ในที่สุด เยี่ยโยวเหยาก็ผ่านทางแยกที่สี่ที่ซูจิ่นซีบอกไว้ ทั้งยังได้ยินเสียงแปลกๆ ที่อยู่ข้างหน้าอย่างชัดเจน
เสียงนั้นดังอยู่ในหู เยี่ยโยวเหยาใบหน้าซีดเผือดเล็กน้อย ดวงตาสีแดงดั่งโลหิตเต็มไปด้วยไอสังหาร เขาพยายามวิ่งไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง
ในที่สุด เขาก็พบซูจิ่นซี
ทว่าสถานการณ์ของซูจิ่นซีไม่ดีนัก ร่างเล็กของนางยืนอยู่ท่ามกลางทางเดินที่มืดมิด
สิ่งที่ปรากฏบนพื้น บนผนัง และบนเพดาน ล้วนเป็นหนูตัวใหญ่ที่ซูจิ่นซีหวาดกลัวจนเรียกได้ว่าอกสั่นขวัญแขวนเลยทีเดียว
หนูของพวกแคว้นไหวเจียงล้วนเป็นหนูพิษ ซึ่งเลี้ยงด้วยพิษชนิดพิเศษ ทั้งร่างของพวกมันยังมีขนาดใหญ่กว่าหนูทั่วไปสี่หรือห้าเท่า
แม้ซูจิ่นซีจะกวัดแกว่งกระบี่ในมือไม่หยุด และสาดผงพิษออกไปอย่างต่อเนื่อง
ทว่าหนูพิษเหล่านั้นยังคงวิ่งออกมาจากรูลึกดั่งน้ำพุ ราวกับไม่มีวันสังหารและวางยาพิษพวกมันได้หมด
ร่างเล็กๆ ของซูจิ่นซียืนเผชิญหน้ากับหนูพิษตัวใหญ่ที่ถาโถมเข้ามาหานาง แม้ท่าทางของนางจะดูแข็งแกร่ง ทว่าใบหน้ากลับซีดขาว แม้แต่นิ้วที่จับกระบี่เฟิ่งอวี่ยังซีดขาว
ท่าทางของซูจิ่นซีสะท้อนอยู่ในดวงตาของเยี่ยโยวเหยา เขาพลันรู้สึกเจ็บปวดใจ
ไม่มีผู้ใดเข้าใจดีไปกว่าเยี่ยโยวเหยาอีกแล้วว่า ในตอนนี้ ซูจิ่นซีหวาดกลัวมากเพียงใด
เยี่ยโยวเหยาเหาะขึ้นไป ทันใดนั้น ร่างสูงใหญ่และเย็นชาก็ลงมายืนด้านข้างซูจิ่นซี เขาดึงซูจิ่นซีเข้ามาในอ้อมแขนของตน และกดศีรษะของซูจิ่นซีลงที่หน้าอกของตน เพื่อไม่ให้นางเผชิญหน้ากับหนูพิษเหล่านั้น
จากนั้นจึงใช้กระบี่ฟาดฟันและสังหารเหล่าหนูพิษอย่างต่อเนื่อง
สีหน้าของซูจิ่นซีดีขึ้นเล็กน้อย นางค่อยๆ ปิดอาคมกำไลปี่อั้น และใช้พลังภายในปิดผนึกการได้ยินของตนเอง ด้วยมือทั้งสองข้างที่โอบแน่นอยู่รอบเอวของเยี่ยโยวเหยา นางทิ้งร่างของตนให้เยี่ยโยวเหยาทั้งหมด
นางรู้ว่าเยี่ยโยวเหยาจะต้องมาแน่นอน!
เยี่ยโยวเหยา สามีของนางจะต้องมาช่วยนางอย่างแน่นอน!
บุรุษผู้นี้เป็นดั่งเทพสวรรค์ เป็นผู้ที่โดดเด่นที่สุดในอาณาจักรเทียนเหอ เขาไม่เคยทำให้นางผิดหวังแม้แต่น้อย
ฟัน ฟัน ฟัน ฟัน…
ซากศพหนูที่เปื้อนเลือดตกลงมาบนพื้นราวกับห่าฝน ทั้งบนพื้นยังเต็มไปด้วยเลือด
อย่างไรก็ตาม ยิ่งหลั่งเลือดมากเท่าใด หนูพิษที่ได้กลิ่นเลือดก็วิ่งเข้ามามากขึ้นและยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น พวกมันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าหนูจำนวนมากมาจากที่ใด
เยี่ยโยวเหยาฆ่าพวกมันมาครึ่งชั่วยามแล้ว ทว่ายังฆ่าไม่หมด ทั้งหนูพิษยังหลั่งไหลออกมาเรื่อยๆ
ทว่าเยี่ยโยวเหยายังคงมีสติ เขาไม่อาจเสียเวลาอยู่ที่นี่นานนัก
หากเขาเสียเวลาอยู่ที่นี่นาน องครักษ์เงาและองครักษ์ที่ติดตามพวกเขาอยู่ข้างนอกจะมีอันตรายมากขึ้น
ทันใดนั้น เยี่ยโยวเหยาก็รวบรวมพลังภายในไว้ที่กระบี่ในมือ และฟาดออกไปที่ส่วนลึกของหลุมอย่างแรง พลังที่แข็งแกร่งและทรงพลังได้สกัดกั้นหนูพิษไว้ชั่วคราว
หลังจากนั้น เยี่ยโยวเหยาก็รีบอุ้มซูจิ่นซีมาไว้ในจุดที่ปลอดภัย และพูดข้างใบหูของนางว่า “จิ่นซี รอข้า”
ซูจิ่นซีเข้าใจดีว่าเยี่ยโยวเหยากำลังจะทำสิ่งใด นางพยักหน้าและปล่อยเยี่ยโยวเหยา
เยี่ยโยวเหยากลับมาสู่ตำแหน่งเดิมด้วยความเร็วสูงสุด เขาถือกระบี่ยาวคมกริบไว้ในมือและค่อยๆ ยกมันขึ้น จากนั้นจึงส่งพลังยุทธจิ่วเซียวทั้งหมดในร่างกายเข้าสู่กระบี่ยาว ดวงตาที่เคร่งขรึมและเต็มไปด้วยไอสังหาร จ้องมองไปยังหนูพิษที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า
เมื่อเหล่าหนูพิษอยู่ห่างจากเยี่ยโยวเหยาในระยะสามจั้ง เยี่ยโยวเหยาก็ฟาดกระบี่ยาวของเขาออกไปทันที…
‘โครม ครืน ครืน… ’
ด้วยพลังภายในที่แข็งแกร่ง ส่งรัศมีม้วนตัวออกไปดั่งเกลียวคลื่น ทำให้เกิดแสงสว่างเจิดจ้าตลอดเส้นทาง พลังภายในอันทรงอานุภาพวิ่งผ่าน ฉีกร่างของหนูพิษตัวใหญ่จนแหลกละเอียด
อย่างไรก็ตาม พลังภายในอันแข็งแกร่งยังคงม้วนตัวเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เข้าไปในส่วนลึกของทางเดิน
เยี่ยโยวเหยาราวกับราชาผู้ทรงอำนาจ ทันใดนั้น เขาก็หันกลับมากอดซูจิ่นซี และวิ่งออกไปตามเส้นทางอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งมาถึงตำหนักแปดเหลี่ยม เยี่ยโยวเหยาจึงหยุดและวางซูจิ่นซีลงบนพื้น
เหล่าองครักษ์และองครักษ์เงาต่างรีบวิ่งเข้ามาหา
“ท่านอ๋อง พระชายา ในที่สุดพวกท่านก็ออกมา กระหม่อมและคนอื่นๆ เป็นห่วงพวกท่านยิ่งนัก แต่เกรงว่าหากเข้าไปตามหาพวกท่าน อาจทำให้หลงทางและก่อความเสียหายได้ จึงไม่กระทำการอันใดหากไม่ได้รับคำสั่ง ท่านอ๋องและพระชายาไม่เป็นอันใด ช่างดียิ่งนัก! ”
ซูจิ่นซีมองจิ้นหนานเฟิงที่มีใบหน้าซีดขาว ร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือด เพียงมองก็รู้ว่าบาดแผลหลายแห่งเป็นรอยแผลที่ถูกสัตว์ร้ายกัด
นอกจากนั้น ข้างกายเขายังมีองครักษ์และองครักษ์เงาจำนวนมากที่ได้รับบาดเจ็บ
ซูจิ่นซีนำยาสมุนไพรออกมาจากระบบถอนพิษ และเดินไปข้างหน้าเพื่อทำแผลให้พวกเขา
พวกเขาคิดไม่ถึงว่า เจ้านายของพวกเขาซึ่งเป็นพระชายาผู้สูงศักดิ์ จะรักษาบาดแผลและพันผ้าพันแผลให้พวกเขาด้วยตนเอง
แม้แต่จิ้นหนานเฟิงที่คุ้นเคยกับเยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซีเป็นอย่างดียังรู้สึกปลาบปลื้ม
อย่างไรก็ตาม ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาถูกกำหนดให้ไม่อาจได้รับความโชคดีนั้น
ขณะที่มือของซูจิ่นซีสัมผัสบาดแผลบนร่างกายของจิ้นหนานเฟิง เยี่ยโยวเหยาที่ยืนอยู่ไกลออกไปก็รีบเข้ามายืนด้านข้างซูจิ่นซี และดึงซูจิ่นซีให้ลุกขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว “เยี่ยโยวเหยา ท่านกำลังทำอันใด? ”
ดวงตาของเยี่ยโยวเหยาปรากฏความเย็นชาเล็กน้อย และจ้องไปที่ซูจิ่นซีอย่างใกล้ชิด “ซูจิ่นซี เจ้าไม่รู้หรือว่าเจ้ามีสถานะเช่นไร? ”
ซูจิ่นซีมีท่าทางสงสัย
นางคือพระชายา ถูกต้องแล้ว!
