ภาคที่ 5 บทที่ 39 ลอกเลียน (2)

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 39 ลอกเลียน (2)

วิชาแดนหิมาลัยนั้นเป็นวิชาอาร์คาน่าประเภทควบคุมที่ทรงพลังทีเดียว

วิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 3 นั้นมีการควบคุมพลังที่ยังไม่ดีเท่าไรนัก แต่วิชาอาร์คาน่าวิชานี้นั้นมีข้อดีอยู่สองอย่างด้วยกัน อย่างแรกคือมันสามารถลดทอนความว่องไวของคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งได้แม้ว่าจะยังไม่สามารถทำให้หยุดนิ่งได้ก็ตาม ทำให้ผู้ใช้วิชามีโอกาสที่จะตอบโต้กลับได้ อย่างที่สองคือผลของมันสามารถซ้อนทับกันได้ หากการใช้เพียงครั้งเดียวยังไม่บรรลุเป้าหมาย ก็เพียงแค่ใช้มันซ้ำอีกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น แน่นอนว่ายิ่งมีวิชาแดนหิมาลัยทับซ้อนกันมากเท่าไร ผลกระทบจากวิชาก็จะแย่ลงเท่านั้น แต่ถึงกระนั้น เมื่อมีคนมากพอที่จะใช้วิชานี้ติดต่อกัน พวกเขาก็จะสามารถผนึกศัตรูที่แข็งแกร่งไว้ได้

ในประวัติศาสตร์เผ่าปักษาที่ผ่านมา ปรากฏการณ์เช่นนี้ได้เกิดขึ้นมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง เผ่าปักษาจำนวนหนึ่งจะใช้งานวิชาแดนหิมาลัยกับเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวโดยผนึกพวกเขาไว้และทำให้ไม่สามารถเคลื่อนใด ๆ ได้ หลังจากนั้นห่าฝนลูกธนูที่หนาแน่นจนบดบังท้องฟ้าก็จะพุ่งเข้าใส่เป้าหมายที่ถูกแช่แข็งไว้แล้วและแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

12 ผู้รับใช้ดาบนั้นจะมีประโยชน์เป็นอย่างมากหากไม่พูดถึงเรื่องที่ว่าพวกเขานั้นทะเลาะเบาะแว้งกันเองในบ้างครั้ง

ด้วยเหตุนี้เอง ซูเฉินจึงเลือกวิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 3 แม้ว่าจะมีปรมาจารย์อาร์คาน่าระดับ 4 อยู่ถึง 12 คนแล้วก็ตาม

กลับกัน เป็นเพราะพวกเขานั้นเป็นปรมาจารย์อาร์คาน่าระดับ 4 อักขระระดับ 3 ของพวกเขานั้นจึงแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด และทำให้ซูเฉินสามารถค้นพบวิชาที่พวกเขาทั้งหมดสามารถครอบครองได้นั่นเอง ทว่าลักษณ์อันหาที่เหมือนไม่ได้ของอาคมอาร์คาน่าในระดับเดียวกันของพวกเขานั้น… มันก็หมายความว่าซูเฉินจะต้องพยายามและตามหาปรมาจารย์อาร์คาน่า 12 คนที่ช่ำชองในวิชาอาร์คาน่าเดียวกัน !

นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย !!

หลังจากที่ ‘ใช้แม่พิมพ์’ กับผู้รับใช้ดาบทั้ง 12 คนแล้ว อวิ๋นเป้ากับจูเซียนเหยาคือรายถัดไป

อวิ๋นเป้าเป็นอัจฉริยะเมื่อมาถึงการต่อสู้ สัมผัสการรับรู้ของเขานั้นได้มาจากเวลาที่ผ่านมาหลายต่อหลายปี แต่ก็ด้วยเหตุนี้ที่ทำให้วิชาอาร์คาน่าส่วนใหญ่นั้นไม่เข้ากันกับวิธีการต่อสู้ของเขาเท่าไรนัก ฝ่ายหนึ่งนั้นเป็นนักเวทย์ที่ปล่อยการโจมตีจากระยะไกล ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นเป็นนักลอบสังหารที่ใช้การโจมตีระยะใกล้ เป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะประนีประนอมกันระหว่างสองฝ่ายนี้

ซูเฉินคิดว่ามันคงเป็นเรื่องน่าขันที่จะคิดว่าอวิ๋นเป้านั้นจะหยุดนิ่งกะทันหันท่ามกลางการสู้รบเพื่อจะใช้วิชชาอาร์คาน่า แต่มันก็ค่อนข้างจะเพ้อเจ้อทีเดียว

เพราะเช่นนั้นเองซูเฉินจึงสืบค้นอักขระวิชาอาร์คาน่าระดับ 5 อยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ไม่สามารถพบวิชาที่เหมาะสมได้

ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ เขาจึงตัดสินใจที่จะฆ่าเผ่าปักษาในระดับ 5 ถึง 2 คนและเก็บเกี่ยวอักขระของพวกเขา

คราวนี้ชายหนุ่มสามารถค้นพบวิชาที่เหมาะสมได้สำเร็จสำหรับทั้งสองคนนั้นและตนเอง

วิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 5 ‘วิชาอาร์คาน่าย้อนกลับ’

วิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 4 ‘พลังต้านทานธาตุ’

วิชาอาร์คาน่าย้อนกลับเป็นอาคมอาร์คาน่าที่โดนเด่นไม่ซ้ำใคร แต่จะเป็นการถูกต้องกว่าหากเรียกมันว่าพลังต้นกำเนิดย้อนกลับ การใช้งานมันนั้นเรียบง่ายยิ่ง มันจะทำให้ผู้ใช้นั้นสามารถย้อนกลับการไหลเวียนของพลังต้นกำเนิดได้เพื่อที่จะผ่านพ้นคลื่นพลังต้นกำเนิดได้

มันฟังดูซับซ้อนแต่ในความเป็นจริงนั้นง่ายดาย การโจมตีด้วยพลังต้นกำเนิดนั้นไม่สามารถส่งให้เขาบินขึ้นไปได้ ตรงกันข้าม เขาสามารถใช้งานการไหลย้อนกลับของพลังต้นกำเนิดนี้เพื่อปล่อยการโจมตีออกมาด้วยตนเองได้

วิชาอาร์คาน่าวิชานี้นั้นแปลกประหลาดไม่น้อย เพราะมันไม่สามารถทำให้ผู้ใช้รอดพ้นจากการบาดเจ็บได้หรือเพิ่มพละกำลังของการโจมตีแต่อย่างใด แต่ผู้ใช้งานมันจะสามารถควบคุมได้ว่าจะเคลื่อนตัวไปในทิศทางไหน ทางไหนที่ลูกไฟจะส่งผู้ใช้งานบินถอยหลังไป วิชาอาร์คาน่าย้อนกลับจะทำให้ผู้ใช้สามารถบินไปด้านหน้าได้ หรือกระทั่งซ้ายและขวา ดังนั้นแล้ว ‘ย้อนกลับ’ จึงไม่ได้ถูกต้องเสียทีเดียว เหตุเพราะผู้ใช้วิชาสามารถเลือกได้ว่าทิศทางไหนที่พวกเขาต้องการให้พลังไหลเวียนไป !

