แววตาของเฉินธงมีนัยของความอิจฉา “คุณปู่ท่านเข้าข้างเฉินโม่จริงๆ แถมยังขอร้องแทนเขาด้วยตัวเอง!”
เฉินตงหวาทำเสียงฮึ่ม “ท่านผู้นำช่างลำเอียงเหลือเกิน ถึงได้ลดตัวขนาดนี้ แค่ตระกูลเอียนเดินทางไกลมาจากยานจิงมาที่หยู่หยางบ้านตระกูลเฉิน ขอร้องแล้วมีประโยชน์อะไร? หากไม่ส่งตัวเฉินโม่ออกไป ตระกูลเอียนก็คงไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน!”
ความไม่พอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฉินตงเยว่ “หากวันข้างหน้าเฉินเหล่ยทำความผิด ผมหวังว่าท่านผู้นำก็จะทำแบบนี้เช่นกัน!”
ทุกคนในตระกูลเฉินไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เฉินกั๋วเหลียงปกป้องเฉินโม่ขนาดนี้ อีกอย่างทุกคนก็มีความคิดเดียวกันกับเฉินตงหวา พวกเขารู้สึกว่าการที่เฉินกั๋วเหลียงยอมลดตัว ไม่มีประโยชน์เลย ตระกูลเอียนมาที่ตระกูลเฉินในวันตรุษจีน ไม่มีทางที่จะปล่อยเฉินโม่ไปง่ายๆ
เอียนหม่านชวนมองเฉินกั๋วเหลียงอย่างไม่เข้าใจ แล้วถาม “คุณท่านเฉิน คำพูดของคุณหมายความว่าไง? อะไรคือเรื่องที่ไม่พึงพอใจ? คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”
ทุกคนอึ้งกันไปหมด คำพูดของเอียนหม่านชวนหมายความว่ายังไง?
หรือว่าเขาไม่ได้มาคิดบัญชีกับเฉินโม่?
เฉินกั๋วเหลียงก็อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงลองเชิงถาม “น้องเอียน การที่นายมาครั้งนี้ ไม่ได้มาถามหาความผิดเหรอ?”
เอียนหม่านชวนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณท่านเฉินถึงพูดแบบนี้ ผมมาครั้งนี้เพื่อมาสวัสดีปีใหม่ และถือโอกาสคุยเรื่องอื่นๆ อะไรคือมาถามหาความผิด?”
“อีกอย่างผมจะกล้ามาถามหาความผิดกับตระกูลเฉินได้อย่างไรกัน? ต่อให้ผมมีดีหมีผมก็ไม่กล้า!”
เฉินกั๋วเหลียงที่มองเอียนหม่านชวนอย่างฉงนสงสัย พบว่าไม่เหมือนกำลังพูดโกหก จึงได้ถามไปโดยตรง “น้องเอียน นายไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาเฉินโม่จริงๆเหรอ?”
เฉินกั๋วเหลียงที่ถามคำถามนี้ ทุกคนในตระกูลเฉินต่างกลั้นหายใจ มองไปยังเอียนหม่านชวน เพื่อรอคำตอบของเขา
เฉินจิงเย่กับหลี่ซู่เฟินก็มองเอียนหม่านชวน ไม่กล้าจะกะพริบตาเลย กลัวว่าจะพลาดอะไรไป
เอียนหม่านชวนมองเฉินโม่ แล้วยิ้มเล็กน้อย เป็นยิ้มที่คาดเดาได้ยาก “ครั้งนี้ผมมาเพราะเฉินโม่จริงๆ”
“มาเพราะเฉินโม่จริงๆด้วย!” สายตาของคนในตระกูลเฉินทั้งหมดมองไปยังเฉินโม่ ขณะนี้ทุกคนต่างรู้สึกดีอกดีใจ
เฉินกั๋วเหลียงขมวดคิ้ว “น้องเอียน ในเมื่อนายมาเพราะเฉินโม่ แล้วเมื่อกี้ที่ฉันถามนาย นายทำไมยังโต้เถียง?”
เอียนหม่านชวนยิ้มแล้วพูด “คุณท่านเฉิน ผมของพูดกับคุณตามตรงเลย ผมนั้นมาหาเฉินโม่ แต่ไม่ใช่มาถามหาความผิด แต่มาเพราะเรื่องสัญญาการหมั้นหมายของเฉินโม่กับชิงเฉิง!”
อะไรนะ!
ทุกคนในตระกูลเฉินอึ้งอยู่กับที่
เอียนหม่านชวนยิ้มพร้อมกับพูดต่อ “คุณท่านเฉิน คุณยังจำได้มั้ย ตอนนั้นเฉินโม่กับกับชิงเฉิง เคยหมั้นหมายกันไว้ ตอนนี้เด็กสองคนนี้ก็โตแล้ว ผมเลยอยากมาหารือเรื่องนี้กับคุณ”
ตอนนั้นเฉินกั๋วเหลียงก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เพียงแต่ว่าเรื่องการหมั้นหมายในตอนนั้นตระกูลเอียนกับตระกูลหลี่เป็นคนหมั้นหมายกัน ไม่เกี่ยวกับตระกูลเฉิน
จำได้ว่าตอนนั้นเฉินโม่ยังไม่ถูกตระกูลหลี่ขับไล่ออกจากบ้าน ตระกูลเอียนอยากจะใช้เฉินโม่ในการปีนป่ายตระกูลหลี่
เพียงแต่ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเฉินโม่กับตระกูลเฉินไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว ตระกูลเอียนน่าจะอยากให้การหมั้นหมายนี้เป็นโมฆะไม่ใช่เหรอ ทำไมยังมาตระกูลเฉินเพื่อคุยเรื่องหมั้นหมายนี้?
เฉินกั๋วเหลียงไม่เข้าใจ เฉินจิงเย่กับหลี่ซู่เฟินก็ไม่เข้าใจ คนของตระกูลเฉินที่รู้เรื่องหมั้นหมายก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
เฉินธงอึ้งไปเลย มองเอียนหม่านชวนด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ตระกูลเอียนนั้นมาคุยเรื่องหมั้น!”
การหมั้นหมายนี้มันไม่ได้ผ่านตระกูลเฉินอยู่แล้ว ตอนนั้นจุดประสงค์ของตระกูลเอียนนั้นทุกคนต่างก็รู้กันดี แต่ตอนนี้เฉินโม่กับตระกูลหลี่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว ตระกูลเอียนยังคงมาหารือเรื่องหมั้นหมาย เฉินกั๋วเหลียงไม่คิดว่าตระกูลเอียนนั้นทำเพื่อต้องการรักษาสัญญา
บนตัวของเฉินโม่ ต้องมีสิ่งที่ตระกูลเอียนต้องการ
เดิมเอียนชิงเฉิงที่ยืนอยู่ด้านหลังของเอียนหม่านชวน ใบหน้าที่งดงามขยับเล็กน้อย มองไปยังเอียนหม่านชวน หน้าผากที่ผ่องใสขมวดเล็กน้อย แต่ดูไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
สายตาของเอียนชิงเฉิง แอบมองไปทางเฉินโม่ พบกว่าเฉินโม่ที่นั่งอยู่กำลังหลับตาพักผ่อน จึงถอนสายตากลับทันที หว่างคิ้วก็คลายออก