ทว่านางก็เป็นหมอผู้หนึ่งอีกด้วย!
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้บาดเจ็บที่อยู่เบื้องหน้าคือองครักษ์ผู้ติดตามนางมาจากแคว้นหนานหลี ทั้งยังเป็นองครักษ์เงาของวิหารวิญญาณที่ติดตามเยี่ยโยวเหยามาอีกด้วย
เวลานี้ไม่มีหมอท่านอื่นแล้ว นางรักษาพวกเขา มีอันใดไม่ดีหรือ?
ทว่าแท้จริงแล้ว โยวอ๋องของพวกเราไม่ได้นึกถึงเรื่องเหล่านี้
เยี่ยโยวเหยาบีบแขนของซูจิ่นซีแน่นขึ้นเล็กน้อย ดวงตาที่เคร่งขรึมและเย็นชาค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ซูจิ่นซี
“ซูจิ่นซี อยู่ต่อหน้าข้า เจ้ายังกล้าแตะต้องบุรุษอื่น ยามอยู่ลับหลังข้า เจ้าเคยกระทำสิ่งใดไปบ้าง? ”
ทันใดนั้น เส้นหยักในสมองของซูจิ่นซีก็สว่างสดใส นางค่อยๆ เผยรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย
นางจับมือเยี่ยโยวเหยา พลางยื่นหน้าเข้าไปหาเขา “เยี่ยโยวเหยา ท่านคงไม่ได้… กำลังหึงหวงกระมัง? ”
ท่านอ๋องหึงหรือ?
ทันใดนั้น เหล่าองครักษ์เงาของวิหารวิญญาณก็ก้าวออกห่างจากซูจิ่นซีทีละก้าวอย่างมีสติ
เหล่าองครักษ์เงาที่บาดเจ็บไม่อาจเคลื่อนไหวได้ ทว่าพวกเขาไม่รอช้า ต่างรีบหารอยตะเข็บเพื่อซ่อนตัว พวกเขารู้สึกสันหลังเย็นวาบ และแทบไม่รับรู้ถึงศีรษะที่อยู่บนลำคอตนเอง
ซูจิ่นซีรู้ว่ายามที่เยี่ยโยวเหยาหึงหวงจะอารมณ์ไม่ดีนัก นางกะพริบตาสองครั้งและจ้องตาของเยี่ยโยวเหยา ราวกับปรารถนาจะเห็นคำตอบที่ต้องการจากดวงตาเคร่งขรึมนั้น
“ท่านอ๋อง… หือ? ”
เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้ว ดวงตาเคร่งขรึมทอประกายรัศมีอันตรายอย่างเชื่องช้า
“ซูจิ่นซี นับวันเจ้ายิ่งกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ ”
ซูจิ่นซีรับรู้ถึงลมหายใจอันตรายที่คุ้นเคย นิ้วมือของนางสั่นเทาเล็กน้อย และค่อยๆ ผลักมือของเยี่ยโยวเหยาออกไป จากนั้นจึงเขยิบถอยหลัง แววตาเผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ท่านอ๋อง จิ่นซีไม่ได้ตั้งใจเพคะ! ท่านเห็นหรือไม่ พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจปล่อยไว้ หากเสียเลือดมากเกินไปจะทำให้เสียชีวิตได้! ”
นางรู้ดีว่าแววตาอันตรายของเยี่ยโยวเหยาคือสิ่งใด
ทว่า สถานการณ์ในตอนนี้…
มีคนรายล้อมอยู่มากมาย!
เขาคงไม่สามารถลงโทษอันใดนางได้กระมัง?