วิชานี้นั้นค่อนข้างจะอ่อนแอสำหรับวิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 5 คนส่วนมากจึงไม่ได้ใช้มันมากนัก เหตุผลเดียวที่มันถูกนับว่าเป็นวิชาระดับ 5 ก็เพราะมันต้องใช้การควบคุมพลังต้นกำเนิดซึ่งเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากทีเดียว หรือจะบอกว่าผลของวิชานั้นค่อนข้างต่ำ และสิ่งที่ต้องเสียในการเรียนรู้มันนั้นค่อนข้างจะสูง ความคุ้มค่าในการลงทุนจึงถือได้ว่าย่ำแย่ไม่น้อย

แต่สำหรับอวิ๋นเป้าแล้ว วิชาอาร์คาน่านี้นั้นเป็นประโยชน์อย่างถึงที่สุด

วิธีการต่อสู้ของเขานั้นหลากหลายและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอยู่แล้ว และความสามารถในการโจมตีจากทุกทิศทางของเขานั้นเป็นสิ่งน่ารำคาญในการรับมือเป็นอย่างมากไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครก็ตาม ด้วยวิชาอาร์คาน่าย้อนกลับ ความลื่นไหลของอวิ๋นเป้าจะเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก เขาจะสามารถเข้าใกล้คู่ต่อสู้มากขึ้นแทนที่จะถูกส่งตัวลอยขึ้นไปในอากาศ และอีกฝ่ายที่ไม่ทันตั้งตัวอาจจะเสียชีวิตได้ในทันทีด้วยวิชานี้

นอกจากนี้ วิชาอาร์คาน่าย้อนกลับไม่จำเป็นต้องกระตุ้นเพื่อใช้งานเมื่อได้เรียนรู้มันแล้ว มันจะกลายเป็นทักษะติดตัวที่ผู้ใช้งานสามารถใช้ได้ตามใจชอบขณะที่โจมตีออกไป พวกเขาจะไม่สามารถเลือกได้ว่าจะบินหรือไม่ แต่พวกเขาสามารถเลือกได้ว่าจะบินไปในทิศทางใด หากว่าเชี่ยวชาญจริง ๆ แล้วก็จะสามารถกระทั่งเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศหรือวาดสัญลักษณ์ขึ้นในอากาศได้ตราบใดที่การโจมตีนั้นทรงพลังและร่างกายนั้นแข็งแรงมากพอที่จะทนทานต่อมันได้

ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่วิชาอาร์คาน่าย้อนกลับกำลังทำงานอยู่ ผู้ใช้จะปลอดภัยจากทุกการโจมตี เป็นเพราะพลังต้นกำเนิดรอบกายผู้ใช้กำลังเปลี่ยนทิศทางและการโจมตีส่วนมากที่ถูกมุ่งหมายไปยังผู้ใช้จะถูกรบกวน แต่อุบัติเหตุก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้และการโจมตีที่เล็งไปยังทิศทางอื่นนั้นสามารถเปลี่ยนเส้นทางใหม่โดยบังเอิญและปะทะเข้ากับผู้ใช้งานได้

เพราะช่วงการปลุกกระตุ้นวิชาอาร์คาน่าย้อนกลับนั้นสั้นยิ่งนัก ช่วงของความไร้เทียมทานนั้นไม่ได้สำคัญอะไรเป็นพิเศษ แต่สำหรับอวิ๋นเป้า เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว !

สำหรับผู้ใช้วิชาอาร์คาน่าส่วนมากแล้ว วิชาอาร์คาน่าย้อนกลับนี้ถือเป็นวิชาที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่มันก็ยังถูกเลือกใช้เพราะความเข้ากันของมันกับท่าทางการต่อสู้ของอวิ๋นเป้า

ส่วนวิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 4 พลังต้านทานธาตุนั้นเรียบง่ายเป็นอย่างมาก มันเพิ่มการต้านทานต่อการโจมตีด้วยธาตุให้แก่ผู้ใช้ แต่มันก็จะลดความอ่อนไหวต่อธาตุของผู้ใช้ด้วยเช่นกัน เท่ากับว่าลดความแข็งแกร่งของวิชาอาร์คาน่าส่วนใหญ่ไปด้วย

