เฉินเหล่ยอุทานออกมา “เขาคือพ่อของเอียนซื่อหรงคุณชายแห่งตระกูลเอียน !”

“นอกจากเขาแล้วจะเป็นใครไปได้ !” เฉินธงพยักหน้า

ผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลเฉินลุกขึ้นยืน เฉินกั๋วเหลียงพูดออกมาด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม “ตงซุ่น นายออกไปต้อนรับ !”

“เดี๋ยวก่อน ฉันออกไปต้อนรับด้วยตัวเองจะดีกว่า !”

“พี่รอง ผู้นำตระกูลเอียนมาด้วยตนเอง จะให้พี่ออกไปต้อนรับคนเดียวได้อย่างไร ? ฉันกับน้องสามจะออกไปเป็นเพื่อนพี่เอง !” เฉินกั๋วจงพูดออกมา

เอียนซื่อหรงเพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลเฉินให้ความสำคัญ แล้วยิ่งไปกว่าเป็นพ่อของเอียนซื่อหรง ?

เย่เจิ้งฉีลุกขึ้นยืน ยิ้มและพูดออกมา “ฉันเองก็ขอออกไปต้อนรับกับคุณเฉินด้วย !”

“ดี”

เย่เฟยเออร์มองมาที่เฉินเหล่ย ถามออกมาว่า “ตระกูลเอียนสุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ ?”

เฉินเหล่ยพยักหน้า “ตระกูลเอียนเป็นตระกูลใหญ่ในยานจิง ความแข็งแกร่งของเขาเป็นรองแค่หกตระกูลอันยิ่งใหญ่แห่งยานจิง แข็งแกร่งกว่าตระกูลเฉินของพวกเรามาก ไม่อย่างนั้นผู้อาวุโสทั้งสามและคุณปู่คงไม่ออกไปต้องรับด้วยตัวเอง !”

เย่เฟยเออร์พยักหน้า ยังคงถามออกมาด้วยความสงสัย “พี่เหล่ย ในเมื่อตระกูลเอียนสุดยอดถึงขนาดนั้น งั้นทำไมวันนี้เขาต้องเดินทางมาไกลถึงตระกูลเฉิน ?”

เฉินเหล่ยผงะในทันที “ใช่ ทำไมตระกูลเอียนถึงได้เดินทางมายังตระกูลเฉินในวันนี้ ?”

สายตาของเฉินเหล่ยจ้องมองไปที่เฉินโม่อย่างกะทันหัน ความเฉียบคมปรากฏออกมาจากดวงตาของเขา

“ใช่ จะต้องมาสะสางบัญชีกับเฉินโม่อย่างแน่นอน ! ในงานประชุมตอนเด็ก เฉินโม่เคยทำให้หลีโตฉ่าวขุ่นเคือง และในตอนนั้นหลีโตฉ่าวบอกว่าจะมาเยี่ยมเยือนตระกูลเฉิน คิดไม่ถึงว่าจะมาเร็วถึงขนาดนี้”

ได้ยินการวิเคราะห์ของเฉินเหล่ย พวกของเฉินควางที่อยู่ด้านหลังก็ตกตะลึงในทันที

“พี่เหล่ย พี่บอกว่าตระกูลเอียนมาเพื่อคิดบัญชีกับเฉินโม่ ?”

เฉินเหล่ยพยักหน้า “ไม่อย่างนั้นนายคิดว่าตระกูลเอียนจะถ่อมาถึงตระกูลเฉินแห่งหนานซูที่ห่างไกลในวันขึ้นปีใหม่เพื่ออะไร เพื่ออวยพรปีใหม่ให้กับพวกเรางั้นเหรอ ?”

“ตระกูลเฉินของพวกเราอวยพรปีใหม่ให้กับคนอื่น ๆ แต่พวกเขาจำเป็นต้องสนใจพวกเรางั้นเหรอ ? พวกเขาจะถ่อมาตระกูลเฉินเพื่ออวยพรปีใหม่ได้อย่างไง ?” น้องชายคนหนึ่งพูดพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่น

“งั้นก็คงไม่ผิดแน่ นอกจากตระกูลเอียนจะมาคิดบัญชีกับเฉินโม่แล้ว พวกเขายังมีความจำเป็นอะไรต้องมาสนใจตระกูลเฉินอย่างพวกเรา ?” เฉินเหล่ยเลิกคิ้วและมองเฉินโม่อย่างมุ่งร้าย

เฉินควางเองก็มองไปที่เฉินโม่ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย “หากเป็นเช่นนั้นจริงก็คงจะดีไม่น้อย !”

