เฉินกั๋วเหลียงเดินเข้าไปหาพวกมู่หรงเค่อ พูดคุยกับพวกเขา ตำแหน่งที่เฉินจิงเย่นั่งอยู่ ได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของห้องโถงไปแล้ว

เฉินโม่กับมู่หรงยายเอ๋อร์คุยกันอย่างมีความสุข จนสาวน้อยอย่างเฉินเข่อเอ๋อร์รู้สึกน้อยใจ

เฉินธงกับเฉินเหล่ยและคนรุ่นสามของตระกูลเฉิน สายตาที่มองเฉินโม่ เผยให้เห็นถึงความเกรงกลัว ผู้มีอิทธิพลพวกนี้มาเพราะเฉินโม่ บนตัวของเฉินโม่มีอะไรที่พวกเขาไม่รู้นะ

เฉินควางแอบกำหมัดแน่น กัดฟันจนเกิดเสียง ในใจเต็มไปด้วยความคาใจ “เฉินโม่มันมีสิทธิ์อะไร!”

เฉินเยว่เห็นท่าทางของน้องชายตัวเอง รู้ว่าเขายังไม่ตายใจ เดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆหนึ่งก้าว กระซิบข้างหูของเฉินควางอย่างจริงจัง “ตอนนี้รู้แล้วใช่มั้ยว่าฉันทำไมถึงได้เตือนนายอย่าไปล่วงเกินเฉินโม่ ฉันขอเตือนให้นายรีบวางมือ มิฉะนั้นผลจะร้ายแรงมาก”

เฉินควางหันหน้ามามองเฉินเยว่ แววตามีความรุนแรง แต่ไม่ในก็ห่อเหี่ยวลง “พี่ วางใจเถอะ ผมจะไม่หาเรื่องเขาอีก!”

เฉินเยว่พยักหน้า “งั้นก็ดี”

เฉินควางหันหน้าไป แววตาก็ปะทุไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้ง “เฉินโม่ ฉันโตมาขนาดนี้ ยังไม่มีใครกล้าหยามฉันต่อหน้าคนอื่น แค้นนี้ไม่ชำระ ฉันขอไม่เป็นคน!”

เฉินเข่อซินมองมู่หรงยายเอ๋อร์ที่คุยกันอย่างสนุกสนาน ในใจว้าวุ่นมาก

“เฉินโม่ นายกำลังแก้แค้นฉันอยู่ใช่มั้ย? ฉันทอดทิ้งนาย ดังนั้นตอนนี้นายจึงใช้คนพวกนี้มาเตือนฉัน ตอนนั้นที่ทอดทิ้งนายนั้นเป็นความผิดที่ยิ่งใหญ่ใช่มั้ย?”

ตั้งแต่ต้น เฉินเข่อซินเพื่อจะเกาะตระกูลหลี่ ก็ดูแลเอาใจใส่เฉินโม่ทุกอย่าง ทำให้เฉินโม่เข้าใจว่าอยู่ในตระกูลเฉิน มีแต่เฉินเข่อซินที่ดีกับเขาที่สุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเฉินโม่ถูกตระกูลหลี่ไล่ออกจากบ้าน ท่าทีที่เฉินเข่อซินมีต่อเฉินโม่ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากที่ดูแลใส่ใจจนกระทั่งถึงโจมตี และเกลียดชัง คิดที่จะโจมตีเฉินโม่มาโดยตลอด หวังว่าอนาคตหากมีโอกาสเข้าบ้านตระกูลหลี่ จะสามารถทำให้คนของตระกูลหลี่มองเธอด้วยสายตาที่น่าทึ่ง

แต่ตอนนี้ ความแข็งแกร่งที่เฉินโม่แสดงออกมา ต่อให้ไปเทียบกับตระกูลหลี่ เกรงว่าก็ไม่ได้ด้อยกว่า ผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์อย่างเฉินเข่อซิน จะไม่เสียใจได้อย่างไร?

ก่อนที่จะเอาหลี่เฟิงมาเป็นแฟน เฉินเข่อซินรู้สึกว่าแม้ว่าหลี่เฟิงจะไม่ใช่สายเลือดโดยตรง แต่เมื่อเทียบกับสายเลือดโดยตรงของตะกูลหลี่พวกนั้น มีความฉลาดหลากแหลมมากกว่า โดดเด่นกว่า

ในงานปาร์ตี้วันเกิด หลี่เฟิงเพื่อเธอแล้วได้ลากตัวเพื่อนเศรษฐีเพื่อมาฉลองวันเกิดให้กับเธอ ตอนนั้นแม้ว่าเฉินเข่อซินยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร แต่ครั้งนั้นมันเป็นความตื่นเต้นที่สุดของเธอ

เพียงแต่ว่า เมื่อเอาหลี่เฟิงกับเฉินโม่มาเปรียบเทียบกันในตอนนี้ หลี่เฟิงเหมือนเด็กขี้เล่นคนหนึ่ง แต่เฉินโม่ถึงจะเป็นคนใหญ่คนโตตัวจริง

ความฝันของเฉินเข่อซินตั้งแต่เด็กคืออยากเข้าไปในสังคมชั้นสูง ตระกูลใหญ่หกอันดับของยานจิงคือเป้าหมายของเธอ เพื่อเป้าหมายนี้แล้ว เฉินเข่อซินก็พยายามเป็นอย่างมาก

เธอมีความเข้าใจอำนาจของแต่ละที่อย่างชัดเจน และมารยาทในการเข้าสังคมชั้นสูงทุกรูปแบบ รวมทั้งมีความรู้เรื่องเครื่องประดับ เธอนั้นได้ลงทุนลงแรงไปอย่างมาก

ดังนั้น เธอจึงรู้จักฐานะของมู่หรงเค่อและคนอื่นๆดีกว่าทุกคนที่อยู่ในนี้

เธอรู้ว่าจินโจงรุ่น เป็นคุณท่านจนของฮ่านหยาง ฐานะไม่ได้ด้อยไปกว่ามู่หรงเค่อเลย

เธอรู้ว่ากู้เฟิงแห่งเจียงเป่ย แม้ว่าตอนนี้ความแข็งแกร่งของตระกูลกู้จะยังห่างกับตระกูลมู่หรงเล็กน้อย ต่อให้เป็นช่วงเวลาที่ตระกูลเฉินรุ่งโรจน์ เมื่อเทียบกับตระกูลกู้ยังห่างกันอยู่เล็กน้อย

เธอยังไม่รู้ว่าผู้มีอิทธิพลของหูซีเสิ่นฉีเซิ่ง ก็มีฐานะไม่ได้ด้อยไปกับกู้เฟิง แม้แต่คนที่ด้อยที่สุดอย่าง ฐานะทางสังคมของเขาเมื่อเทียบกับเฉินตงซุ่นที่มีฐานะสังคมที่สูงสุดของตระกูลเฉินแล้วก็ไม่ต่างกันเลย

แต่คนเหล่านี้ กลับถ่อมตัวต่อหน้าเฉินโม่ขนาดนี้ เกรงว่าต่อให้ผู้นำตระกูลหลี่อยู่ตรงนี้ ก็คงไม่ขนาดนี้