ตอนที่ 1261 เมืองที่อยู่นอกเหนือความเข้าใจ โดย Ink Stone_Fantasy
“เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” ซิลเวียอุทานออกมา
“ถูกต้อง” ทิลลียิ้มมุมปากขึ้นมา ก่อนจะเหลือบมองดูหัวหน้าแม่บ้านแห่งเกาะสลีปปิ้ง แม้แต่คามิล่าที่ไม่สนใจในเรื่องนี้ก็ยังจ้องมองดูการต่อสู้ของเครื่องบินทั้งสองลำในตอนสุดท้ายตาไม่กะพริบ
หลังจากที่เครื่องหมายเลข 2 ใช้ประโยชน์จากลมที่พัดขึ้นสลัดหลุดการไล่ตามได้แล้ว ผลการต่อสู้ก็ได้ออกมาเป็นที่เรียบร้อย
แต่เมื่อมาถึงตอนนี้ แพ้ชนะมันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว
เธอมองเห็นสิ่งที่ตัวเองอยากได้
อย่างเช่นในสถานการณ์ต้องสู้กัน ฝ่ายที่มีจำนวนเยอะกว่านั้นจะเป็นฝ่ายที่มีความได้เปรียบอย่างมาก พวกเขาสามารถจัดกำลังในระดับความสูงและความเร็วต่างๆ เพื่อบีบให้อีกฝ่ายจนมุมได้
แต่ตัวเลขนี้ไม่ได้หมายถึงความแข็งแกร่งที่ทั้งสองฝ่ายมี เมื่อคิดต่อไปอีกก็จะเห็นได้ว่าถึงแม้โดยภาพรวมจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ฝ่ายที่มีกำลังน้อยกว่าก็สามารถใช้ความคล่องตัวและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบขบวนในการหาโอกาสโจมตีได้
ถ้าตอนนี้เป้าหมายคืออสูรสยองที่มีความคล่องตัว เช่นนั้นการรบแบบเป็นทีมก็จะยิ่งมีความสำคัญ
นอกจากนี้เธอยังสังเกตเห็นว่าเวลาที่สู้กัน ฝ่ายที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าจะมีโอกาสชนะมากกว่า ถ้าหากเข้าไปพัวพันกับศัตรู แล้วค่อยให้อีกทีมโจมตีลงมาจากด้านบน บางทีอาจจะเป็นการเปิดฉากโจมตีที่ดีอย่างมาก
ส่วนทีมหนึ่งจะมีกี่คนถึงจะเหมาะสม จะเปลี่ยนรูปแบบยังไงในตอนที่เข้าไปโจมตีระยะไกล นี่คือสิ่งที่เธอต้องทำการศึกษาต่อไป
แต่ทิลลีเองก็รู้ดี ว่าการฝึกซ้อมแบบนี้นั้นเป็นแค่ประสบการณ์ของการสู้กันระหว่างเครื่องบินปีกสองชั้น แต่ถ้าอยากจะเขียนเนื้อหาส่วนต่อไปในคู่มือการบินจริงๆ เช่นนั้นก็มีแต่ต้องเข้าไปสัมผัสได้สงครามจริงๆ ถึงจะรู้ได้
สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกดีก็คือนักเรียนกลุ่มนี้เติบโตเร็วกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้ หากเป็นแบบนี้ต่อไป พอถึงวันที่ ‘เฮฟเว่นเฟลม’ ทำการผลิตออกมาอย่างเป็นทางการ อัศวินอากาศก็คงจะไปลองสู้ศึกจริงที่วูล์ฟฮาร์ทกับอีเทอร์นอลวินเทอร์ได้แล้ว
ส่วนเธอก็ไม่มีทางพลาดสงครามแห่งการแก้แค้นนี้แน่นอน
ยูนิคอร์นนั้นเป็นแค่เครื่องบินฝึกสอน แต่เครื่องบินลำใหม่ล่าสุดที่พี่ชายของเธอสัญญาเอาไว้น่าจะกำลังสร้างอยู่ล่ะมั้ง
เอาไว้ฝึกซ้อมเสร็จแล้ว เธอไปที่ปราสาทกระตุ้นให้เขาเร่งมือหน่อยดีกว่า
ในเวลานี้เครื่องบินลำสุดท้ายค่อยๆ ร่อนลงมาจอดบนสนามบิน
ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือว่าคนที่มาดูการฝึกซ้อมต่างก็ปรบมือขึ้นมาดังกระหึ่ม
“ตอนนี้หม่อมฉันรู้แล้วเพคะว่าทำไมพระองค์ถึงทรงแบ่งพวกเขาออกเป็นส่องฝ่ายชัดเจนขนาดนี้” ซิลเวียอุทานออกมาเบาๆ
“ถึงแม้จะคิดไว้แบบนั้น แต่ข้าก็คิดไม่ถึงว่าผลมันจะออกมาดีขนาดนี้ ตอนแรกข้านึกว่าต้องใช้เวลาอีกสิบกว่าวันถึงจะได้เป็นภาพแบบนี้” ทิลลียิ้มขึ้นมา ก่อนจะโบกมือเรียกอีเกิลเฟซแล้วยื่นรายชื่อฉบับใหม่ให้อีกฝ่าย “ในเมื่อกลับมากันหมดแล้ว อย่างนั้นก็เรียกนักเรียนกลุ่มต่อไปเตรียมตัวเลย”
รอข้าก่อนเถอะ…เธอมองไปทางเหนือ ข้าให้พวกปีศาจมันได้ชดใช้ในสิ่งที่พวกมันทำ
…..
