าเหออวี้ไม่ได้ทำอย่างนั้นจริง ๆ แต่หันไปถามเกาเกอแทน “รุ่นพี่มีนักเล่นเกมอาชีพที่ชื่นชมบ้างไหมครับ”

คราวที่แล้วถามว่าอยากจะไปร่วมทีมอาชีพทีมไหน เกาเกอบอกว่ายังไงก็ได้ ดูไม่เหมือนเป็นพวกไล่ตามดารา แต่ในฐานะแฟนของ The Kings of Glory ยังไงก็ติดตาม KPL มา มีผู้เล่นตั้งมากมายขนาดนั้น ไม่ต้องเอาแบบโจวม่อที่บูชาคนเขาขนาดนั้นก็ได้ แต่ว่าคนที่ค่อนข้างชื่นชมยังไงเหออวี้ก็คิดว่าน่าจะมีอยู่บ้างล่ะมั้ง

ผลก็คือ พอคำถามนี้ถามออกไป โจวม่อที่กำลังจ้องมองข้อมูลของ “พ่อเมิ่งฉี” อย่างหลงใหลใฝ่ฝันอยู่ตรงนั้นก็หุบปากฉับทันที ในห้องเงียบกริบ เหออวี้หันไปมองโจวม่อ พบว่าแววตาของเขาแตกตื่นและเลี่ยงหลบไป

“ก็ไม่ได้ติ่งขนาดเจ้าโง่นี่หรอก แต่ว่ามืออาชีพที่รู้สึกว่าเก่งมากก็มีอยู่” เกาเกอทางด้านนี้ก็กล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน

“คนไหนครับ” เหออวี้พูด

“โจวจิ้น” เกาเกอพูด

“อ้อ…” เหออวี้ส่งเสียงตอบรับ หัวข้อสนทนาที่ปกติแล้วน่าจะพูดคุยกันอย่างชื่นมื่น อยู่ ๆ ก็ถูกสกัดไปเสียอย่างนี้ ในห้องยังคงเงียบงัน บรรยากาศค่อนข้างอึมครึมน่าอึดอัด

เกาเกอค่อนข้างชื่นชมโจวจิ้น

ความจริงคำตอบนี้ก็ไม่ได้น่าแปลกใจ โจวจิ้นได้รับการนับถือว่าเป็นเลนกลางอันดับหนึ่งใน The Kings ฮีโร่ที่เก่งที่สุดคือจูเก่อเลี่ยง นี่ก็เหมือนกับการเล่น The Kings of Glory ของเกาเกอเลย : ตำแหน่งเลนกลาง ชอบจูเก่อเลี่ยงที่สุด

สิ่งที่พิเศษก็คือเพียงโจวจิ้นคนนี้มีความหมายต่อเหออวี้ไม่เหมือนคนอื่น ในวันที่น่าหดหู่ที่สุดพวกนั้น เขาฝันอยู่หลายรอบว่าตนเองกับพี่ชายไปฆ่าโจวจิ้นที่ตั้งรับอยู่ใต้ป้อมในหุบเขากษัตริย์ให้ตายอนาถไปเลย

ทำไมโจวม่อถึงได้แตกตื่นและเงียบไปแบบนี้ เหออวี้ก็เข้าใจแล้ว

เป็นเพราะว่าเขารู้คำตอบของคำถามข้อนี้ แล้วก็รู้ด้วยว่าเนื่องจากเหอเหลียงทำให้เหออวี้ไม่ชอบหน้าโจวจิ้นแห่งเทียนเจ๋อ เขากังวลว่าเรื่องนี้จะทำให้อึดอัดกัน

แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเกาเกอ เหออวี้ถอนหายใจยาว กำลังจะพูดอะไรขึ้นมา แต่เกาเกอก็เร็วกว่าเขามาก เธออ้าปากถามขึ้นมาแล้วว่า “นี่มีผลกระทบกับนายไหม”

“สมควรไม่” เหออวี้พูด

“สมควรไม่ ก็แปลว่ามีอยู่บ้างน่ะสิ” เกาเกอพูด

“ธรรมดาของมนุษย์” เหออวี้พูด

“เข้าใจ ๆ นายควรจะดีใจนะ โชคดีที่ฉันไม่ได้เป็นแบบหมอนั่น ถ้าเป็นแบบนั้นนายจะไม่อยากตีเขาให้ตายได้ยังไงกันล่ะ” เกาเกอกล่าว

“ไม่หรอกครับ” เหออวี้พูด

“ไม่เลยเหรอ ฉันเห็นเขาติ่งหยางเมิ่งฉีขนาดนี้แล้วยังอยากฆ่าเขาเลย นายรู้ปะ มีครั้งหนึ่งที่เขาชวนฉันไปที่สนามแข่งดูเกมของเวยเฉิน เขาดันเอาป้ายไฟไปด้วยนะรู้ไหม ป้ายไฟสีชมพู!!!” เกาเกอกล่าว

