หลังจากตั้งเป้าหมายใหม่ในการย้ายไปยังอาณาจักรล่าง ประมุขวิหารหยกวิญญาณก็แจ้งการตัดสินใจของเขาให้เหล่าศิษย์ได้รู้ เมื่อรู้ข่าวบรรดาสาวๆก็ตั้งตารอ พวกนางเก็บตัวจากโลกภายนอกมานาน จึงแทบทนไม่ไหวที่จะได้เห็นสถานที่ใหม่ๆที่ไม่เคยไปมาก่อน พวกนางไม่มีบ้าน ไม่มีญาติพี่น้อง ศิษย์พี่ศิษย์น้องในวิหารหยกวิญญาณคือครอบครัวของพวกนาง และวิหารหยกวิญญาณก็คือบ้านของพวกนาง
เยี่ยนปู้กุยคอยดูแลอยู่ข้างกายซูหย่าทั้งวันทั้งคืน หนวดเคราที่โกนแล้วก็กลับมารกครึ้มอีกครั้ง แม้ว่าสิ่งที่อยู่ในดวงตาของเขาจะเป็นเพียงจุดสีดำ แต่ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายด้วยความสุข
ภายใต้การดูแลของจวินอู๋เสีย อาการบาดเจ็บของซูหย่าจึงดีขึ้นมาก เพียงแต่นางได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงยากที่จะกลับเป็นปกติได้ในเวลาสั้นๆ บาดแผลบนใบหน้าของนางตกสะเก็ดแล้ว แต่มันได้ทิ้งร่องรอยที่โหดร้ายไว้ทั่วใบหน้าของนาง เป็นภาพที่น่ากลัวจนแม้แต่ตัวนางเองยังไม่กล้ามอง แต่เยี่ยนปู้กุยไม่สนใจเลยสักนิด ตอนที่นางตื่นขึ้นในทุกๆเช้า เขาจะจูบทุกส่วนบนใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยน ราวกับว่าไม่มีรอยแผลเป็นใดๆอยู่เลย ไม่ว่ายังไงนางก็คือผู้หญิงที่สวยที่สุดในใจเขา novel-lucky
จวินอู๋เสียนำยาเข้าไปในกระโจมของซูหย่า และเห็นเยี่ยนปู้กุยกับซูหย่ากำลังจูบกันอย่างดื่มด่ำลึกซึ้ง
แม้แต่จวินอู๋เสียก็ยังตะลึงค้างไปชั่วขณะ
เมื่อเยี่ยนปู้กุยเห็นจวินอู๋เสีย เขาก็ยืดตัวตรงทันที แต่ใบหน้าของเขาแดงก่ำอย่างน่าสงสัยและมีสีหน้าลุกลี้ลุกลน
ซูหย่าหัวเราะออกมาทันที
“เจ้าเป็นอาจารย์แล้วนะ ยังจะหน้าบางอยู่อีก”
เยี่ยนปู้กุยยิ่งหน้าแดงเข้มขึ้นอีกหลังจากถูกล้อ
จวินอู๋เสียปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเดินถือยาเข้าไป
“อีกสามวันเราจะต้องออกเดินทาง อาจารย์ซูหย่าจะไหวรึเปล่า?” นอกจากท่านแบะแบะแล้ว ซูหย่าคือคนที่บาดเจ็บหนักที่สุด
“อาจารย์ซูหย่าอะไร? เรียกข้าว่าอาจารย์สิ แล้วเรียกเขาว่าอาจารย์พ่อ เรียกแบบเมื่อกี้ฟังแล้วน่าอึดอัด” กำลังใจของซูหย่าดีขึ้นมาก นิสัยชอบทำตามใจตัวเองก็กลับมาด้วย
จวินอู๋เสียเหลือบมองเยี่ยนปู้กุย เมื่อเห็นเขาพยักหน้าพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ นางก็พูดว่า “เจ้าค่ะ อาจารย์”
ความสัมพันธ์ของนางกับซูหย่าและเยี่ยนปู้กุยค่อนข้างซับซ้อน ซูหย่าเป็นอาจารย์ของนางและเป็นอาจารย์ของเยี่ยนปู้กุยด้วย แต่นางก็คารวะทั้งสองเป็นอาจารย์ของนาง โชคดีที่ซูหย่าและเยี่ยนปู้กุยรักกัน ไม่เช่นนั้น จวินอู๋เสียก็ไม่รู้จริงๆว่าจะเรียกเยี่ยนปู้กุยว่าอาจารย์หรือศิษย์พี่……
“ข้าไม่เป็นไร แค่ไม่รู้ว่าเจ้าโง่เทียนเจ๋อนั่น……” ซูหย่านึกถึงศิษย์น้องของนาง ทั้งคู่ถูกจับพร้อมกัน นางถูกทิ้งให้อยู่ในคุกเพื่อเป็นเหยื่อล่อขณะที่เทียนเจ๋อถูกโยนออกไป อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับนั้นไม่น้อยไปกว่านางเลย นางไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง
“อาจารย์โปรดวางใจ เหตุผลที่ข้ามาที่ภูเขาฝูเหยาได้ก็เพราะข้าพบกับอาจารย์อาเทียนเจ๋อ ตอนนี้เขาดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว ข้าสั่งให้คนพาเขามาหาแล้วตอนที่เราออกจากภูเขาฝูเหยา” จวินอู๋เสียตอบ นอกจากเทียนเจ๋อ นางยังเรียกเสว่เอ๋อร์ที่ดูแลเทียนเจ๋อมาด้วย เนื่องจากวิหารหยกวิญญาณต้องการไปที่อาณาจักรล่าง พวกเขาจึงไม่สามารถทิ้งให้เสว่เอ๋อร์อยู่คนเดียวในอาณาจักรกลางได้
“เจ้าหมอนั่นโคตรโชคดี” ซูหย่าส่งเสียงฮึ แม้ว่าจะทำเป็นบ่น แต่ก็ฟังออกไม่ยากว่านางห่วงใยศิษย์น้องของตน
“แต่ว่านะ……ยัยหนู ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!” จู่ๆ ซูหย่าก็พูดขึ้น
“พูดมา เจ้าเป็นผู้หญิง แต่ดันแต่งตัวเป็นผู้ชายหลอกข้า ปกปิดใบหน้าที่งดงามดังบุปผาเช่นนี้ ข้าจะคิดบัญชีเจ้ายังไงดี?”