“-335”
“-301”
ด้วยเสียงดังสนั่น ค้อนยักษ์สีทองแตกสลายพร้อมกับสร้างความเสียหายมหาศาลใส่นักฆ่าและนักรบโล่คนนั้นจนตายทันที
เสี่ยวเฟิงรวดเร็วจนทุกคนต้องตะลึง พวกเขารอกันมาเนิ่นนานเพื่อซุ่มโจมตีทั้งสองคนนี้และมันน่าจะต้องสำเร็จสิ แต่เขากลับฆ่าเพื่อนร่วมทีมของตัวเองไปถึง 2 คน!
“บ้าไปแล้ว! รีบหนีออกไปจากที่นี่เร็วเข้า!”
ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นว่านี่มันคือเรื่องบ้าอะไร ทุกคนจึงวิ่งหนีกันไปทันที
ชู้ตเตอร์คนนั้นเป็นคนที่รวดเร็วที่สุด เขาหมุนตัวหนีไปอย่างไม่ลังเล
ฮันเตอร์เองก็ตามเขาไป ในขณะที่นักเวทย์เองก็หยุดร่ายมนต์แล้วก็วิ่งหนีตามไป เขาหวังว่าสกิลงูไฟจะสกัดการเคลื่อนไหวของเสี่ยวเฟิงไว้ได้
นักรบคนสุดท้ายเองถอยกลับออกมาหลังจากที่พุ่งตัวเข้าใส่ติงติง
“หมอนั่นเป็นใครวะ? นักรบที่ใส่อาวุธผิดรึไง!”
เพื่อนของเขาสี่คนวิ่งหนีไปโดยไม่หันกลับมามองเลย พระคนนี้สุดยอดมากนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นว่าพระใช้สกิลฆ่านักรบโล่ได้ แถมความเสียหายยังถึง 300 อีก ระบบต้องรวนแน่ๆ!
ทว่า พวกที่วิ่งหนีไปไม่นานนักก็โดนศรน้ำแข็งทำให้ช้าลงกันถ้วนหน้า
“พวกแกกล้าดียังไงถึงได้รอพวกเราอยู่ที่นี่! น่าสมเพช!”
ติงติงวิ่งเข้ามาจากด้านหลังด้วยสัตว์ขี่ของเธอ หญิงสาวหมุนตัวด้วยท่วงท่าอันงดงามแล้วยิงแผลงศรใส่นักรบคนนั้น
ในจังหวะเดียวกัน ม้าสีขาวตัวสูงใหญ่กูได้พุ่งเข้าไปดักหน้าพวกที่วิ่งหนีไปทั้ง 4 คน
“พวกเราไม่ได้ตั้งใจ!”
นักเวทย์พยายามแก้ต่าง
“-340”
เสี่ยวเฟิงใช้คทาทุบหัวของนักเวทย์คนนั้นโดยไม่ได้หันไปมองจนตายทันที
“รุมแม่งเลย! มันก็เป็นแค่พระ ฆ่าพวกเราไม่หมดหรอก!”
นักรบที่จัดการหมอกน้ำแข็งได้แล้วก็พุ่งเข้าหาเสี่ยวเฟิง
ชู้ตเตอร์กับฮันเตอร์เองก็โจมตีใส่เสี่ยวเฟิงพร้อมกันอีกครั้ง วงแหวนทั้งสองวงปรากฎขึ้นพร้อมด้วยจระเข้กับอุรังอุตังพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม แถมยังใช้ทริปเปิ้ลช้อตกับกับดักน้ำแข็งด้วย
ชายหนุ่มเองก็ทำแค่เพียงใช้คทาทุบหัวพวกเขา
“-317”
นักรบตายทันที ถ้าไม่มีใครคอยสนับสนุนพลังชีวิตของเขามีไม่เกิน 200 ด้วยซ้ำ ร่างของเขากลายเป็นแสงสีขาวแล้วก็สลายหายไป
“น่ากลัวเกินไปแล้ว! หมอนี่มันNPCรึไง? แยกกันหนีดีกว่า!”
นักธนูทั้งสองหวาดกลัวสุดๆ นี่มันไม่ต่างอะไรจากการต่อสู้กับบอสเลย บางทีพระคนนี้อาจจะเป็นNPCก็ได้
ตอนแรกพวกเขาก็มั่นใจอยู่ แต่พอรู้ว่าสู้เขาไม่ได้ก็เริ่มคิดที่จะหนีไปแล้วใช้สัตว์เลี้ยงทั้งสองคอยถ่วงเวลาเอาไว้
ทั้งจระเข้และอุรังอุตังพวกนั้นต่างก็ทรงพลังและมีสกิลอยู่บ้างแถมยังมีพลังชีวิตมากกว่า 100 อีก น่าจะช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ได้ซักครึ่งนาที
ทว่า พวกเขาลืมไปเลยว่าเสี่ยวเฟิงนั้นไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ติงติงเองก็ยังคอยช่วยเหลือเขาอยู่ ชายหนุ่มพุ่งเข้าไปดักหน้าเขาแล้วเมื่อพวกเขาหนีไปอีกทางก็เจอติงติงคอยดักอยู่
ฮันเตอร์ยืนนิ่งและหนีไปไหนไม่ได้ น้ำแข็งใต้เท้าของเขาระเบิดออกและแช่แข็งเขาทันที
ในฐานะของอาชีพเดียวกัน เขารู้ดีว่านี่เป็นกับดักน้ำแข็งที่ใช้ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์หรือผู้เล่นได้ และเขาจะต้องตายแน่ๆหากเหยียบกับดักนี้เข้า
พร้อมกันนั้นก็มีหมาป่าสีดำพร้อมด้วยห่าฝนธนูกำลังพุ่งเข้าใส่เขาเช่นกัน
เสี่ยวเฟิงเมินฮันเตอร์ที่ตายแน่ๆไปแล้วหันไปเล็งชู้ตเตอร์แทน
เสี่ยวสุยเร่งความเร็วขึ้นอีกแล้วทิ้งห่างสัตว์เลี้ยงทั้งสองมาได้
ชู้ตเตอร์นี่น่าจะเป้นผู้เล่นที่มีฝีมือพอตัวและยังมีความสามารถในการปัดป้องการโจมตีได้ด้วย ดังนั้นป่าแห่งนี้จึงไม่ใช่สถานที่ยุ่งยากสำหรับเขาเท่าไหร่นัก
เสี่ยวสุยที่สามารถเร่งความเร็วจนจับฮานเฟิงได้ นับประสาอะไรกับชู้ตเตอร์คนนี้
“ใจเย็นก่อนพวก! เลเวลมันเก็บยากนะ! ไว้ชีวิตฉันเถอะ…”
ม้าสีขาวสิ่งตามมาทันและชู้ตเตอร์คนนี้พยายามร้องขอชีวิต
“ที่เขตตรงกลางเป็นยังไง?”
เสี่ยวเฟิงถามก่อน
“พวกเราไม่ได้โกหก ตรงกลางนั่นมีหมอกสีดำจริงๆ พวกเรามาถึงที่นี่ได้ 3 ชั่วโมงกว่าๆจากเมืองหลักและพยายามหาทางเข้าที่หาเท่าไรห่ก็ไม่เจอซักที” ชู้ตเตอรืตอบตามตรง
“ยากขนาดนั้นเลยเหรอ?” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
“พวกเราก็ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะต้องเสียสละเพื่อนร่วมทีมเพื่อหาทางเข้าที่ดีกว่านี้ จากนั้นก็มีพระที่มีสัตว์ขี่ระดับสูงโผล่มาแล้วก็ใช้โพชั่นที่ซื้อมาจากงานประมูลนั่นเข้าไป”
ชู้ตเตอร์คนนี้มีประสบการณ์พอสมควร เขาสามารถหาวิธีแก้ปัญหาได้ระหว่างที่เดินวนรอบๆ
“พวกเราก็เลยอยากจะจัดการพวกคนที่ฝ่าเข้ามาที่นี่ แต่ไม่คิดว่านายจะเป็นผู้เล่นมีฝีมือแบบนี้”
เสี่ยวเฟิงไม่ได้ตอบอะไรกลับไปและชู้ตเตอร์ก็พูดต่อ “มีคนมากมายที่เริ่มรับเควสนี้แล้ว รวมไปถึงกิลด์ใหญ่ด้วย แต่พวกเราสามารถเป็นเพื่อนกันได้นะ ฉันจะคอยช่วยนายถ้ามีปัญหาในอนาคตเอง”
“ดูเหมือนว่านายจะรู้ดีนี่ว่าเกมนี้มันเก็บเลเวลยาก ถ้างั้นฉันจะช่วยพานายกลับเมืองก็แล้วกัน”
เสี่ยวเฟิงพยักหน้าแล้วก็ใช้สกิลค้อนยักษ์ใส่ชู้ตเตอร์
“-301”
“นายทำอะ…”
พลังชีวิตของเขาหมดหลอดแล้วตายทันที
ชายหนุ่มปรบมือแล้วก็หมุนตัวกลับมาเห็นติงติงที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา
“ฆ่าเขาแล้วเหรอ?”
เธอถามขึ้นมา มั่นใจได้เลยว่าเธอน่าจะจัดการฮันเตอร์คนนั้นไปแล้ว
“ไปที่เขตกลางกันเถอะ จะได้ไม่เสียเวลา”
เสี่ยวเฟิงพยักหน้า ถ้าเกิดว่าหมอกนั่นลดพลังชีวิตได้เป็น % ตามที่พวกนั้นบอก มันจะยิ่งเป้นการยากยิ่งขึ้นไปอีก
“อย่ากังวลไปเลย ระบบมันคงไม่ให้เควสยากบรรลัยแบบนั้นมาหรอก”
แน่นอนว่าติงติงเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี เธอรีบเข้ามากอดแขนเสี่ยวเฟิงและพูดมากอีกครั้ง
“ท่านเสี่ยวสุดยอดไปเลย! ทำยังไงถึงมีสกิลแบบนั้นล่ะ? พวกนั้นโดนนายฆ่าหมดเลยนะ! ตอนแรกก็ว่าจะให้นายบัฟฉันซะหน่อยแต่กลายเป็นว่านายจัดการพวกนั้นจนเกลี้ยงเลย”
ทั้งสองอยู่ไม่ห่างจากใจกลางกันแล้ว ดังนั้นหมอกเหล่านั้นจึงปรากฎขึ้นในสายตาของพวกเขา
หมอกสีดำนี่ปกคลุมยาวขึ้นไปถึงท้องฟ้าราวกับว่าเป็นบาเรีย
หมอกนี่หนาและวิสัยทัศน์ต่ำมาก เสี่ยวเฟิงพยายามจะเข้าไปแล้วระบบก็แจ้งเตือนว่าเขากำลังอยู่ใน หมอกสงคราม พลังชีวิตของเขาจะลดลง 1%/วินาที
นี่น่าจะเป็นชื่อของหมอกนั่น มันน่ากลัวจนเสี่ยวเฟิงต้องรีบถอยออกมาทันที มันมืดและมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ต่อให้มีมอนสเตอร์เป็นร้อยตัวอยู่ในนั้นเขาก็ไม่เห็น
“มีอะไรเหรอ?”
ติงติงที่ยืนอยู่ด้านนอกถามเขาทันทีที่ออกมา
“ต้องไปทางอื่น หมอกตรงนี้มันหนาเกินไป”
เสี่ยวเฟิงส่ายหัวแล้วฟื้นพลังชีวิตกลับมา เขากำลังจะเดินไปอีกทางเพื่อหาที่ที่หมอกมันเบาบางลงกว่านี้
ทั้งสองเดินไปรอบๆหมอกนี้และก็พบกับทีมผู้เล่นคนอื่นมากมายที่สิ้นหวังไม่ต่างอะไรจากพวกเขาเลย แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาโจมตีพวกเขาเหมือนกับพวกเมื่อกี้
“หา?”
เสี่ยวเฟิงขมวดคิ้วและจ้องไปยังคนพวกนั้น นักธนูคนนึงกำลังมองไปยังหมอกนี้ด้วยความฉงน ชื่อสีแดงที่ปรากฎบนหัวของเขาคือ ฮานเฟิง
ชายหนุ่มจำได้ทันที ฮานเฟิงคือยอดคนเกรียนแห่งเกมนี้ แถมยังหลอกเขาไปแล้วครั้งนึงด้วย และน่าจะก่อคดีไปมากมาย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชื่อของเขาเป็นสีแดง