“มีคนตั้งเยอะที่มี…” โจวม่อแก้ตัว

“งั้นอยากจะให้พูดไหมว่านายเขียนอะไรเอาไว้บนป้ายไฟนั่น ฉันบอกนายเลยนะว่าเพราะไอ้ป้ายไฟนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของฉันกับนายมันแบ่งออกเป็นสองช่วงเลย นายรู้ไหม” เกาเกอพูด

“อะไรเรียกว่าสองช่วงเหรอครับ” เหออวี้ถาม

“ก่อนหน้าเป็นเพื่อนชาย หลังจากนั้นเป็นเพื่อนสาว” เกาเกอบอกอย่างเย็นชา

“โหย สรุปแล้วเขียนอะไรลงไปกันแน่เนี่ย” ความอยากเผือกของเหออวี้พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด ถามอย่างสนใจเป็นพิเศษ

“อย่าพูด!” โจวม่อรีบร้องออกมา เกาเกอผายมือออกให้เหออวี้อย่างจนใจแล้วก็หุบปากลงจริง ๆ

“ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่เลย” เห็นได้ชัดว่าไม่ยอมพูดเนื้อหาออกมาแต่โจวม่อก็ยังรีบอธิบาย ดูเหมือนว่ามาวันนี้เขาจะรู้สึกอับอายขายหน้าการกระทำในอดีตของตัวเองขึ้นมาแล้ว นี่ยิ่งทำให้เหออวี้อยากรู้ไปกันใหญ่ แต่ว่าทั้งสองคนก็ไม่ยอมพูดเรื่องนี้อีกแล้วจริง ๆ เพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย โจวม่อจึงเลิกชื่นชมข้อมูลของ “พ่อเมิ่งฉี” ต่อแล้วรีบคืนโทรศัพท์มือถือให้เหออวี้อยากให้เปิดเกมสักที

“อยากดูของโจวจิ้นไหมครับ” วุ่นวายกันมาขนาดนี้ทำให้อารมณ์ความรู้สึกเมื่อครู่นี้ที่เหออวี้ก็อธิบายไม่ถูกหายไปจนเกลี้ยง เอ่ยปากถามเกาเกออย่างใจกว้างอยากให้เธอก็ได้เห็นสักหน่อย

“ดูก็ได้” เกาเกอหยักหน้าทันทีอย่างไม่ลังเล ถึงจะไม่ได้เหมือนเจ้านั่นที่ติ่งหยางเมิ่งฉีสุดตัว แต่เธอก็ยังอยากรู้เกี่ยวกับมืออาชีพที่ตัวเองชื่นชมอยู่บ้าง

เมื่อคืนนี้เหออวี้ก็สังเกตเห็นไอดีของโจวจิ้น “โจวกงเจี่ยเมิ่ง” แล้ว เรื่องนี้ตัวเขาเองได้ประกาศออกไปก่อนแล้ว ดังนั้นถึงไม่ได้เข้าไปดูข้อมูลก็ยืนยันตัวได้ ตอนนี้มาเปิดดู ก็เหมือนเดิมคือมาชื่นชมฮีโร่ที่ใช้บ่อย ๆ เพียงแต่ว่าอันดับหนึ่งของตัวที่เล่นบ่อยที่สุดไม่ใช่จูเก่อเลี่ยงที่เป็นตัวที่เขาเก่งที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของเขา แต่เป็นก้านเจี้ยงม่อเสีย 2267 เกม อัตราชนะ 80.4%

อัตราชนะไม่ได้ดีเท่ากวนอวี่ของหยางเมิ่งฉี แต่ว่าจำนวนเกมที่เล่นสูงกว่ามาก แต่เรื่องที่น่าแปลกใจยังมีตามมาอีก ต่อจากก้านเจี้ยงม่อเสียแล้วตัวที่เล่นมากที่สุดเป็นอันดับสองก็คืออิ๋งเจิ้ง 2246 เกม อัตราชนะ 81.2%

ที่สาม หยางอวี้หวน 2242 เกม อัตราชนะ 80.8%

ที่สี่ อู่เจ๋อเทียน 2238 เกม อัตราชนะ 80.2%

ที่ห้า เปี่ยนเชวี่ย 2233 เกม อัตราชนะ 81.3%

ที่หก จูเก่อเลี่ยงที่โจวจิ้นเก่งที่สุดถึงได้ปรากฏตัวออกมาในที่สุด จำนวนเกมที่เล่น 1868 ต่ำกว่าฮีโร่ห้าตัวก่อนหน้านี้อยู่ช่วงใหญ่ แต่อัตราชนะก็สูงกว่าอยู่ที่ 86.5% เทียบกับกวงอวี่ที่หยางเมิ่งฉีเก่งที่สุดแล้วก็บอกได้ว่าพอ ๆ กัน

