บทที่ 1491 ที่ฉันพูดคือคุณมันต้มตุ๋น
ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น เนี่ยอู๋หมิงยิ้มหน้าบานทันที “ฮ่าๆ เถ้าแก่โหย่วหมิง ดูเถ้าแก่พูดเข้าสิ มาคงมาคุณอะไรกัน ความสัมพันธ์ของพวกเรามองเป็นคนอื่นคนไกลไปได้…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
ประเด็นแม่นายมีปัญหาอะไรตรงไหนหรือเปล่า! ฉันพูดเรื่องคำสุภาพเหรอ! ที่ฉันพูดคือคุณมันต้มตุ๋น!
“ให้ฉันมาทำอะไร” เยี่ยหวันหวั่นชายตามองเนี่ยอู๋หมิง
ทันใดนั้น เนี่ยอู๋หมิงถูมือ หัวเราะเสียงเบาแล้วเอ่ยว่า “เถ้าแก่โหย่วหมิง…เถ้าแก่ว่า ภารกิจของทหารรับจ้างก็เสร็จสิ้นแล้ว…เถ้าแก่โหย่วหมิง บัญชีค้างจ่ายนี้ก็ควร…”
แน่ละเนี่ยอู๋หมิงมาหาเธอเพื่อถามหาเงินจริงๆ…
เยี่ยหวันหวั่นจ้องเนี่ยอู่หมิงอย่างไม่อยากเชื่อ ใครให้ความกล้าหมอนี่ทำหน้าหนามาขอเงินเธอกันเนี่ย!
“เนี่ยอู๋หมิง ทำไมคุณหน้าไม่อายขนาดนี้” เยี่ยหวันหวั่นถูกอีกฝ่ายทำโมโหจนหัวเราะแล้ว
“เถ้าแก่โหย่วหมิง ทำไมเหรอ…” เนี่ยอู๋หมิงมีสีหน้าไร้เดียงสา
“ยังมีหน้ามาถามฉันจะเอาเงิน…” เยี่ยหวันหวั่นแทบอยากตบเนี่ยอู๋หมิงให้ตาย “คุณรับภารกิจฉันแล้วยังรับภารกิจของตระกูลหยวน คุณหัวใส กินรวบสอง…นี่ก็แล้วไป แต่แม่งยังทำเอาฉันโดนกู่พิศวาสปีศาจนั่นด้วย…ผลลัพธ์ล่ะพวกคุณดีนักนะ ตบๆ ก้นเสร็จก็หนีไป…จนตอนนี้ฉันก็ยังไม่ได้ถอนกู่พิศวาส คุณว่ามาสิ จะชดเชยให้ฉันยังไง”
เนี่ยอู๋หมิงกะพริบตาปริบ “เอ๊ะ? กู่พิศวาส? ไม่ใช่กู่สองใจเป็นหนึ่งเหรอ กู่ชนิดนี้หาคนที่เถ้าแก่โหย่วหมิงชอบมาสักคนก็ถอนได้แล้ว ง่ายจะตายไป!”
เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจลึกก่อนพ่นออกไปโดยตรง “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง! ฉันต่างหากอยากถามคุณมากกว่า! หมอเขาบอกว่าเจ้าของนั่นมันวิวัฒนาการยกระดับในตัวฉันแล้ว!”
เนี่ยอู๋หมิงมองออกไปนอกหน้าต่าง จู่ๆ ก็ยิ้มเอ่ย “น้องโหย่วหมิง น้องโหย่วหมิงดูสิ วันนี้ลมดีแสงแดดสดใส อากาศไม่เลวเลยนะ”
เยี่ยหวันหวั่นมองนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ยิ้มเย็นเอ่ย “ตอนนี้เป็นกลางคืน”
“เถ้าแก่โหย่วหมิง ดูสิ ดวงจันทร์กลมมากเลยนะ!” เนี่ยอู๋หมิงรีบเอ่ย
“กลมไม่กลมฉันไม่รู้ แต่ฉันมองว่ามันใหญ่เหมือนหน้าคุณ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก
“ฮ่าๆๆ น้องโหย่วหมิง ฉันยังมีธุระ ไปก่อนนะ” เยี่บอู่หมิงทำท่าจะลุกขึ้นจากไป
“อย่าเพิ่งไปสิ” เยี่ยหวันหวั่นคว้าแขนของเนี่ยอู๋หมิงไว้ “ฉันยังไม่ได้ให้เงินเลยนะ”
ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น เนี่ยอู๋หมิงส่ายหน้ารัว “น้องโหย่วหมิงพูดอะไรน่ะ! น้องโหย่วหมิงกำลังหยามเกียรติฉันชัดๆ! พวกเราสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกัน
“เป็นพี่น้องร่วมสาบาน เป็นสหายรักที่จับมือกันมุ่งไปข้างหน้าบนเส้นทางชีวิตไง แค่ว่าจ้างทหารรับจ้างไม่กี่คนจากฉันถึงกับยังจะจ่ายเงินให้ฉัน นี่น้องโหย่วหมิงไม่ได้กำลังตบหน้าฉันเนี่ยอู๋หมิงอยู่เหรอ ห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาดเชียวนะ!”
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าโง่งม นี่มันเจ้าการละครมาเอง…
ตอนนั้นที่ประเทศจีนทำไมถึงไม่มีคนค้นพบว่าเนี่ยอู๋หมิงนี่ยังมีพรสวรรค์แบบนี้กันนะ ถ้ารู้อย่างนี้ก่อนแล้วปั้นเขาเป็นราชาจอเงิน นั่นจะไม่ใช่เรื่องง่ายสบายบรื๋อหรอกเหรอ!
อีกอย่าง พี่น้องร่วมสาบาน ตัวเธอไปสาบานกับเขาตอนไหนกัน
“เรื่องที่ฉันโดนกู่จะทำยังไง” เยี่ยหวันหวั่นชำเลืองมองเนี่ยอู๋หมิงแวบหนึ่ง
“ฮ่าๆ…น้องโหย่วหมิง น้องโหย่วหมิงเก่งกาจเกินไปแล้วจริงๆ เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินว่าคนโดนกู่สองใจเป็นหนึ่งทำให้กู่กลายพันธุ์เป็นกู่พิศสวาสได้ แต่น้องโหย่วหมิงวางใจได้ นี่มันจะไปยากอะไร แค่กู่พิศสวาสจิ๊บจ๊อยเท่านั้น…
“ด้วยหน้าตาของเถ้าแก่โหย่วหมิง หาคนที่รักด้วยสักคนยังไม่ใช่เรื่องง่ายดายหรอกเหรอ กู่นี่เอาชีวิตเถ้าแก่โหย่วหมิงไม่ได้หรอก” เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยอธิบาย
———————————————————-
บทที่ 1492 พาถังถังออกมาได้ไหม
เยี่ยหวันหวั่นแค่นหัวเราะ เนี่ยอู๋หมิงนี่พูดซะง่าย กู่ไม่ได้โดนตัวเขานี่
“น้องโหย่วหมิงวางใจเถอะ ถึงกู่พิศสวาสจะเป็นราชากู่ แต่เจตนาเดิมของกู่พิศสวาสคือทำให้คนมีความสุขยิ่งขึ้น…ไม่ใช่ต้องการเอาชีวิตของคนโดนกู่…
“กู่ชนิดนี้มีอะไรน่ากลัวกัน เฮ้อ…ฉันอยากหาคนมาโดนกู่พิศสวาสบ้าง…แต่น่าเสียดายไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสม…”
“อีกอย่างนะ น้องโหย่วหมิงรู้อะไรไหม อยากเลี้ยงกู่พิศสวาสยากลำบากมากนะ ทรัพยากรคนทรัพยากรสิ่งของทรัพยากรเงินที่เสียไปไม่ใช่อะไรที่น้องโหย่วหมิงจะจินตนาการได้…
“ก่อนหน้านี้มีคนตั้งไม่รู้เท่าไรเต็มใจเสียเงินทหาศาลก็เพื่อต้องการกู่พิศสวาส แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้มา…มูลค่าของกู่พิศสวาสนี้สูงจนน้องโหย่วหมิงไม่สามารถจินตนาเลยทีเดียว!” เนี่ยอู๋หมิงจ้องเยี่ยหวันหวั่นพร้อมเอ่ยปากอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ได้ยินคำพูดของเนี่ยอู๋หมิง เยี่ยหวันหวั่นโกรธจนตัวสั่น มุมปากกระตุกน้อยๆ แม่แกสิ…ตัวเธอโดนกู่พิษแล้ว พออยู่ในปากของเนี่ยอู๋หมิง เหมือนกับว่าเธอได้ประโยชน์ใหญ่หลวงซะงั้น!
“น้องโหย่วหมิง นี่ก็เพราะเป็นน้องโหย่วหมิงนะ ถ้าเป็นคนอื่นละก็ โดนกู่พิศวาสปีศาจเข้า ไม่เอาเงินล้านมาพวกเราก็ไม่มีทางปล่อยไปหรอก แต่…ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเรา พูดถึงเรื่องเงินอะไรนั่นหยาบคายไป…ใช่ไหมน้องโหย่วหมิง” เนี่ยอู๋หมิงยิ้มแฉ่งให้เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ใช่ปู่แกสิ!
ยามนี้ หลังสัมผัสถึงความหนังหน้าหนาของเนี่ยอู๋หมิง เยี่ยหวันหวั่นก็คร้านจะพูดคุยกับเขาต่อแล้ว
เห็นสีหน้าของเยี่ยหวันหวั่น เนี่ยอู่หมิงจึงค่อยพยักหน้าด้วยความพอใจแล้วเอ่ย “น้องโหย่วหมิง นี่ก็ถูกแล้วนี่นา…การโดนกู่พิศสวาสเองก็เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การฉลองและน่าดีใจนะ…จริงสิ อีกสองวันมาบ้านฉันสิ จอมมารน้อยนั่นอยากเจอเธอมาก”
ได้ยินเนี่ยอู๋หมิงพูดถึงถังถัง เยี่ยหวันหวั่นจึงค่อยมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย
“ช่วงนี้ถังถังเป็นยังไงบ้าง…” เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิงพลางเอ่ยถาม
“ไม่รู้สิ…ช่วงนี้ฉันกลับบ้านน้อยมาก ยังไงซะฉันก็เป็นเถ้าแก่ น้องโหย่วหมิงก็รู้ ธุรกิจเยอะ คบค้าสมาคมก็เยอะ…เฮ้อ…พี่ชายนี่…ทำยังไงได้” เวลานี้เนี่ยอู๋หมิงโยนสายตา ‘เธอก็เข้าใจ’ ให้เยี่ยหวันหวั่น
“ช่วงนี้ฉันว่างพอดี…ไปดูถังถังหน่อยได้” เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดชั่วครู่จากนั้นจึงตอบเนี่ยอู๋หมิง
เยี่ยหวันหวั่นคิดถึงถังถังมากจริงๆ ถ้าสามารถเจอถังถังได้อีก เธอก็เต็มอกเต็มใจอยู่แล้ว…
“ดีเลย อีกสองสามวันฉันจะมารับ” เนี่ยอู๋หมิงพยักหน้ารัว
“คุณพาถังถังออกมาไม่ได้เหรอ” เยี่ยหวันหวั่นลองถามเนี่ยอู๋หมิง
บ้านตระกูลเนี่ยมีสถานการณ์ยังไงเยี่ยหวันหวั่นไม่เข้าใจแม้แต่น้อยเธอจึงไม่อยากไปที่บ้านตระกูลเนี่ย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณนายกับแม่ของถังถังเหมือนจะไม่ต้อนรับเธอมาก…
ยังมีเนี่ยหลิงหลงของตระกูลเนี่ยคนนั้นด้วยเช่นกัน ถ้าไปตระกูลเนี่ยเกรงว่าตัวเองอาจจะหาเรื่องโดนดูแคลน กระทั่งว่าอาจไม่ได้เจอถังถัง ถ้าเนี่ยอู๋หมิงพาถังถังออกมาได้นั่นจึงจะดีที่สุด
แต่เนี่ยอู๋หมิงกลับส่ายหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความยากบรรยาย “น้องโหย่วหมิง พาถังถังออกมาทำไม น้องโหย่วหมิงไปบ้านฉันเลยก็ได้แล้ว ถึงตอนนั้นฉันจะให้พวกอี้จือฮวากับเจ้าคนตายมาด้วย ทุกคนกินข้าวด้วยกัน…
น้องโหย่วหมิงจะได้รู้จักบ้านฉันด้วย ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเรา มีอะไรต้องเกรงใจกัน น้องโหย่วหมิงก็มองตระกูลเนี่ยเป็นบ้านตัวเอง อยากมาดูถังถังตอนไหนก็มาได้เสมอ ไม่มีปัญหาสักนิด!”
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด