พอเหรินหวงพูดออกมาเช่นนั้น ประมุขวิหารหยกวิญญาณก็มองตรงไปที่จวินอู๋เสีย เพราะเขารู้ว่าใครบางคนมาจากที่ไหน
จวินอู๋เสียกระแอมในลำคอและพูดว่า “เรื่องของอาณาจักรล่าง อาจารย์ปู่ไม่ต้องกังวล เพราะว่า……นั่นเป็นถิ่นข้า”
“หือ?” เหรินหวงมองนางด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ถิ่นของนาง? หมายความว่ายังไง?
ประมุขวิหารหยกวิญญาณอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาอธิบายว่า “ปรมาจารย์เหรินหวงใช่ไหม? ตอนที่ศิษย์หลานของท่านทำลายสิบสองวิหาร นางไม่ได้ใช้กองกำลังของวิหารหยกวิญญาณหรอกนะ แต่เป็นกองกำลังที่นางนำมาเองต่างหาก หลังจากสิบสองวิหารถูกถอนรากถอนโคนหมดแล้ว กองกำลังนั้นก็หายไปจากอาณาจักรกลางอย่างไร้ร่องรอย ท่านเดาได้ไหมว่ากองกำลังนั้นมาจากที่ไหน?” novel-lucky
เหรินหวงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่ามีนัยบางอย่างอยู่ในคำพูดของประมุขวิหารหยกวิญญาณ เขามองไปที่จวินอู๋เสียอย่างมีความหมาย
จวินอู๋เสียพูดขึ้นว่า “พวกเขามาจากอาณาจักรล่างเหมือนกับข้า”
เสียงของนางนิ่งสงบ แต่คำพูดของนางทำให้เหรินหวงมองไปที่นางอย่างไม่อยากจะเชื่อ นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว! อาณาจักรล่างมีพลังวิญญาณเบาบางขนาดไหน? มันทำให้จวินอู๋เสียกลายเป็นอัจฉริยะที่ผิดปกติเช่นนี้ได้อย่างไร?
ตอนที่เขาพบเด็กคนนี้เป็นครั้งแรก เขาคิดว่าจวินอู๋เสียมีพรสวรรค์มาก ในอาณาจักรกลาง จวินอู๋เสียก็นับว่าเป็นมังกรและหงส์ในหมู่มนุษย์แล้ว เขาจะคิดได้อย่างไรว่าจวินอู๋เสียเป็นคนอาณาจักรล่าง? มันยากมากที่จะฝึกในบรรลุถึงขั้นพลังวิญญาณสีม่วง ถ้าเขาจำไม่ผิด ตอนที่เขาเจอจวินอู๋เสียที่ภูเขาฝูเหยา นางก็อยู่ในขั้นพลังวิญญาณสีม่วงแล้ว……
นางเป็นเพียงวัยรุ่นเท่านั้น ก็สามารถบรรลุถึงขั้นนั้นได้แล้ว แถมยังฝึกฝนอยู่ในอาณาจักรล่างด้วย!
เหรินหวงคิดว่าตนได้เห็นมาหมดทุกอย่างแล้ว แต่เขายังอดประหลาดใจกับที่มาของนางไม่ได้
ผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงจากอาณาจักรล่าง ในช่วงเวลาสั้นๆแค่สองปี ก็เกือบจะก้าวเข้าสู่พลังวิญญาณขั้นสีทอง นางอายุแค่เท่าไรเอง?
“เจ้าพูดจริงหรือ?” เหรินหวงไม่รู้สึกตัวเลยว่าเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“เป็นความจริงทุกคำ”
เหรินหวงตบต้นขาของตนอย่างตื่นเต้นยินดี!
“เด็กดี! ข้าคิดอยู่แล้วว่าเจ้าเป็นสัตว์ประหลาดหายากที่พันปีจะมีสักคน แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะเหนือกว่านั้นอีก! พลังวิญญาณสีเงินจากอาณาจักรล่าง……ไม่สิ……อีกไม่นานเจ้าก็จะเข้าสู่พลังวิญญาณสีทองแล้ว ฮ่าๆๆ……นี่มัน……อัจฉริยะแห่งยุคเลย!” เหรินหวงหัวเราะร่า เขาพอใจศิษย์หลานคนนี้มาก การที่จวินอู๋เสียบรรลุถึงขั้นนี้ได้ทั้งๆที่มาจากอาณาจักรล่าง ทำให้เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้ามาที่อาณาจักรกลางเมื่อไร?” เหรินหวงถามพร้อมรอยยิ้มกว้าง
“ตอนที่ข้ามาถึงภูเขาฝูเหยา ข้าเพิ่งมาถึงอาณาจักรกลางได้ไม่นาน” นางตอบตามตรง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็ยิ่งปลื้มมากขึ้นไปอีกและระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง จากคำพูดของนาง นางเพิ่งอยู่ในอาณาจักรกลางได้แค่สองปีกว่านิดๆเท่านั้น และในสองปีนี้ นางได้ก้าวจากพลังวิญญาณสีม่วงเป็นพลังวิญญาณสีเงิน หากมีเวลามากกว่านี้ ด้วยพรสวรรค์ของอัจฉริยะตัวน้อยคนนี้ แม้แต่คนของอาณาจักรบนก็จะไม่สามารถเทียบนางได้
“ข้ามีลางสังหรณ์อย่างแรงกล้าว่าเจ้าจะสร้างความปวดหัวให้อาณาจักรบนได้มากแน่ๆ” ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งมีความสุข เขาดีใจมากที่ได้พบคนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของอาณาจักรบนได้ นอกจากนี้คนผู้นี้ยังเป็นคนที่เขาเลือกให้เป็นศิษย์หลานของตนด้วย
ด้วยพลังวิญญาณที่เบาบางในอาณาจักรล่าง คนที่สามารถบรรลุถึงขั้นพลังวิญญาณสีม่วงได้นั้นหายากมาก แถมจวินอู๋เสียอยู่ในอาณาจักรกลางแค่สองปีก็เกือบไปถึงจุดสูงสุดของพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรกลางแล้ว ถ้าไม่ใช่ความเร็วของปีศาจแล้วจะเป็นอะไร?