หลังจากจูเก่อเลี่ยงตัวที่เล่นหลายครั้งก็ยังเป็นฮีโร่เมจ เพียงแต่ว่าจำนวนเกมที่เล่นไม่ได้น่าทึ่งเช่นเดียวกับหกตัวก่อนหน้านี้ เมจตัวที่เจ็ดเกาเจียนหลีมีจำนวนเกมที่เล่นเพียง 445 เกม จากนั้นก็ตามมาด้วยเตียวฉาน, จางเหลียง, ชิรานุอิ ไม ฯลฯ รายชื่อฮีโร่เมจเรียงรายลงไป ที่แท้กลับพบว่ามีฮีโร่เมจครบทุกตัวเลย ในรายชื่อฮีโร่ที่เขาใช้บ่อย ๆ นั้นแทบไม่มีฮีโร่ตำแหน่งอื่น ๆ จำนวนเกมที่เล่นน้อยจนแทบเป็นศูนย์

“มืออาชีพที่ประสบความสำเร็จก็ไม่ได้ไม่มีเหตุผลจริง ๆ” เกาเกอดูฮีโร่ที่โจวจิ้นใช้บ่อย ๆ แล้วก็พูดขึ้นมาหนึ่งประโยค

นี่เป็นเพียงแอคเคาท์ส่วนตัว เป็นของของผู้เล่นแต่ละคนอย่างสิ้นเชิง การฝึกซ้อมและแข่งขันล้วนไม่ได้ใช้มัน ตัวเองเพียงแต่ใช้เล่นผ่อนคลายเป็นการส่วนตัวเหมือนผู้เล่นทั่ว ๆ ไปเท่านั้น เล่นจนกลายเป็นแอคเคาท์แบบนี้แสดงว่าโจวจิ้นคลั่งไคล้ฮีโร่เมจมาก ฮีโร่ตัวอื่นของเขาใช้น้อยมากจนแทบจะเรียกได้ว่าไม่ได้ใช้

มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างที่ทำให้มีข้อมูลเป็นอย่างนี้ : ถ้าไม่เพราะเขามีเพื่อนร่วมทีมตายตัวที่ถึงจะเป็นแอคเคาท์ส่วนตัวก็ยกตำแหน่งเลนกลางให้เขาก็คือ ไม่ว่าจะมีเพื่อนร่วมทีมหรือไม่ก็จะเล่นเมจไปเลนกลาง เขาจะต้องดึงดันเลือกเมจให้ตัวเองไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าไอดีของเขาจะถูกป่าวประกาศออกไปแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรจะการันตีได้ว่าผู้เล่นที่มาเจอกับเขาจะจดจำได้ ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าผู้เล่นที่มาเจอเขาจะยอมปล่อยตำแหน่งเลนกลางให้

การเลือกแบบนี้ พวกผู้เล่นทั่วไปจะต้องด่าเละแน่นอน แต่สำหรับโจวจิ้นแล้วอาจจะเรียกได้ว่าเป็นความยึดติดและมุ่งมั่นของเขา

ในแอคเคาท์ส่วนตัวที่ใช้ผ่อนคลายก็ยังเป็นแบบนี้ แล้วการฝึกซ้อมล่ะ แล้วการแข่งขันล่ะ

เมื่อมองดูรายชื่อเมจครบชุดที่น่าทึ่งของ “โจวกงเจี่ยเมิ่ง” แล้ว เหออวี้ก็พูดไม่ออกอยู่เป็นนาน

………………………………………………………

*ติ่งหนึ่งคนร้ายกว่าแอนตี้แฟนสิบคน 一粉顶十黑 เป็นสำนวนในยุคสมัยนี้ค่ะ ความหมายก็ประมาณว่าติ่งที่บ้ามาก ๆ เนี่ยจะปกป้องไอดอลของตัวเองจนเกินเหตุ โดยเฉพาะบางครั้งก็จะไประรานติ่งไอดอลคนอื่นซึ่งทำให้ชาวบ้านไม่พอใจพลอยมาเกลียดศิลปินคนนั้นไปด้วยซึ่งร้ายกาจกว่าแอนตี้แฟนนับสิบคนที่มาคอยหาเรื่องเสียอีก

เราก็อยากรู้นะว่าพี่โจวเขียนอะไรลงไป

เรื่องโจวจิ้นเราก็เริ่มนับถือขึ้นมาแล้วแฮะ อย่างน้อยเขาก็ทุ่มเทกับเกมจริง ๆ ล่ะนะ แต่นับถือส่วนนับถือ เกลียดขี้หน้าก็ส่วนเกลียดขี้หน้านะ