เหลยจ้านหัวเราะแล้วกล่าว “ว่ากันว่าต่างชาติเหล่านั้นมีร่างกายที่คล่องแคล่วว่องไว มีหัวสมองที่ไม่ซับซ้อน ฉันดูแล้วมันก็ไม่ใช่เสมอไป เพิ่งจะลงเครื่องเขาก็วางกลอุบายพวกเราแล้ว”
เฟิงเหมียนยิ้มพูด “พวกเขาอยากจะยั่วให้เราโมโห จากนั้นเราก็จะสูญเสียการตัดสินใจที่ถูกต้อง ทำให้พวกเราโดดเดี่ยว แผนการช่างโหดเหี้ยมนัก!”
เจียงเหอซานพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “ดังนั้นเราต้องสามัคคีกัน อย่าให้ในทีมของเราเกิดความขัดแย้งกันเอง แบบนี้ถึงจะสามารถรวมใจกันต่อสู้กับคนภายนอกได้!”
จีอู๋หยากล่าว “โส่วจ่างโปรดวางใจ พวกเราจำขึ้นใจแล้ว!”
เจียงเหอซานพยักหน้า แววตาเผยให้เห็นถึงจิตวิญญาณของการต่อสู้ พูดอย่างเสียงดังฟังชัด “เข้าฐานทัพ!”
“ครับผม!”
จริงๆแล้วในฐานทัพก็บ้านแถวที่ทำมาจากแผ่นไม้อัดธรรมดา สร้างให้ทหารของแต่ละประเทศเฝ้าประจำการที่เกาะโดยเฉพาะ
เจียงเหอซานเพิ่งจะพาทุกเข้าใกล้บ้านแถว ก็มีชายผมดำตาดำสองคนเดินออกมาแล้ว
“สวัสดีครับ โส่วจ่าง!” ทั้งสองคนยืนตัวตรงทำความเคารพเจียงเหอซาน
เจียงเหอซานพูดแนะนำให้ทุกคนรู้จัก “สองคนนี้คือวีรบุรุษของหัวเซี่ยของเราที่ประจำการอยู่ในสมรภูมิห้าประเทศ”
จีอู๋หยาและคนอื่นๆรีบยืนตัวตรง ทำความเคารพทั้งสองคน “ทำความเคารพวีรบุรุษ!”
เฉินโม่ไม่ได้ทำความเคารพ เขายังไม่ชินกับการทำความเคารพแบบทหาร อย่างไรก็ตามสายตาที่มองไปยังวีรบุรุษทั้งสอง แฝงไว้ด้วยความเคารพ
แม้ว่าเฉินโม่จะไม่รู้ว่าทั้งสองคนเฝ้าประจำการอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว ในเมื่อเจียงเหอซานได้แนะนำอย่างเป็นทางการ แสดงว่าภารกิจที่ทั้งสองคนทำคู่ควรต่อการเคารพชื่นชม
“ทุกคนไม่ต้องเกรงใจ โส่วจ่าง เชิญเข้าไปเถอะ!” ทั้งสองเปิดทาง ทำท่าเรียนเชิญ
เจียงเหอซานพยักหน้า มองไปยังจีอู๋หยาและคนอื่นๆแล้วพูด “ไปเถอะ!”
ขณะที่ทุกคนกำลังเดิน เจียงเหอซานก็ได้พูดขึ้น “มาถึงกี่ประเทศแล้ว?”
หนึ่งคนในนั้นตอบ “มีเพียงแต่คนของประเทศอเมที่มาแล้ว ตอนท้ายคนของประเทศอินก็มาถึงแล้วเช่นกัน”
เจียงเหอซาน “คนของประเทศรัสยังไม่มาเหรอ?”
“ตอนนี้ยังไม่ถึง”
“งั้นเราเข้าไปกันก่อนเถอะ!”
ห้องไม่ใหญ่มาก แบ่งเป็นห้าค่าย ทุกค่ายล้วนแขวนธงชาติของตัวเองเอาไว้
เจียงเหอซานพาเฉินโม่และคนอื่นๆ เข้าไปนั่งบนเก้าอี้ที่มีธงชาติของหัวเซี่ย
คนประจำการทั้งสอง ได้กลับไปตั้งแต่ตอนที่ถึงประตูแล้ว ราวกับว่ามันเป็นกฎของที่นี่
ตรงข้าม เป็นค่ายของประเทศอเม มีคนต่างชาติที่รูปร่างสูงใหญ่สิบกว่าคนนั่งอยู่แล้ว ในนั้นมีผู้ชายผิวสีสองคน
บนร่างของหลายคน มีพลังที่แข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าเจ้าของจะไม่สามารถควบคุมมันได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีอีกสองคน ที่มีกลไกโลหะอยู่บนแขนของพวกเขา เต็มไปด้วยความรู้สึกของเทคโนโลยี มันเหมือนกับหุ่นยนต์ในภาพยนตร์ฮอลลีวูด
เมื่อเห็นเจียงเหอซานและคนอื่นนั่งลงแล้ว คนของประเทศอเมก็ส่งเสียงเกรียวกราวกันขึ้นมา แม้ว่าจะไม่เข้าใจในภาษา แต่เมื่อดูจากสีหน้าท่าทางของพวกเขา พวกเขากำลังนินทาเฉินโม่และพวกอยู่
“พวกเขากำลังพูดอะไร?” จางเจิ้นถามอย่างหน้าบึ้ง
ในเจ็ดคน มีเพียงแต่จีอู๋หยากับเหลยจ้านที่ได้ภาษาอังกฤษ แม้แต่ผู้หญิงว่าเฟิงเหมียนก็ไม่ได้ พูดว่าไม่ได้ จริงๆแล้วก็คือไม่อยากจะเรียนรู้
เหลยจ้านพูดด้วยสีหน้าที่แปลกพิลึก “ฉันว่านายฟังไม่เข้าใจน่ะดีแล้ว”
จางเจิ้นกล่าว “ฉันรู้ว่าปากอย่างพวกมันน่ะไม่มีทางพูดดีแน่ เพียงแต่ว่าฉันก็ยังอยากจะรู้ว่าพวกมันกำลังพูดอะไร!เมื่อถึงเวลาฆ่าพวกมัน จะได้ไม่ใจอ่อน!”
“ก็ได้ ในเมื่อนายมีความจริงใจในการถามฉัน งั้นฉันก็จะเมตตาบอกนาย พวกเขาบอกว่า……ทรงผมของนายเหมือนก้อนขี้!”
พุช!
ลี่เซี่ยวเกือบจะสำลักน้ำลายของตัวเองตายแล้ว เหลือบมองผมทรงสกินเฮดของจางเจิ้นไปแวบหนึ่ง ก็พยักหน้าอย่างจริงจัง “สายตาด้านความสวยความงามของประเทศอเมถือว่าใช้ได้!”