“อูววว……”
ด้านนอกมีเสียงหวูดดังยาวๆ ขึ้นมา นี่หมายความว่าด้านหน้ามีเรือกำลังแล่นสวนมา หลังจากที่เข้ามาในอาณาจักรเกรย์คาสเซิล เขาก็ได้ยินเสียงแบบนี้บ่อยขึ้นมาก แมนเฟลแทบจะได้ยินเสียงนี้ทุกๆ ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ และตอนนี้เสียงที่ว่านี้ก็ดังขึ้นทุกๆ 15 นาทีหรืออาจจะสั้นกว่านั้น
ในอดีตเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเกรย์คาสเซิลจะเป็นอาณาจักรที่มีการเดินเรือที่พัฒนามากขนาดนี้
ในภาพจำของขุนนางวูล์ฟฮาร์ททั่วๆ ไป ถึงแม้อาณาจักรนี้จะมีพื้นที่กว้างขวาง แต่ความอุดมสมบูรณ์ไม่อาจสู้วูล์ฟฮาร์ทได้ ถ้าพูดถึงความร่ำรวยแล้ว อาณาจักรดอว์นนั้นมีความร่ำรวยมากกว่าเสียอีก
แต่ตอนนี้เหมือนมันจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว
ทว่าพอมาคิดๆ ดูการที่อาณาจักรเกรย์คาสเซิลจะเจริญรุ่งเรืองถึงเพียงนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะแค่ข่าวลือจากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่งยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วนับประสาอะไรกับข่าวลือที่ข้ามไปมาระหว่างสองอาณาจักรล่ะ อันที่จริงอีกฝ่ายนั้นเคยเอาชนะศาสนจักรมาแล้ว เพียงแค่จุดนี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ความไม่ธรรมดาของราชาแห่งอาณาจักรนี้แล้ว
ไม่รู้ว่าต้องนั่งเรือไปอีกนานเท่าไรถึงจะไปถึงเมืองเนเวอร์วินเทอร์ที่ร่ำลือกัน
พอคิดถึงตรงนี้ แมนเฟลก็หาวขึ้นมาด้วยความเบื่อหน่าย
การเดินทางบนทะเลอันยาวนานนั้นสบายกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก หลังจากที่เรือเดินทางไปถึงอ่าวทางเหนือของอาณาจักรดอว์น มันก็ไม่ได้ออกเดินทางต่อไปยังท่าเรือต่อไปในทันที หากแต่มีการจัดการเรือที่แออัดยัดเยียดรอบหนึ่งก่อน คนที่มีอาการเมาเรืออย่างรุนแรงก็ให้เปลี่ยนไปเดินทางภาคพื้นดิน คนอื่นๆ จึงมีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ คนของอาณาจักรดอว์นมีการสร้างที่พักชั่วคราวขนาดใหญ่ขึ้นมาตรงบริเวณท่าเรือ เหมือนกับพวกเขาเตรียมพร้อมเอาไว้นานแล้ว ระดับความร่วมมือของพวกเขากับเกรย์คาสเซิลเรียกได้ว่าไม่มีช่องโหว่เลย ถ้าไม่เป็นเพราะธงที่ปลิวไสวอยู่บนกำแพง เขาคงจะคิดว่าที่ี่นี่เป็นดินแดนของราชาแห่งเกรย์คาสเซิลไปแล้ว
เห็นได้ชัดว่าสองอาณาจักรนี้ทำข้อตกลงบางอย่างร่วมกันเพื่อที่จะอพยพพวกเขามา…ไม่รู้ว่าฝ่าบาทโรแลนด์ วิมเบิลดันต้องจ่ายไปเท่าไร
ส่วนแผลฟกช้ำบนร่างกายเขาก็ดีขึ้นมาก ใช้เวลาประมาณอาทิตย์นึงก็หายจนเกือบเป็นปกติแล้ว เขาไม่ได้ใช้ยาวิเศษที่ผู้หญิงสองคนนั้นให้มาอีกเลย
ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเธอเป็นอย่างไรบ้าง….แมนเฟลล้วงเข้าไปอกเพื่อคลำยาที่ถูกห่อเอาไว้ ภายในหัวเขามีภาพทั้งสองคนลอยขึ้นมา ถึงแม้พวกเธอจะดูผอมแห้งและสกปรก แต่เขาก็ยังคงเห็นแสงที่เปล่งประกายออกมาจากเส้นผมที่แตกแห้งของอีกฝ่าย ถ้าล้างเนื้อล้างตัวดีๆ หน่อย พวกเธอก็น่าจะดูดีทีเดียว