คำพูดนี้ของเฉินเหล่ยแพร่กระจายไปทั่วห้องโถงอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาทุกคนต่างพูดกันออกมา บอกว่าที่ตระกูลเอียนมาในครั้งนี้ เป็นเพราะมาคิดบัญชีกับเฉินโม่

คำพูดนี้เข้ามาถึงหูของเฉินกั๋วเหลียง เขาที่มีความคิดจะออกไปต้อนรับเอียนหม่านชวนในตอนแรก อดไม่ได้ที่จะหยุดการเคลื่อนไหวในทันที

มองไปที่เฉินโม่อย่างลึกซึ้ง เฉินกั๋วเหลียงรู้สึกกังวลเล็กน้อย

แม้จะเก็บซ่อนสิ่งต่าง ๆ ที่เขาไม่รู้มากมายไว้ในร่างกาย เขาอาจจะไม่กลัวตระกูลเอียน แต่หากตระกูลเอียนมาเพื่อไถ่ถามความผิดจากตระกูลเฉิน แบบนั้นตระกูลเฉินคงตกที่นั่งลำบาก

แบบนั้นต่อให้เฉินโม่ไม่กลัวตระกูลเอียน แต่ตระกูลเฉินก็ไม่สามารถต่อกรกับตระกูลเอียนได้ !

“พี่รอง ไปกันเถอะ !” เฉินกั๋วจงเตือนออกมาด้วยความสงสัย

“อ่า ไปกันเถอะ !” เฉินกั๋วเหลียงฟื้นสติกลับมา รีบเดินออกไปนอกประตู

เมื่อผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลเฉินจากไป รุ่นน้องของตระกูลเฉินรู้สึกไร้ยางอายเล็กน้อยในทันที

เฉินธงมองไปที่เฉินโม่ เดินไปด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม “เฉินโม่ ฉันเคยเตือนนายไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่นายไม่เคยฟัง ตอนนี้เป็นไงล่ะ ผู้นำตระกูลเอียนมาด้วยตัวเอง ตอนนี้ต่อให้เป็นคุณปู่ก็ไม่อาจปกป้องนายได้ เห็นแก่ที่พวกเรามีสายเลือดเดียวกัน ฉันขอเตือนนายไว้สักประโยค นายรีบหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด !”

เฉินโม่ไม่แม้แต่จะชายตามองเขา พูดออกมาอย่างเฉยเมย “ไม่จำเป็น”

เฉินธงพ่นลมหายใจออกมาอย่างเยือกเย็น ส่ายหน้าและเดินกลับไป คิดว่าคนนิสัยอย่างเฉินโม่นั้นเกินที่จะเยียวยา

“ฮึ่ม เจ้าสวะเฉินโม่ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะกล้าโอหัง รอคนของตระกูลเอียนเข้ามาก่อน อยากจะรู้ว่านายจะโอหังต่อไปได้อีกนานสักแค่ไหน !” เฉินควางพูดออกมาอย่างเยือกเย็น

เฉินจิงเย่มองที่เฉินโม่ด้วยความเป็นห่วง “เสี่ยวโม่ ลูกกลับไปที่เจี้ยนเย่ก่อนดีไหม ไปหาเวินฉิง อย่างอยู่ที่นี่เลย !”

เฉินโม่มองเฉินจิงเย่ ยิ้มออกมาเล็กน้อย “พ่อ ไม่เป็นไร พ่อไม่ต้องเป็นห่วง !”

หลี่ซู่เฟินชำเลืองมองเฉินโม่ เธอเข้าใจในตัวของเฉินโม่มากกว่า รู้ว่าเอียนชิงเฉิงยังคงติดตามเฉินโม่อยู่ เธอก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง