ภาคที่ 34 เทพจักรวาล ตอนที่ 25 เป้าหมายการสังหาร

Snow Eagle Lord อินทรีหิมะเจ้าดินแดน

ระดับจอมเคารพนั้น แม้พลังจะแตกต่างกันไม่มากนัก แต่กลับมีการแบ่งระดับสูงต่ำ

เมื่อสูงขึ้นระดับหนึ่ง สิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูก็มิอาจสังหารได้ เช่นประมุขรัฐเมฆทักษิณา มหาเคารพฝูอี่ มหาเคารพซือเทียนและ ‘เจ้าลัทธิเหยียนโม๋’ เจ้าลัทธิใหญ่ในทะเลสาบมารทมิฬล้วนแต่เป็นหนึ่งในนั้น เช่นนี้จึงมีคุณสมบัติพอจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ทรงอำนาจที่ไร้เทียมทานในดินแดนจิตโลกา! บรรดาสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูก็มิกล้าดูแคลนพวกเขา พวกเขากล้าเรียกได้ว่าทรงอำนาจในฟากฝั่งหนึ่ง มารร้ายของทะเลสาบมารทมิฬบางตนถึงขั้นกล้าเข้าไปก่อความวุ่นวายในรัฐโบราณคิมหันตวายุ เพราะเหตุใดน่ะหรือ ก็เพราะมีเจ้าลัทธิเหยียนโม๋คอยหนุนหลังอยู่อย่างไรเล่า

มาถึงระดับนี้

สามารถฉีกหน้าสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูได้! อย่างสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ ในฐานะหนึ่งในสิบสำนักใหญ่ซึ่งหาแก้วผลึกจักรวาลได้จำนวนมหาศาล และทำให้เหล่าสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูอิจฉาตาร้อนขึ้นมาได้ และถึงขั้นเคยลงมือกับประมุขรัฐเมฆทักษิณา ประมุขรัฐเมฆทักษิณาจึงได้พิสูจน์ผ่านการห้ำหั่นซึ่งหน้าว่า…เขาสามารถยืนหยัดได้โดยไม่ล้มลงไป!

เมื่อเป็นรองกว่าระดับหนึ่ง แม้พลังจะแตกต่างกันไม่มากนัก แต่ก็ยังคงทำไม่ได้ถึงขั้นรักษาชีวิตเอาไว้เมื่ออยู่ตรงหน้าสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรู ซึ่งนี่ก็คือความลำบากของระดับผู้เคารพส่วนใหญ่

ช่วยไม่ได้

‘สมบัติลับระดับยอดสุด’ ยกระดับได้เพียงบางด้านเท่านั้น ดังเช่นสมบัติลับจำพวกบริเวณ ก็เพียงแค่ทำให้พลังด้านบริเวณยกระดับขึ้นไปจนถึงเทพจักรวาลชั้นที่สาม! เมื่อผู้แกร่งกล้าระดับเทพจักรวาลชั้นที่สองซึ่งมีเพียงบริเวณที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งคนหนึ่งเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูก็ยังคงต้องตายอยู่ดี!

หากพูดถึงจำนวนของระดับจอมเคารพแล้ว

สกุลฝานมีหกท่านด้วยกัน สกุลเซี่ยมีเก้าท่าน ส่วนสกุลชางบัดนี้มีผู้ที่บรรลุถึงเจ็ดคนแล้ว! แต่ผู้ที่กล้าพูดว่าสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูฆ่าไม่ตายนั้น ภายในเขตแดนของทั้งรัฐโบราณคิมหันตวายุก็มีน้อยเสียจนยกนิ้วนับได้

เมื่อทอดสายตามองไปทั่วทั้งดินแดนจิตโลกา ผู้ทรงอำนาจไร้เทียมทานระดับนี้ก็มีน้อยยิ่งนัก

“มหาเคารพฝูอี่จัดเป็นอันดับหนึ่งอันดับสองในบรรดามหาเคารพเก้าท่านแห่งสกุลเซี่ย” ตงป๋อเสวี่ยอิงอ้าปากค้าง “หากเขาเอ่ยปากต้องการสักอันดับหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย จะมาช่วงชิงด้วยหรือ ด้วยสถานะของเขา ต่อให้เพื่อหน้าตา สกุลเซี่ยก็ต้องช่วยเขาแย่งชิงมาให้ได้สักอันดับหนึ่งอยู่ดี”

“เสวี่ยอิง เจ้าเลือกภารกิจเสร็จแล้วหรือยัง” ประมุขรัฐเมฆทักษิณาเอ่ยถาม

“เสร็จแล้วขอรับ”

ตงป๋อเสวี่ยอิงโบกมือคราหนึ่ง บนโต๊ะมีม้วนสาส์นม้วนหนึ่งปรากฏขึ้นมา ม้วนสาส์นพลิกม้วนแล้วคลี่ตัวออกอย่างสิ้นเชิง ด่านบนมีภารกิจข้อแล้วข้อเล่า แต่ละข้อล้วนเชื่อมโยงกับ ‘มหาคุณูปการ’

ภารกิจหลายร้อยข้อเรียงรายจนแน่นขนัดไปหมด

ในจำนวนนั้นมีภารกิจสังหารอยู่ห้าสิบข้อ

เป้าหมายการสังหารซึ่งเป็นระดับจอมเคารพมีสิบสองข้อด้วยกัน หากสังหารสำเร็จ คุณูปการก็จะมีตั้งแต่ ‘สามหมื่นมหาคุณูปการไปจนถึงแปดหมื่นมหาคุณูปการ’ เลยทีเดียว!

ส่วนอีกสามสิบแปดข้อ ผู้ที่จะต้องสังหารล้วนแต่มีพลังระดับเทพจักรวาลชั้นที่สองทั้งสิ้น คุณูปการภารกิจนั้นมีตั้งแต่ ‘สามพันมหาคุณูปการไปจนถึงสามหมื่นมหาคุณูปการ’ เลยทีเดียว!

ต่อไปก็คือ ‘ภารกิจสมบัติวิเศษ’

สมบัติวิเศษนานาชนิด สามารถแลกเปลี่ยนเป็นคุณูปการภารกิจได้!

ดังเช่น ‘มณีอสรพิษเขี้ยวหัก’ ซึ่งมีอันดับสูงที่สุด มณีเม็ดหนึ่งสามารถแลกเปลี่ยนได้สองแสนมหาคุณูปการ!

“มณีอสรพิษเขี้ยวหักหรือ เกรงว่าหกรัฐโบราณคงจะต้องการกันหมดกระมัง หากนำมณีอสรพิษเขี้ยวหักออกมาสักก้อนหนึ่ง หกรัฐโบราณก็คงยินดีจะทุ่มเทมูลค่ามหาศาลแล้วมอบอันดับให้กระมัง” ตงป๋อเสวี่ยอิงลอบรำพึง

มณีอสรพิษเขี้ยวหักนั้นมีต้นกำเนิดมาจาก ‘หุบเขาเขี้ยวหัก’

……

สถานที่ล้ำค่าที่สุดของดินแดนจิตโลกาก็คือวังเทพจิตโลกา

ส่วนสถานที่ที่อันตรายเป็นอันดับหนึ่งในดินแดนจิตโลกาก็คือหุบเขาเขี้ยวหัก! หากมองจากฟากฟ้าออกไปไกลลิบ ก็จะสามารถมองเห็นได้ว่ายอดเขาที่สูงที่สุดของหุบเขาเขี้ยวหักก็คือฟันหนึ่งซี่ที่หักไปครึ่งหนึ่ง! ฟันซี่นี้สูงตระหง่านหาใดเปรียบ…และทำให้ทั้งเทือกเขาถูกขนานนามว่า ‘หุบเขาเขี้ยวหัก’ หุบเขาเขี้ยวหักครองพื้นที่กว้างขวางอย่างยิ่งจนเรียกได้ว่าไร้ขอบเขต มันมีขนาดเท่ากับรัฐโบราณคิมหันตวายุสามแห่ง ภายในหุบเขาเขี้ยวหักเต็มไปด้วยอันตรายทุกหนแห่ง ว่ากันว่าภายในหุบเขาเขี้ยวหักเคยมีสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูสิ้นใจไปถึงสองท่านด้วยกัน

แต่ก็ยังมีเทพจักรวาลขั้นสุดยอดและบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปตรวจสอบ

ตามตำนาน สิ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดภายในหุบเขาเขี้ยวหักก็คือ ‘มณีอสรพิษเขี้ยวหัก’ หากผู้ใดได้มณีอสรพิษเขี้ยวหักไปเม็ดหนึ่ง ก็จะกลายเป็นทหารระดับสูงของรัฐโบราณสักแห่งหนึ่งในหกรัฐโบราณทันที สามารถแลกเปลี่ยนเอาผลประโยชน์ต่างๆ มาได้

ดังนั้นจึงมีผู้บำเพ็ญจำนวนมากเสี่ยงอันตรายเข้าไปในหุบเขาเขี้ยวหัก! และยังมีผู้ที่ถูกหมายหัว ถูกไล่ล่าจนต้องหนีเข้าไปภายในหุบเขาเขี้ยวหัก

ส่วนใหญ่ล้วนสิ้นใจอยู่ในนั้น

จำนวนนั้นมีชีวิตรอดออกมาได้…และถึงขั้นมีบางคนโชคดีได้สิ่งล้ำค่ามา!

“เป้าหมายที่ข้าเลือกก็คือมารร้ายแห่งรัฐเหินประจิม” ตงป๋อเสวี่ยอิงถ่ายเสียงพูด

“รัฐเหินประจิมรึ อื้ม ระวังหน่อยก็แล้วกัน”

“วางใจเถิดขอรับท่านอาจารย์”

ตงป๋อเสวี่ยอิงมองไปทางม้วนสาส์นที่คลี่ออกมา

ในบรรดาเป้าหมายทั้งห้าสิบของภารกิจสังหารบนม้วนสาส์น มีรัฐเหินประจิมอยู่ห้าคนด้วยกัน

แม้รัฐเหินประจิมจะเป็นรัฐแห่งหนึ่ง อันที่จริงแล้วกลับเป็นสถานที่รวมตัวกันของมารร้าย แม้สภาพแวดล้อมจะไม่เลวร้ายเท่าทะเลสาบมารทมิฬ แต่หากพูดถึงจำนวนมารร้ายแล้ว กลับมากมายไม่แพ้ทะเลสาบมารทมิฬเลย

ผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดและมีสถานะสูงส่งที่สุดก็คือประมุขรัฐเหินประจิม ทว่าโดยทั่วไปเขาเรียกตนเองว่า ‘บรรพชนเหินประจิม’ บรรพชนเหินประจิมก็เป็นผู้ทรงอำนาจที่ไร้เทียมทานทางฟากฝั่งหนึ่งซึ่งมักจะต่อต้านรัฐโบราณสหโลกาซึ่งหน้าอยู่เป็นประจำ! เหิมเกริมเป็นอันมาก ถึงขั้นที่บางครั้งพวกเขาต่างก็ส่งผู้ใต้บังคับบัญชาไปสร้างหายนะแก่รัฐโบราณอีกห้ารัฐที่เหลือ บรรพชนเหินประจิม…หกรัฐโบราณล้วนต้องการสังหารเขาทั้งสิ้น น่าเสียดายที่ฆ่าไม่ตายเสียที!

เนื่องจากรัฐโบราณสหโลกานั้นอยู่ใกล้กับรัฐเหินประจิม และเคยส่งยอดฝีมือบุกเข้าไปสังหารหลายครั้ง สังหารเสียจนรัฐเหินประจิมบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนนับไม่ถ้วน น่าเสียดายที่บรรพชนเหินประจิมไม่แยแส! เขาและประมุขรัฐเพรียกหิมะนั้นเหมือนกันมาก

ประมุขรัฐเพรียกหิมะก็ไม่ไว้หน้ารัฐโบราณคิมหันตวายุเลย

ทว่าตัวประมุขรัฐเพรียกหิมะเองมิใช่มารร้าย เพียงแค่นิสัยหยิ่งทระนงเกินไปเท่านั้น

ส่วน ‘รัฐเหินประจิม’ กลับมีมารร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว

รางวัลของภารกิจในครั้งนี้ ภารกิจสังหารของรัฐโบราณคิมหันตวายุได้กำหนดบุคคลระดับสูงของทางพวกเขาเอาไว้ห้าคนด้วยกัน แน่นอนว่าไม่มีทางตั้งรางวัลค่าหัวของบรรพชนเหินประจิมอย่างแน่นอน เพราะนั่น แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่ไร้ศัตรูก็ยังมิอาจสังหารได้

คนหนึ่งก็คือผู้แกร่งกล้าซึ่งจัดเป็นอันดับสองของทางรัฐเหินประจิม ซึ่งก็คือสิ่งมีชีวิตระดับจอมเคารพ ‘จอมเคารพสะบั้นฟ้า’ นั่นเอง!

