ตอนที่ 1162 - จองจำเทพ

The Divine Nine Dragon Cauldron

ผู้ใช้ถนนเหล่านี้คุ้นเคยกับความประหลาดของสิ่งมีชีวิตรอบกายไปเสียแล้วพวกเขาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
  ซือหยูทึ่งในใจในพันธมิตรของเทพร้อยคน มีการอยู่ร่วมกันอย่างสันติจากหลายเผ่าพันธุ์ โดยเฉพาะเผ่ามนุษย์
  คงเป็นเพราะเทพทั้งร้อยคนนี้ส่วนใหญ่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ใช่มนุษย์ไม่แปลกที่จะมีเผ่าแปลก ๆ ถูกสร้างขึ้นมา
  อย่างเทพกิเลนเองก็เป็นเทพหายากที่สร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ขึ้นมาแทนที่จะเป็นกิเลน
  ซือหยูเดินผ่านเมืองไปและก็ได้รับความรู้สึกประหลาดจากด้านหลังเขาพูด
  “เจ้ามาถึงแล้วสินะ!”
  ฟึ่บ!
  ซือหยูหายตัวไปยังตรอกที่ใกล้ที่สุด
  คนที่ไล่ตามเขามองหาเขาครู่หนึ่งนางทุบหยกของตัวเองและตามเขาไปติด ๆ
  พวกเขาไล่ล่ากันอยู่สองเดือน
  นางไม่ได้ตามทันในทันทีแต่เลือกที่จะไล่เขาออกไปโดยทิ้งระยะใกล้ๆ นางทุบชิ้นหยกในทุกที่ที่เขาไป
  นางไล่ตามซือหยูข้ามโลกทั้งใบและลึกไปในพันธมิตรพวกเขาไปถึงโลกของเทพวารี
  โลกเทพวารีนั้นมีพื้นที่เก้าในสิบส่วนอยู่ใต้น้ำที่อยู่อาศัยทั้งหมดนั้นอยู่ในน้ำ
  น้ำที่นี่นั้นพิเศษต่อให้สิ่งอื่นเข้ามาในน้ำ พวกเขาก็สามารถหายใจ เดิน และฝึกฝนได้อย่างอิสระราวกับอยู่บนดิน ถ้าหากไม่นับความไม่สบายตัวเล็กน้อยที่อาจจะสัมผัสได้ ทุกอย่างนั้นเหมือนกับโลกใบอื่น
  ซือหยูอยู่ในโลกเทพวารีด้วยความสงสัยเขาเห็นนางเงือกแปลก ๆ เต็มไปหมด มีทั้งชายและหญิง เด็กและแก่ งดงามและอัปลักษณ์ พวกเขาหลากหลายเช่นเดียวกับเผ่ามนุษย์  “ไม่มีอะไรแปลกในโลกใบใหญ่นี้เลย!”
  ซือหยูหนีจากโลกเทพวารีและถอนหายใจเดินทางไปด้านนอก
  “เจ้าคิดว่าแม้โลกจะกว้างใหญ่มันก็ไม่บังเอิญที่เราจะต้องเจอกันใช่หรือไม่ เจ้าคนจิวโจวบ้านนอก?”
  เสียงอันเย็นชาดังขึ้น
  ฉั่วะ…
  รอยแยกมิติเปิดออกน้ำทะเลทะลักเข้ามา หญิงสาวงดงามก้าวออกมาด้วย
  รอยแยกมิติมากมายปรากฏรอบตัวซือหยูมีเซียนไม่ต่ำกว่าหลายร้อยคนล้อมเขาเอาไว้
  เซียนหลายร้อยคนนั้นมาแต่ชายแก่กลับหายไป
  “บังเอิญรึ?เจ้าส่งคนติดตามข้ามานานเช่นนี้ แสร้งทำเป็นบังเอิญเจอข้ารึ? แม่นางกระเรียน ข้าไม่สนใจจะเล่นกับเจ้าหรอกนะ…”
  ซือหยูยิ้มเบาๆ  กระเรียนยิ้มอย่างเย็นชา
  “ข้ายอมรับในตัวเจ้าแต่ข้ายังหัวเราะออกรึ? เจ้าคิดว่าข้าจะแค่จับตัวเจ้าและไม่ฆ่าเพื่อหอคอยรึ?”
  นางไม่คิดจะเจรจากับซือหยู
  “สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วข้าขอฆ่าเจ้าแทนที่จะได้หอคอยดีกว่า!”
  กระเรียนพูดอย่างเย็นชา
  “ฆ่ามัน!”
  เพียงคำสั่งเดียวเซียนหลายร้อยคนล้อมซือหยูเป็นระลอกคลื่น
  กระเรียนรู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะหาหอคอยให้เจอ
  ซือหยูมองรอบๆ
  “ล้อมข้าหรือ?”
  กระเรียนแสยะยิ้ม
  “เจ้ากำลังจะตายอยู่แล้วจะต้องการความยุติธรรมอีกหรือ? เจ้าคนโง่เขลาล้าหลัง”   “ไม่ใช่ข้าหมายถึง มันจะไม่น่าสนุกกว่าหรือที่คนที่ล้อมจะเป็นฝ่ายถูกล้อมเสียเอง?”
  ซือหยูยิ้มกว้างกว่าเดิม
  กระเรียนขมวดคิ้วดูเหมือนว่าซือหยูจะคาดเดามาตั้งแต่แรกว่านางจะติดตามสินค้าจนมาเจอเขา และยิ่งกว่านั้น เขาก็คิดไว้แล้วว่านางเลือกที่จะซุ่มโจมตีเขา
  “เจ้าไม่ต้องเสแสร้งหอคอยเจ้าอยู่ใกล้ ๆ ใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นโลกในร่างกายของข้าก็คงจะสัมผัสไม่ได้!”
  กระเรียนตะโกนดูเหมือนนางจะมองอุบายของซือหยูออก
  เมื่อนางรู้ว่าหอคอยไม่ได้อยู่กับซือหยูในทีแรกนางก็เลือกที่จะซุ่มโจมตีเขาแทน
  และเมื่อซือหยูออกมาจากโลกหอคอยเขาจะสามารถหนีได้อย่างง่ายดาย
  หอคอยนั้นถูกซือหยูซ่อนเอาไว้จริงแต่เขาซ่อนมันเอาไว้ในมุกวิญญาณเก้าหยก
  เขาไม่คิดจะให้ผู้คนในโลกหอคอยตายเพื่อเขา
  “ใครบอกเจ้าว่าข้ามีโลกใบเดียว?”
  ซือหยูพูดเบาๆ แสงสีเขียวในแขนขวาเปล่งประกาย หลายคนปรากฏตัวออกมา
  ม่อเทียนฉวนเจี๋ยนอู๋เชิง จักรพรรดิผี และ…จ้าวผาบั่นภูติ!
  แต่ละคนเป็นสุดยอดเซียนแห่งจิวโจวจ้าวผาบั่นภูติยังเป็นเซียนขั้นสี่ แม้แต่ลูกหลานเทพอสูรอย่างราชาเขตกลางยังต้องสู้กับเขาถึงห้าวันห้าคืน การต่อสู้ครั้งนั้นยอดเยี่ยมมาก
  เมื่อผนึกกำลังรวมกันแล้วพวกเขาทั้งสี่ไม่ต่างจากพยัคฆ์ที่เข้ารังหมาป่า
  จะต้องใช้หมาป่าสักกี่ตัวกันในการต้านทานพยัคฆ์สักตัว?
  “ข้าจะให้พวกท่านสี่คนจัดการคนที่เหลือส่วนข้าจะจัดการผู้หญิงคนนั้นเอง”
  ซือหยูพูดและออกนำเป็นคนแรก
  กระเรียนตกใจมีเซียนมากมายเช่นนี้ในจิวโจวที่เสื่อมถอยได้ยังไง? จ้าวผาบั่นภูตินั้นทำให้นางเศร้าเสียยิ่งกว่ามังกรพิษ
  ดินแดนจิวโจวนั้นเสื่อมถอยอัตราการเกิดเซียนไม่เป็นที่น่าพอใจ และแต่ละคนก็มีพลังจำกัด
  แต่อย่างไรก็ตาม…ทั้งสี่คนนี้ไม่ได้เกิดบนจิวโจว!
