“น้องสี่ ระหว่างที่เจ้าไม่อยู่ที่นี่ป็นเวลานาน ก็เริ่มมีคนบางกลุ่มลุกขึ้นต่อต้าน!” มู่หลงชิงกล่าวเป็นคนแรก
“และเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากที่ออกคำสั่งคนพวกนั้นก็ไม่เต็มใจที่จะทำตาม” จักรพรรดิพิรุณกล่าวและสามารถเห็นจิตสังหารได้ในสายตาของเขา เมื่อพูดถึงการปกครองและการบริหารแคว้นแล้ว เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดคนหนึ่ง
หลิงฮันเพียงแค่ยิ้ม มีเพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย
การเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิราชวงศ์มีผลประโยชน์คือรับประกันความปลอดภัยและจะไม่มีใครกล้ามาบุกรุก – แม้จะถูกบุกรุกแต่ก็สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากจักรวรรดิราชวงศ์ได้เหมือนกับแคว้นพิรุณบูรพาก่อนหน้านี้
ดังนั้น โอกาสที่จักรวรรดิต้าหลิงจะเผชิญหน้ากับศัตรูจึงมีไม่มากนัก แต่ถ้าเกิดความขัดแย้งภายใน จักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะก็จะไม่เข้ามาแทรกแซงแต่อย่างใด ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม ตราบใดที่ยังได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะ
นี่เป็นเรื่องภายใน ซึ่งแน่นอนว่าบุคคลภายนอกจะไม่เข้ามาแทรกแซง
หลิงฮันกล่าว “พี่ชายทั้งสาม เรื่องเล็กน้อยพวกนั้นอย่างพูดถึงมันเลย วันนี้พวกเราควรเฉลิมฉลองไม่เมาไม่เลิก!”
“ถึงเวลาเมาแล้ว!” พวกเฟิงโป๋วหยุนรีบไปจัดเตรียมงานดื่มฉลองทันที
หลิงฮันดื่มจนเมา เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงและมีสุ่ยเยี่ยนยวี่อยู่ในอ้อมแขน
หลิงฮันดูตกใจและพูดว่า “เมื่อวานพวกเราทำกันแล้วหรือ?”
สุ่ยเยี่ยนยวี่รู้สึกละอายใจและมองตาขาวใส่หลิงฮันพร้อมกับพูดว่า “เมื่อคืนเจ้าดื่มจนเมา ข้าเลยพาเจ้ามาส่งที่ห้อง แต่เจ้ากอดรัดข้าไม่ปล่อย ดังนั้นข้าเลยต้องอยู่ที่นี่กับเจ้า”
ความหมายคือเขาเมาเกินไปจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
หลิงฮันพูดด้วยความโล่งอกว่า “โชคดี ถ้าครั้งแรกข้าไม่ได้สติ มันคงน่าเสียดายมาก!”
เพี๊ยะ!
สุ่ยเยี่ยนยวี่โยนหมอนใส่หลิงฮันและตบหน้าเขา
“โอ้ย ภรรยาข้า นี่หรือว่าเจ้าจะโมโหเพราะเมื่อวานข้าไม่เผด็จศึกเจ้ารู้สึกน้อยใจ?” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม
เพี๊ยะ! ปัง! ตูม!
สุ่ยเยี่ยนยวี่โมโห นางโยนหมอนใส่หลิงฮันอีกครั้ง จากนั้นก็ตามด้วยผ้าห่ม จาน ชาม แม้แต่แก้วน้ำก็ไม่เว้น
หลิงฮันรีบลุกขึ้นมาตั้งหลัก จากนั้นก็จับสุ่ยเยี่ยนยวี่กดลงบนเตียง
ปัง! ปัง! ปัง!
แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
หลิงฮันรู้สึกอารมณ์เสียมาก มันเป็นใครกันที่มาเคาะประตูห้องเขาในเวลาคับขันแบบนี้
“เจ้าเด็กน้อยฮัน รีบลุกจากเตียงของเจ้าได้แล้ว!” เสียงของเฮ่อเหลียนเทียนหยุนดังมาจากด้านนอกประตู
เจ้าแก่เจ้าเล่ห์เอ้ย!
หลิงฮันถอนหายใจและมองสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่รีบลุกหนีไปอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่านางยังไม่พร้อม ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเป็นผู้หญิงที่ขี้อายมากอีกด้วย หลังจากนี้สักสองสามวัน นางคงจะต้องพยายามหลบหน้าเขาอย่างแน่นอน
เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ตอนนี้ข้าจะต้องทำธุระให้เสร็จก่อน
หลิงฮันลุกออกไปจากห้องและเรียกพี่สามทั้งสามคน ติ่งผิงและเฮ่อเหลียนเทียนหยุน แล้วเริ่มสอนเทคนิคบ่มเพาะพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ทักษะหกธาตุที่สอนโดยเฒ่าหม่า หลิงฮันไม่สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นเป็นการส่วนตัวได้ หากไม่ได้รับการยินยอมจากเขา ดังนั้นทักษะที่เขาจะสอนให้กับพวกเขาจึงเป็นทักษะที่ได้รับจากการประมูล แม้ว่ามันจะไม่ใช่ทักษะชั้นยอดอะไร แต่ก็ยังดีกว่าทักษะที่ได้รับจากสำนักนภาสีชาด
-ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะของสำนักนภาสีชาดไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้เช่นกัน นี่เป็นข้อห้ามที่แม้แต่หลิงฮันก็ไม่สามารถฝ่าฝืนได้
“พี่ชายทั้งสามไม่ได้เป็นคนเปิดสวรรค์ ดังนั้นพลังต่อสู้ของพวกท่านจะไม่สูงไปกว่ายี่สิบดาว พลังต่อสู้สิบแปด สิบเก้าดาวนับว่าประสบความสำเร็จแล้ว และข้าหวังว่าพี่สามทั้งสามคนของข้าจะทะลวงผ่านขอบเขตพระเจ้าได้สำเร็จ” หลิงฮันกล่าว
“แน่นอนอยู่แล้ว!” ทั้งสามคนพยักหน้า พวกเขาต่างก็มีความทะเยอทะยาน แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการแค่ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีเท่านั้น แต่ต้องการแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
ครั้งนี้ไม่เหมือนกับตอนที่หลิงฮันไปที่จักรวรรดิราชวงศ์ดาราหายนะครั้งแรก ในตอนนั้นเขาไม่มีทรัพยากรบ่มเพาะพลังอะไรเลย แต่ตอนนี้ทรัพยากรบ่มเพาะพลังที่เขานำมานั้นมากมายนัก
นั่นเป็นเพราะทรัพยากรบ่มเพาะพลังพวกนี้เป็นของจอมยุทธระดับทลายมิติ และหลังจากที่หลิงฮันหลอมเม็ดยาเวหาสีครามขาย มันทำให้เขาได้รับกำไรมหาศาลและสามารถสร้างรายได้ด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
เหตุผลที่หลิงฮันนำทรัพยากรบ่มเพาะพลังจำนวนมากติดตัวมาด้วยเพราะหลิงฮันต้องการให้พี่น้องทั้งสามคนของเขาทะลวงผ่านขอบเขตพระเจ้าให้เร็วที่สุด – แต่ต้องมีรากฐานที่มั่นคง แล้วจากนั้นเขาก็จะหันไปฝึกให้กับติ่งผิง ทั้งที่เขารับติ่งผิงเป็นศิษย์ แต่เขากลับไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนอีกฝ่ายเลย เขาช่างเป็นอาจารย์ที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ
ดังนั้น หลิงฮันจึงเริ่มฝึกฝนติ่งผิงอย่างหนัก
ติ่งผิงช่างน่าสงสารยิ่งนัก
ภายในหอคอยทมิฬสามารถได้ยินเสียงกรีดร้องดังไม่หยุด ซึ่งอาจทำให้ผู้คนที่ได้ยินตัวสั่นด้วยความกลัว
“ในอีกไม่กี่วัน ต้นสังสารวัฎก็จะเติบโตอย่างสมบูรณ์!” หลิงฮันยิ้ม นี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา!
การรวบรวมพลังปราณและการฝึกฝนบ่มเพาะกายาสามารถทำได้ด้วยเม็ดยาและหยดวิญญาณ และการรู้แจ้งสามารถกระทำได้ด้วยตนเองเท่านั้น แต่ต้นสังสารวัฎสามารถลดระยะเวลาของการรู้แจ้งได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
“อาจารย์ ข้าพักได้แล้วหรือยัง?” ติ่งผิงพูดด้วยใบหน้าที่ขมขื่น เขากำลังแบกหินก้อนใหญ่ที่มีหลิงฮันนั่งอยู่ด้านบน มันหนักมากจนแขนของเขาสั่นอยู่ตลอดเวลา
เพราะหลิงฮันใช้อักขระแรงโน้มถ่วงกับเขา แน่นอนว่าแค่เศษเสี้ยวของแรงโน้มถ่วงเท่านั้น มิฉะนั้นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณอย่างติ่งผิงคงไม่สามารถทนได้
“ไม่ วิ่งอีกสามรอบ!”