หวังว่าพวกเธอทั้งสองคนจะไปถึงเกรย์คาสเซิลอย่างปลอดภัยนะ เขาคิดในใจ ถ้าหากสามารถหลุดพ้นจากความเป็นทาสได้ พวกเธอก็น่าจะปลดเปลื้องอดีตอันมืดมนออกไปและต้อนรับชีวิตใหม่ได้
ทันใดนั้นเอง แมนเฟลพลันได้ยินเสียงหึ่งๆ แปลกๆ ดังนั้นมา เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างโฉบผ่านหัวของเขาไป
จากนั้นในห้องโดยสารที่อยู่ด้านบนก็มีเสียงฝีเท้าดังวุ่นวายขึ้นมา
“หนวกหูจริงๆ เลย…”
“เจ้าพวกนั้นมันทำอะไรกันเนี่ย? ขอนอนเงียบๆ หน่อยไม่ได้เหรอไง?”
รอบๆ มีคนบ่นขึ้นมาทันที
แต่แมนเฟลกลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เขาพลิกตัวลงจากเตียงแล้วยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่าง
ถ้าเขาฟังไม่ผิดล่ะก็ ทิศทางที่เสียงฝีเท้าเหล่านั้นวิ่งไป เหมือนจะไปทางเดียวกับเสียงหึ่งๆ นั่น
ด้านนอกยังคงเป็นท้องฟ้าสีครามและทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ดูแล้วเหมือนจะเป็นปกติทุกอย่าง ยกเว้นก็แต่นกตัวใหญ่ 2 – 3 ตัวกำลังบินหยอกล้อกัน….
เดี๋ยวๆ นั่นมันนกอะไร?
แมนเฟลขยี้ตา เขาแทบจะไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็นอยู่ ในตอนที่ ‘นก’ พุ่งลงมาที่ทะเล ปีกกับหางที่ยืดตรงและมีเหลี่ยมมีมุมของมัน ดูยังไงก็ไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตตามปกติเลย!
กระทั่งพวกมันบินผ่านด้านบนเรืออีกรอบ เขาถึงได้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ตาลายเพราะว่าอยู่ใต้เรือนานเกินไป แต่เจ้าสิ่งนั้นมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจริงๆ หากแต่เป็นเหมือนสิ่งที่ใช้โลหะสร้างขึ้นมา ที่น่าเหลือเชื่อมากกว่านั้น เขาเหมือนจะมองเห็นว่าบนนั้นมีคนนั่งอยู่ด้วย!
แมนเฟลอ้าปาก เขาคิดอยากจะตะโกนออกมา แต่เขากลับพบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออกแม้แต่นิดเดียว มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงกัน? ถึงแม้เขาจะค่อยๆ ยอมรับเรื่องการมีอยู่ของกองทัพที่หนึ่งและเครื่องจักรไอน้ำ เรื่องความเกรียงไกรของราชาแห่งเกรย์คาสเซิลเขาก็มีคิดเอาไว้แล้วบ้าง แต่ภาพเหตุการณ์แบบนี้มันเกินไปจากขอบเขตความเข้าใจของเขาอย่างมาก
ถึงแม้จะเป็นอาณาจักรเหมือนกัน แต่เขากลับรู้สึกเหมือนว่าเกรย์คาสเซิลกับวูล์ฟฮาร์ทนั้นอยู่กันคนละโลกเลย….ไม่ ไม่ใช่แค่วูล์ฟฮาร์ท แม้แต่อีเทอร์นอลวินเทอร์กับอาณาจักรดอว์นก็เกรงว่าจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงด้วย ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างแล้ว
ตั้งแต่เมื่อไรกัน ที่อาณาจักรอื่นถูกทิ้งห่างไปไกลขนาดนี้?
ในขณะที่แมนเฟลกำลังคิดอย่างสับสน บนเรือพลันมีเสียงหวูดดังขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เสียงหวูดดังยาวกว่าทุกที่ ปกตินี่มันจะเป็นเสียงหวูดที่เตือนเหล่าผู้อพยพว่าเรือกำลังจะเทียบท่าแล้ว
เขามาถึงเนเวอร์วินเทอร์แล้ว
……………………………………………………………………