ส่วนอีกสี่คนที่เหลือก็คือ ‘สี่วายร้ายเหินประจิม’

“ไหนเลยข้าจะกล้ามีความคิดโจมตีจอมเคารพสะบั้นฟ้าได้เล่า สี่วายร้ายเหินประจิม พลังแตกต่างกับข้าไม่มากนัก บัดนี้วังเทพจิตโลกาเปิดออกแล้ว คาดว่าเหล่ามารร้ายรัฐเหินประจิมคงพอเดาได้ว่าพวกเขาจะถูกตั้งค่าหัว จึงต้องระมัดระวังเป็นอันมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นถิ่นของพวกเขา เมื่อพบอันตรายก็เกรงว่าคงจะให้บรรพชนเหินประจิมและจอมเคารพสะบั้นฟ้ามาช่วยเหลือแล้ว จะสังหารพวกเขานั้นยากเย็นเพียงใด” ตงป๋อเสวี่ยอิงก็เข้าใจในจุดนี้ดี

“ด้วยพลังของข้า ก็มีเพียง ‘จ้าวมารจันทราวายุ’ เท่านั้นที่ข้าสามารถกำราบได้พอดี และสามารถจัดการทิ้งไปได้ในทันใด ทันทีที่กำจัดเขาได้แล้ว ข้าก็จะรีบหนีไปทันที” ตงป๋อเสวี่ยอิงมีวิธีการกลายเป็นอากาศธาตุ          ขั้นสุด จะหนีไปก็ยังคงพอจะมีหวังอยู่บ้าง

“จ้าวมารจันทราวายุ!”

ตงป๋อเสวี่ยอิงมองดูรายนามบนม้วนสาส์น และรางวัลถึง ‘หนึ่งหมื่นหนึ่งพันมหาคุณูปการ’ นัยน์ตาก็ฉายแววรอคอยออกมา

จากประสบการณ์ โดยทั่วไปแล้วหากมีมหาคุณูปการหมื่นแต้ม ก็จะมีโอกาสได้รับอันดับแล้ว เนื่องจากแต่ละคนที่ถูกตั้งค่าหัวนั้นล้วนแต่ไม่ธรรมดาทั้งสิ้น  คิดจะสังหารก็ยากยิ่งนัก

“ขอรับ”

ตงป๋อเสวี่ยอิงเก็บม้วนสาส์นลงไป จากนั้นก็ยืดกายขึ้นทันที

……

เชาแปลงโฉมเอาไว้ก่อนแล้ว การกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุดก็สามารถปกปิดกลิ่นอายได้อย่างสมบูรณ์ เขาแสร้งทำเป็นกลิ่นอายขั้นรวมเป็นหนึ่ง หนุ่มน้อยอาภรณ์ขาวขั้นรวมเป็นหนึ่งคนหนึ่ง เมื่ออยู่ภายในรัฐเหินประจิมก็ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงเอาเสียเลย ระดับพลังเช่นนี้ยังมิอาจนับได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่ใหญ่หลวง แต่ก็คงไม่ถูกเหยียดหยาม

“จ้าวมารจันทราวายุ”

ตงป๋อเสวี่ยอิงกำลังตามหา

เมื่อมีบรรพชนเหินประจิมคอยช่วยปกปิด ศาสตร์การตามรอยก็หาไม่พบมาโดยตลอด เครือข่ายข่าวสารของสำนักวิชาเมฆทักษิณาทิพย์ก็มิอาจหาพบได้ คล้ายกับว่าหลังจากวังเทพจิตโลกาเปิดออกมานั้น จู่ๆ จ้าวมารจันทราวายุก็ถ่อมตนลงมาเสียอย่างนั้น

ราตรีมืดมิด

“เขาจะอยู่ที่ใดได้หนอ”

เขาสำแดงการกลายเป็นอากาศธาตุขั้นสุด ตงป๋อเสวี่ยอิงซึ่งเดินเข้าๆ ออๆ ทั่วทั้งในและนอกจวนจ้าวมารพิรุณวายุงุนงงเป็นอย่างมาก

“จ้าวมารจันทราวายุชมชอบสตรีเป็นที่สุด สตรีแต่ละนางเมื่อถึงมือเขาแล้วก็ล้วนต้องถูกทรมานจนตาย …” ในห้วงสมองของตงป๋อเสวี่ยอิงมีข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับจ้าวมารจันทราวายุจำนวนมากแวบขึ้นมา เขาคิดจะคาดเดาตำแหน่งที่จ้าวมารจันทราวายุซ่อนตัวอยู่จากข้อมูลที่ได้มา

 ……………………………………