วิชาอาร์คาน่าส่วนมากนั้นเกี่ยวกับกับธาตุโดยธรรมชาติ ทักษะต่าง ๆ อย่างลูกไฟ วิชาแดนหิมาลัย ทักษะสายฟ้า และดาบวาโย ล้วนเป็นวิชาอาร์คาน่าที่เกี่ยวกับธาตุ พลังต้านทานธาตุจึงไม่ได้มีประโยชน์มากนักต่อปรมาจารย์อาร์คาน่าส่วนใหญ่ มันถูกมองว่าเป็นวิชาอาร์คาน่าที่อ่อนแอวิชาหนึ่ง

แต่วิชาอาคมอาร์คาน่าที่อ่อนแอทั้งสองนี้ก็ได้กลายเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดของอวิ๋นเป้า

อวิ๋นเป้าพึ่งพาการโจมตีทางกายภาพ เข้าจึงไม่ได้สนใจว่าวิชาอาร์คาน่าของเขาจะมีประสิทธิภาพเท่าไร กลับกัน การเพิ่มสูงขึ้นในการต้านทานธาตุที่เขาได้รับนั้นช่วยเขาได้มากโข

จูเซียนเหยาก็ได้รับ 2 วิชาอาร์คาน่ามาเช่นกัน

วิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 5 ‘พรแสงศักดิ์สิทธิ์’

วิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 5 ‘แสงศักดิ์สิทธิ์รักษา’

2 ต้นแบบวิชาแสงศักดิ์สิทธิ์อาร์คาน่า

วิชาแสงศักดิ์สิทธิ์อาร์คาน่าเป็นวิชาโบราณอาร์คาน่าโดยแท้จริง ซึ่งแตกต่างไปจากวิชาอาร์คาน่าส่วนมากที่เผ่าปักษาใช้กัน หลังจากหลายหมื่นปีของการพัฒนา เผ่าปักษาก็ได้พัฒนาตำราฝึกฝนที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขามากขึ้น และบางส่วนของ ‘วิชาอาร์คาน่า’ เหล่านี้ก็ถูกครอบครองโดยเผ่าปักษาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แต่เหล่าวิชาแสงศักดิ์สิทธิ์อาร์คาน่าทั้งหลายก็เป็นวิชาโบราณอาร์คาน่าโดยแท้จริงที่ถูกสืบทอดมาจากชาวอาร์คาน่าเอง

วิชาแสงศักดิ์สิทธิ์อาร์คาน่านั้นเทียบได้กับการเสริมพลังนั่นเอง

พรแสงศักดิ์สิทธิ์จะสร้างพื้นที่ที่ได้รับพรโดยแสงศักดิ์สิทธิ์ เป้าหมายที่ถูกเลือกทั้งหมดในพื้นที่นั้นจะได้รับการเสริมพลังและมีพละกำลังที่เพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยทีเดียว

หากจะพูดให้ถูกต้อง พรแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นค่อนข้างอ่อนแอเช่นกัน มันเป็นทักษะที่ส่งผลเฉพาะในพื้นที่ แต่พื้นที่นั้นค่อนข้างจะคับแคบเพียงแค่ประมาณ 9 จั้งเท่านั้น

เมื่อระดับพลังของคนไปถึงจุดจุดหนึ่ง 9 จั้งนั้นนับได้ว่าเล็กน้อยมาก การเคลื่อนที่ไปยังทิศใดก็ตามจะทำให้พวกเขาหลุดออกจากระยะ นอกจากนั้น ผู้ใดกันจะสามารถทำให้แน่ใจได้ว่าทุกคนจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมท่ามกลางสนามรบ สำหรับคนส่วนมากแล้ว วิชาอาร์คาน่านี้ไม่มีประโยชน์ยิ่งกว่าทักษะเสริมพลังแบบเป้าหมายเดี่ยวเสียด้วยซ้ำ

แต่สถานการณ์กลับแตกต่างออกไปอย่างชัดเจนสำหรับจูเซียนเหยา

นางเคยชินกับวิชาการควบคุมอยู่แล้ว คนอื่นอาจไม่ได้อยู่รอบตัวนางเสมอไป แต่ทาสของนางไม่สามารถออกห่างจากจุดที่นางยืนอยู่ได้ เพียงแค่การเสริมพลังให้กับเหล่าทาสรับใช้ของนางก็ทำให้วิชานี้คุ้มค่าแล้ว

ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจากพรแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นยอดเยี่ยมทีเดียวสำหรับวิชาเสริมพลังในพื้นที่เฉพาะ

ดังนั้นแล้วพรแสงศักดิ์สิทธิ์นี้จึงคู่ควรกับจูเซียนเหยาเป็นอย่างมาก

ส่วนแสงศักดิ์สิทธิ์รักษานั้นเข้าใจง่ายเสียยิ่งกว่า มันจะรักษาบาดแผลของผู้ใช้งานและลบล้างวิชาอาร์คาน่าประเภทคำสาปทั้งหมดด้วยพลังการรักษาตามความแข็งแกร่งของผู้ใช้งาน ด้วยความเป็นวิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 5 แสงศักดิ์สิทธิ์รักษาจึงเป็นประโยชน์ไม่น้อยเลยสำหรับผู้เชี่ยวชาญด่านสู่พิสดาร แม้ว่ามันจะไม่สามารถพาคนฟื้นคืนกลับมาจากความตาย ทว่ามันก็ทรงพลังมากพอที่จะสร้างแขนขาขึ้นใหม่ได้ นอกจากนี้ ความสามารถในการรักษาฟื้นฟูของมันยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด่านสู่พิสดารครอบครองอยู่แต่แรกเริ่มเสียอีก แต่เมื่อใช้มันกับผู้เชี่ยวชาญด่านผลาญจิตวิญญาณแล้ว พลังการฟื้นฟูก็จะมีขีดจำกัด

และเนื่องจากวิชาอาร์คาน่านั้นมีประสิทธิภาพที่หลากหลาย สามารถใช้ตามสถานการณ์โดยไม่สนใจว่าผู้ใช้นั้นควบคุมทาสอยู่หรือไม่ ซูเฉินจึงตัดสินใจที่จะมอบมันให้กับจูเซียนเหยาด้วย

ซูเฉินไม่ได้ลังเลที่จะใช้สามเผ่าปักษาระดับ 5 และระดับ 6 อีกหนึ่งคนสำหรับตัวของเขาเองแต่อย่างใด

วิชาอาคมอาร์คาน่าระดับ 6 ‘บ่อขุมพลัง’

วิชาอาร์คาน่าระดับ 5 ‘น้ำพุทมิฬ’

วิชาอาร์คาน่าระดับ 5 ‘วิชาอาร์คาน่าจำลอง’

บ่อขุมพลังทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างแก่นพลังพิเศษภายนอกร่างกายและกักเก็บมันไว้ได้มากกว่าพลังต้นกำเนิดเสียอีก มันมอบความสามารถในการสร้างพลังต้นกำเนิดสำรองให้กับเขานั่นเอง

แน่นอนว่าหากมันถูกใช้เพียงเพื่อกักเก็บพลังต้นกำเนิดไว้ หินพลังต้นกำเนิดก็จะเพียงพอแล้ว รวมถึงไม่มีความจำเป็นที่จะศึกษาวิชาอาร์คาน่าวิชาใหม่ตั้งแต่ต้น

จุดขายของบ่อขุมพลังคือการใช้มันเป็นพื้นฐานของทักษะต้นกำเนิดหรือวิชาอาร์คาน่าจะเพิ่มผลของทักษะหรือวิชานั้น ๆ ด้วย โดยพลังที่เพิ่มขึ้นจะแปรผันโดยตรงกับปริมาณของพลังต้นกำเนิดในบ่อขุมพลัง ยิ่งมีพลังต้นกำเนิดเก็บไว้มากเท่าไร วิชาที่ปลดปล่อยออกมาก็จะยิ่งทรงพลังขึ้นเท่านั้น

ว่าง่าย ๆ คือบ่อขุมพลังไม่เพียงถูกใช้เพื่อเก็บสะสมพลังต้นกำเนิด แต่ยังถูกใช้เป็นตัวแพร่กระจายพลังทำลายล้างอีกด้วย

จุดประสงค์ในการมีอยู่ของมันก็เพื่อมอบวิชาอาร์คาน่าที่สุดแสนทรงพลังให้กับนายของมัน ส่วนจะเป็นวิชาอาร์คาน่าประเภทใดนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ใช้งาน

ซูเฉินไม่จำเป็นจะต้องเลือก เขาครอบครองวิชาจิตหงส์เพลิงอยู่แล้ว

เขาต้องการจะรู้ว่าบ่อขุมพลังและวิชาจิตหงส์เพลิงจะผสานกันอย่างไร !

น้ำพุทมิฬนั้นเกี่ยวข้องกับพลังต้นกำเนิดความมืดอย่างเห็นได้ชัด

ซูเฉินได้รับทักษะต้นกำเนิดประเภทความมืดที่ทรงพลังมาจำนวนหนึ่งจากตระกูลหรง แต่ทรัพยากรสสารต้นกำเนิดความมืดของเขาคือตัวปัญหา ประตูแห่งความมืดที่เขาหมื่นดาบนั้นเป็นแหล่งของสสารต้นกำเนิดมืด แต่ก็มีเพียงแค่ที่เขาหมื่นดาบเท่านั้น ไม่ใช่รอบกายของซูเฉิน เมื่อซูเฉินไม่ได้อยู่ที่ภูเขา ปัญหาก็กลับมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง

น้ำพุทมิฬเป็นหนทางที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานั้น มันเปิดทางเชื่อมต่อไปยังด่านโดยตรงและสร้างความมืดหลั่งไหลออกมา ไม่เพียงเท่านั้น มันยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของทักษะต้นกำเนิดและวิชาอาร์คาน่าประเภทความมืดอีกด้วย วิชาอาร์คาน่านี้ถูกใช้เพื่อส่งเสริมวิชาอาร์คาน่าประเภทความมืดตั้งแต่แรกและเป็นพื้นฐานของวิชาเหล่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ซูเฉินจะเลือกมันด้วยเช่นกัน

วิชาอาร์คาน่าจำลองถูกใช้เพื่อเสริมความแกร่งของวิชาอาร์คาน่าและเพิ่มระยะเวลาแสดงผลของวิชานั้นได้มากมาย

ซูเฉินไม่ได้ครอบครองวิชาอาร์คาน่าใด ๆ แต่เขาก็มีทักษะต้นกำเนิดแยกร่างทำให้เขาสามารถแยกร่างของตัวเองได้ ร่างแยกนั้นถูกสร้างขึ้นจากการรวบรวมพลังต้นกำเนิด วิชาอาร์คาน่าจำลองจึงส่งผลกับพวกมันด้วย

ในขณะที่เส้นทางที่อวิ๋นเป้าเลือกนั้นผิดแปลกกว่าธรรมดา วิชาอาร์คาน่าทั้ง 3 นั้นกลับพบเห็นได้ทั่วไปและมีเพียงคนอย่างซูเฉินผู้ที่ผนวกพลังของแนวคิดมากมายเข้าเป็นหนึ่งเดียวที่เหมาะสมจะศึกษาเรียนรู้มัน ด้วย 3 วิชาอาร์คาน่านี้ ซูเฉินสามารถที่จะสร้างโครงร่างเชื่อมต่อกับทักษะต้นกำเนิดในตอนนี้เข้ากับวิชาอาคมอาร์คาน่า ทั้งสองถูกเชื่อมเข้าด้วยกันโดยสะพานนี้พร้อมกับความเกี่ยวพันกันอย่างเหนียวแน่นในอนาคต

และเหตุผลที่เขาสามารถเรียนรู้ทั้ง 3 วิชานี้ได้… มันก็เพราะเขาได้ไว้ชีวิตหญิงเผ่าปักษาไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง !