กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1195
นายน้อยคนที่สามของตระกูลโคชพูดทันที แล้วนายท่านมัวร์ก็ตกที่นั่งลำบาก
เขารู้ว่าตระกูลมัวร์นั้นด้อยกว่าตระกูลโคชจากอีสต์คลิฟฟ์ ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังและทำตัวสุภาพมาก ๆ แต่แค่สุภาพตามมารยาทปกติทั่วไปเท่านั้น ซึ่งนี่ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ ในการสร้างหรือสานสัมพันธ์กับตระกูลโคช
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย ดังนั้นเขาสามารถบอกได้ด้วยการมองเพียงแวบเดียว ว่านายน้อยคนที่สามของตระกูลโคชมาที่นี่ในวันนี้เพื่ออะไร
ไม่ว่าตระกูลโคชจะตั้งใจให้ความร่วมมือและอยากร่วมทำงานกับตระกูลมัวร์แค่ไหน นายท่านมัวร์ก็รู้ว่านายน้อยคนที่สามของตระกูลโคชจะต้องมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับจัสมิน… หลานสาวของเขาอย่างแน่นอน
ย้อนกลับไปในตอนนั้น ถ้าหากสถานการณ์นี้เกิดขึ้น และถ้าตระกูลโคชสนใจที่จะสร้างสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานกับตระกูลมัวร์ล่ะก็ นายท่านมัวร์ก็คงตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชายชราไม่ได้สนใจพวกเขาแล้ว
นี่เป็นเพราะ…ในสายตาของนายท่านมัวร์นั้น คนที่เหมาะจะเป็นหลานเขยของเขามากที่สุดนั้น จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก ปรมาจารย์เวด คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ในสถานะที่ไม่เรียกร้องความสนใจอะไรเลย
ถ้าปรมาจารย์เวดเต็มใจที่จะเป็นหลานเขยของเขา นายท่านมัวร์ก็จะไม่มีวันล้มเลิกความคิดนี้ แม้ว่าจะต้องแลกกับชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกนี้ก็ตาม
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือความจริงที่ว่า… หลานสาวของเขาก็หลงรักปรมาจารย์เวดเช่นกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะยาอายุวัฒนะของปรมาจารย์เวด เขาก็คงตายไปนานแล้ว เขาจะมีสุขภาพดีเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
ดังนั้นในสายตาของนายท่านมัวร์แล้ว ไม่มีใครในโลกนี้จะก้าวขึ้นมาเทียบกับชาร์ลีได้เลย
นี่เป็นเพราะชาร์ลีสามารถชุบชีวิตใหม่ให้เขาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ล้ำค่าเหนือสิ่งอื่นใด
เมื่อไทเลอร์ที่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆ มองเห็นภาพเหตุการณ์นี้ เขาก็กลัวว่าพ่อของเขาจะทำให้นายน้อยคนที่สามของตระกูลโคชต้องรู้สึกขุ่นเคือง ดังนั้นเขาจึงรีบก้าวออกมาข้างหน้าแล้วพูดว่า “โอ้ ขอบคุณมากเลยครับคุณโคช ของขวัญชิ้นนี้มีค่าและราคาแพงมาก จัสมินจะต้องชอบมากแน่ ๆ แต่เด็กคนนี้เป็นคนพูดไม่เก่ง ก็เลยไม่ค่อยยอมพูดอะไรออกมา ฉะนั้นผมในฐานะที่เป็นลุงของเขาก็จะขอรับของขวัญชิ้นนี้ในนามของเธอไว้ก็แล้วกันนะครับคุณโคช!”
จัสมินกำลังจะพูดแย้งขึ้นมา แต่นายท่านมัวร์ขยิบตาเป็นสัญญาณให้เธอ
หลังจากนั้นนายท่านมัวร์ก็กระซิบที่ข้างหูของเธอว่า “เราไม่ควรสร้างศัตรูกับคนที่เป็นมิตรต่อเรา เรารับของขวัญนี้ไปก่อน แล้วค่อยนำไปคืนเขาเป็นการส่วนตัวหลังจบงานเลี้ยงก็ได้”
จัสมินพยักหน้าเบา ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของคุณปู่
หลังจากนั้นไทเลอร์และรูเบน… ลูกชายของเขาก็พานายน้อยคนที่สามของตระกูลโคชเข้าไปนั่งประจำที่ในห้องจัดเลี้ยง
นายน้อยคนที่สามของตระกูลโคชดูไม่ค่อยสนใจไยดีกับผู้คนนัก แต่เขาให้การทักทายกับไอแซค แล้วพูดว่า “ทำไมไม่มานั่งด้วยกันล่ะครับ… คุณคาเมรอน?”
ไอแซคอยากจะหันไปมองชาร์ลีโดยไม่รู้ตัว แต่เขาจดจำขึ้นได้ทันควันว่า ชาร์ลีไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่งในการสื่อสารกับชาร์ลีมากเกินไป
ในขณะที่เขากำลังจะตอบปฏิเสธคำชวนของนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคชอยู่นั้น จู่ ๆ นายท่านมัวร์ก็บอกกับชาร์ลีว่า “ไปกันเถอะครับ… ปรมาจารย์เวด”
ในห้องจัดเลี้ยงแห่งนี้มีโต๊ะสำหรับมื้อเย็นอยู่หกโต๊ะ แต่หนึ่งในนั้นเป็นโต๊ะหลักสำหรับแขกคนสำคัญ
ซึ่งก็เป็นอย่างที่ชื่อบอก โต๊ะหลักสำหรับแขกคนสำคัญคือโต๊ะที่เจ้าภาพจะคอยให้การดูแลและบริการแขกผู้มีเกียรติมากที่สุด
นายท่านมัวร์ ไทเลอร์ รูเบน และจัสมินจะนั่งที่โต๊ะหลักสำหรับแขกคนสำคัญที่มีอยู่สิบที่นั่ง
ที่เหลืออีกหกที่นั่งจะกันไว้ให้กับแขกที่มาร่วมงานตามลำดับอาวุโสและความแข็งแกร่ง
ไทเลอร์และรูเบนได้เชิญนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคชมานั่งที่โต๊ะนี้ตามปกติ ส่วนนายท่านมัวร์ก็เชิญชาร์ลีมานั่งที่โต๊ะนี้ด้วยเหมือนกัน
ที่เหลืออีกสี่ที่นั่งได้กันไว้ให้ไอแซค ดอริส ทราวิส และเกรแฮม มานั่งในภายหลัง
ถึงแม้ว่าซีคจะทรงอำนาจและมีความสามารถมากเช่นกัน แต่ความแข็งแกร่งของเขายังด้อยกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเกรแฮม ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับโอกาสให้นั่งที่โต๊ะหลักสำหรับแขกคนสำคัญ
ออโรร่าผู้แคล่วคล่องก็ยังอยากนั่งโต๊ะเดียวกับปรมาจารย์เวดและพ่อของเธอด้วยเลย