  ม่อเทียนฉวนนั้นอธิบายสถานการณ์กับเหล่าคนที่อยู่ในมุกวิญญาณเก้าหยกพวกเขารู้ว่าเทพกิเลนถูกจับตัว พวกเขาอยากจะช่วยเทพกิเลน
  เมื่อกระเรียนเห็นว่าซือหยูมาสู้กับนางคนเดียวนางโล่งใจเล็กน้อย
  นางเดินทางมาครั้งนี้ก็เพื่อซือหยูถ้าหากไม่มีหลักฐานว่าเขาตายก็บอกไม่ได้ว่าความตายของจิงไป่ได้รับการล้างแค้น
  ซือหยูนั้นไม่รู้ที่ต่ำที่สูงและเป็นฝ่ายเข้าหานางก่อนแทนนั่นทำให้กระเรียนดีใจจนหาคำอธิบายไม่ถูก มันประหยัดเวลานางไปมาก  “ความกล้าเจ้าน่าชื่นชมแต่มันก็โง่เขลา!”
  กระเรียนถอนหายใจแรงกระเรียนพุ่งไปเงาไปที่ซือหยู
  ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตาในบรรดาเซียนสี่คนที่ออกมาจากมุกวิญญาณเก้าหยก มีเพียงจ้าวผาบั่นภูติเท่านั้นที่มองตามกระเรียนทัน
  กระเรียนมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะฆ่าซือหยูนางพร้อมจะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆ
  แต่จู่ๆ นางก็เห็นว่าซือหยูจ้องมองนางพร้อมกับหัวเราะ กระเรียนตกใจเล็กน้อย หัวใจนางดูเหมือนจะหยุดเต้น
  “มันมองตามข้าทันรึ?”
  กระเรียนกำลังคิดในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากเชื่อ
  นางไม่เชื่อจนกระทั่งมีลำแสงสีทองเก้าสายเปล่งประกายออกมาจากตัวซือหยูกระเรียนที่คิดว่าโชคดีที่จะได้ฆ่าเขากลับเห็นเขาเพิ่มความเร็วขึ้นจนเร็วเท่ากับนาง!   ซูม…
  กระเรียนสยายปีกนางบินขยับเปลี่ยนมุมอย่างน่าทึ่งผ่านลำแสงทั้งเก้าไป
  แม้ว่าจะเหลือคราบโลหิตสีแดงและสีทองกับขนนกก้อนใหญ่เอาไว้นางก็ไม่ได้บาดเจ็บเลย
  พลังเร่งเวลาของซ์อหยูหายไปเขาใช้โอกาสที่นางช้าลงทิ้งระยะ
  กระเรียนมองร่างของซือหยูนางรู้อยู่ในใจว่าเกิดอะไรขึ้นและพูดอย่างเย็นชา
  “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีพลังเร่งเวลาด้วย!ช่างไม่เหมาะกับสิ่งที่มาจากจิวโจวอย่างเจ้า”
  ซูม…
  กระเรียนพุ่งเข้าหาซือหยูอีกครั้ง
  นางกำลังจู่โจมเพื่อให้แน่ใจว่าซือหยูไม่มีวิชาช่วยชีวิตอีกต่อไป
  และตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มี!
  นางมองเขาด้วยจิตสังหาร  “เวลาของเจ้ามาถึงแล้ว!”
  เงาสีขาวพุ่งเข้าใส่ซือหยูทันที
  แต่การจู่โจมก็ไร้ผล
  จุดที่นางโจมตีนั้นเป็นเพียงแค่ภาพติดตา
  นางตกตะลึงนางรู้สึกถึงอันตรายจากด้านหลัง จากใช้พลังบินหักมุมอีกครั้ง เมื่อนางหันไปมองก็ได้เห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ!
  มีกระเรียนขาวอยู่ด้านหลังซือหยูเป็นกระเรียนที่เหมือนกับกระเรียนในสายโลหิตของนาง!
  ในตอนนั้นเองกระเรียนกำลังคิดว่านางมีลูกชายหนึ่งคนที่มีสายโลหิตแบบเดียวกับนาง
  แต่ไม่นานนางก็สังเกตเห็นสายตาของซือหยูที่เปล่งแสงในดวงตาของเขาฉายภาพที่เหมือนกับบันทึกอะไรบางอย่าง
  กระเรียนหายใจเข้าลึก
  “เจ้า…เจ้าเลียนแบบพลังสายโลหิตของข้าเรอะ?”   วิชาเนตรลอกเลียนนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับกระเรียนพันธมิตรบูรพานั้นกว้างใหญ่พอที่เรื่องประหลาดจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ
  ถ้าหากพลังสายโลหิตของลูกหลานเทพมาจากเลือดมันจะลอกเลียนได้หรือ?
  แต่ถึงอย่างนั้นซือหยูกลับทำได้!
  ฟึ่บ!
  ซือหยูกลายเป็นแสงสีขาวพุ่งเข้าใส่กระเรียน
  กระเรียนชักสีหน้าความเร็วที่นางภาคภูมิใจนั้นมีขีดจำกัด ตอนนี้นางจะยังมีโอกาสชนะอยู่หรือ?
  นางหันหลังหนีด้วยความหวาดกลัวเพราะมิอาจกำจัดซือหยุได้นางได้แต่กัดฟันสลายพลังของลำแสงทั้งเก้าสาย
  ลำแสงเก้าสายรวมตัวเป็นหนึ่งทะลวงร่างกระเรียน
  กระเรียนกรีดร้องด้วยความกลัวในใจนางฉีกมิติด้วยมือหนึ่งข้างและหนีเข้าไป  ก่อนที่นางจะได้หนีเงาสีขาวก็แล่นมาตรงหน้า
  “เก้ามังกรอสูร!”
  กระเรียนถูกจู่โจมโดยมังกรเก้าหัวอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
  กระเรียนที่บาดเจ็บจะต้านทานได้หรือ?
  พื้นสั่นอย่างรุนแรงแต่ละหัวของมังกรรุมกัดกระเรียนและเหยียบนางลงกับพื้น
  ปากมังกรอสูรที่แข็งแรงกัดเข้าไปที่ร่างกายของกระเรียนพลังกระแทกรุนแรงบดขยี้นาง
  ฟึ่บ!
  ดวงวิญญาณบินออกจากร่างกระเรียนพยายามจะหนี
  แต่ก่อนที่จะหนีไปได้มังกรเก้าหัวก็มองนางด้วยความเหยียดหยามและสะบัดยางใหญ่ยักษ์ของมันใส่ดวงวิญญาณกระเรียนอีกครั้ง ดวงวิญญาณนางแนบติดพื้นพร้อมร้องครวญครางดั่งคนใจสลาย  ซือหยูบินไปจ้องมองนางอย่างไม่แยแส
  กระเรียนทั้งดูเยือกเย็นและโกรธแค้น
  “เจ้าไม่กล้าฆ่าข้าหรอก!”
  ถ้าเขาฆ่านางเทพกระเรียนจะปล่อยเขาไปหรือ? สิ่งแปลกปลอมจากต่างโลกที่ถูกตามล่าอย่างเขาจะไม่มีเทพคนใดช่วยตามล่าเพื่อเทพกระเรียนเลยหรือ?
  เมื่อเขาฆ่านางทั้งพันธมิตรบูรพาจะไม่ใช่ที่อยู่ของซือหยูอีกแล้ว
  ซือหยูพูดเบาๆ
  “ฆ่าเจ้ารึ?นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าคิดจะทำ”
  จากนั้นซือหยูนำโซ่ทมิฬออกมาจากมุกวิญญาณเก้าหยกและพันธนาการดวงวิญญาณของนางเอาไว้ โซ่นี้เคยใช้กับราชาเขตกลางมาก่อน มันมีพลังของจิตวิญญาณชั่วร้ายที่เหมาะอย่างมากในการใช้กับกระเรียนเทวะ