GGS:บทที่ 949 กลับตาลปัต

 

ทันทีที่กัปตันเรือทีมญี่ปุ่นได้ยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการข่มขู่ทีมเก็บกู้จากจีนนั้น เงาดำใต้ท้องเรือก็ลอยตัวขึ้นมาจากใต้น้ำแล้วทำการจับไปที่เรือของทีมเก็บกู้จากญี่ปุ่นในทันที

เรือทั้งลำได้สั่นโคลงเคลงไปมาอย่างหนักจนทำให้คนบนเรือยืนเฉยๆไม่ได้ต้องหาที่เกาะอย่างจ้าละหวั่น บางคนหาที่เกาะไม่ทันก็ได้กระเด็นออกจากเรือไปก็มี

“เกิดอะไรขึ้น นี่เราชนโคดหินเหรอ”

“กลางทะเลลึกแบบนี้จะไปมีโคดหินแบบนั้นได้ยังไงกัน อีกอย่างเราจอดเฉยๆนะเว้ยจะไปชนของแบบนั้นได้ยังไง”

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ในตอนนี้ต่างก็ตกตะลึงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นก็ได้มีหนวดสีแดงเข้มอันใหญ่ยักษ์ชูขึ้นมาจากใต้น้ำ

หลังจากนั้นหนวดนั่นก็ได้จับไปยังกาบเรือทางด้านซ้ายและขวาของเรือญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นสองคนเองที่เห็นถึงกับหน้าเสียราวกับตกไปอยู่ในดินดูด ตอนนี้เรือทั้งลำโยกคลอนไปมาราวกับกำลังแล่นฝ่ากับดักทุ่นระเบิดที่อยู่ในน้ำ

ทีมเก็บกู้ชาวญี่ปุ่นในตอนนี้ตกใจกันไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก บางคนร้องลั่น บางคนเป็นลมไปเลยก็มี ด้วยสภาพตอนนี้นั่นพวกเขาเปรียบได้ดั่งหนูติดจั่น หนีไปไหนก็หนีไม่พ้น

ทีมเก็บกู้ชาวจีนเองที่เตรียมพร้อมจะต่อต้านนั้นถึงกับตกใจกันไปหมดทุกคน ช่างเป็นฉากที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ

“พระเจ้า เกิดนรกอะไรกันเนี่ย”

“หมึก!!!หมึกยักษ์ เป็นหมึกยักษ์….”

“มัวทำอะไรกันอยู่วะ ฆ่ามันสิเว้ย”

ทีมเก็บกู้ชาวญี่ปุ่นในตอนนี้กำลังโกลาหลกันไปหมด มีเพียงกัปตันของเรือที่ยังพอควบคุมสติเอาไว้ได้และได้ทำการเปิดการโจมตีด้วยปืนกล

คนอื่นๆเองเมื่อได้ยินเสียงปืนก็เริ่มได้สติและเตรียมตัวที่จะยิงสนับสนุน แต่ในตอนนั้นเองเรือก็ได้สั่นแรงกว่าเดิมจนเกิดเสียงดังลั่น

 

เสียงนั้นคือเสียงเรือแตก เรือได้แตกออกเป็นสองท่อนตามแรงดึงของหนวดทั้งสองของหมึกยักษ์ นั่นทำให้เรือในตอนนี้แยกออกไปสองส่วน

หลังจากชิ้นส่วนนั้นถูกดึงออกไปแล้วในตอนนี้เหลือเพียงตรงการลำเรือเท่านั้นที่ยังพอยืนอยู่ได้ ทุกคนรีบตัดสินใจไถลร่างของตัวเองมาที่กลางลำเรือในทันทีไม่ได้สนใจเรื่องฆ่าหมึกยักษ์แต่อย่างใด

 

กัปตันเรือที่เป็นคนลั่นไกปืนกลก่อนหน้านี้เองก็พยายามที่จะควบคุมเรือไม่ให้ล่ม และแน่นอนว่านั่นมันไร้ประโยชน์ เรือทั้งลำได้จมลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็วกว่าปกติด้วยการดึงของหมึกยักษ์ที่กำลังกระชากเรือลงน้ำ

“หนีเร็วเข้า”

“สัตว์ประหลาด”

ทีมเก็บกู้ของญี่ปุ่นที่ตกลงไปในน้ำนั้นพวกเขาได้เห็นหนวดหมึกสีแดงฉานอันใหญ่ยักษ์ปรากฎอยู่ตรงหน้า พวกเขาได้กลัวตายในทันทีและพยายามว่ายน้ำหนึอย่างจ้าละหวั่น

 

แต่คราวนี้ถึงตาหมึกยักษ์เอาคืนบ้าง หมึกยักษ์ได้ฟาดลงไปยังคนที่พยายามว่ายหนี คนที่โดนฟาดไปส่วนใหญ่ก็ตายในทันที

หมึกยักษ์ยังคงไล่ฟาดคนญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ทีละคน ทีละคนอย่างช้าๆ ชาวญี่ปุ่นเองก็ได้ตายแทบจะในทันทีทีละคนทีละคน ราวกับมันกำลังสนุกกับการไล่ตีสัตว์ตัวน้อย

ชาวญี่ป่นุจำนวนหนึ่งรวมถึงกัปตันเรือของทีมญี่ปุ่นเองได้ว่ายน้ำมายังเรือของทีมเก็บกู้ของจีน เขาตะโกนออกมาอย่างน่าไม่อายว่า “ช่วย ช่วยพวกเราด้วย”

กัปตันเรือของทีมเก็บกู้จากจีนที่ก่อนหน้านี้กำลังมองเหตุการณ์ด้วยความหวาดหวั่นเล็กน้อยนั่น ทันทีที่ได้ยินเสียง เขาหันไปมองกัปตันชาวญี่ปุ่นด้วยใบหน้ากระตุกและสีหน้าที่เฉยเมยก่อนที่จะรีบหันไปหัวเรือแล้วตะโกนออกมาว่า “ออกเรือ”

 

ไอ้กลุ่มชาวญี่ปุ่นนี่ก่อนหน้านี้ยังอยากจะปล้นพวกเขาจนยิงปืนขู่เขา ตอนนี้ยังมีหน้ามาขอความช่วยเหลือทั้งๆที่เรื่องเพิ่งจะผ่านไปแบบสดๆร้อนๆเนี่ยนะ

เขาคงจะไม่ใจดีขนาดนั้นอย่างแน่นอน แถมด้วยความน่ากลัวของหมึกยักษ์ที่เพิ่งจะเห็นไปจะๆกับตาแบบนี้แล้วถ้าเสียเวลาช่วยคงมีสภาพไม่ต่างกันอย่างแน่นอน

 

ทีมเก็บกู้จากจีนตอนนี้ได้ทำการออกเรือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แต่ด้วยการที่สถานการณ์ในตอนนี้อยู่ในระยะกระชั้นชิด แถมเรือก็ไม่เหมือนรถที่สามารถจะติดเครื่องเมื่อไหร่ก็ได้ ต่อให้เร็วยังไงก็ยังช้าอยู่ดี

นี่จึงเป็นโอกาสที่ชาวญี่ปุ่นที่เหลือรอดพยายามว่ายมาเกาะที่กาบเรือและพยายามจะดึงตัวเองขึ้นไป หมึกยักษ์เองก็เหมือนจะรู้ตัวเรื่องนี้และได้รีบใช้หนวดตัวเองพุ่งมายังเรือของทีมเก็บกู้จากจีน ฉากนี้ทำให้ทีมเก็บกู้จากจีนถึ

กับหน้าถอดสีจนทำอะไรไม่ถูก ดูเหมือนพวกเขาเองก็คงจะถูกลากติดไปกับไอ้นรกพวกนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามฉากที่เรือของนักเก็บกู้ชาวจีนแตกออกเป็นสองเสี่ยงไม่ได้เกิดขึ้นแต่อย่างใด หนวดของหมึกยักษ์ทำเพียงแค่รัดพันชาวญี่ปุ่นสองคนที่เกาะเรือทีมจีนแล้วลากลงไปในน้ำเท่านั้น

 

เมื่อเห็นแบบนั้นกัปตันเรือญี่ปุ่นได้รีบดำน้ำว่ายลอดท้องเรือทีมเก็บกู้จากจีนในทันที นี่ทำให้ทุกคนบนเรือทีมเก็บกู้จากจีนที่กำลังมีความสุขที่รอดมาได้ต้องถึงกับโกรธสุดในทันที

เพราะรู้ดีว่าไอ้นรกนี่เอาพวกเขาทั้งหมดเป็นเพียงโล่ป้องกันแล้วเอาชีวิตรอดเท่านั้น ต่อให้เขาไม่รอดแต่ก็คิดจะลากพวกเขาลงเหวตามไปด้วยอย่างแน่นอน

แต่กัปตันชาวญี่ปุ่นไม่รู้ตัวเลยว่าเมื่อสักครู่เขาเพียงแค่โชคดีเท่านั้น และหนวดปลาหมึกเองก็ไม่ได้มีแค่สองข้าง ในตอนนี้หมึกยักษ์ได้ลอยตัวอยู่เหนือน้ำ พร้อมทั้งชูหนวดทั้งแปดอันใหญ่ยักษ์เหนือน้ำ มันพุ่งตรงมายังเรือทีมเก็บกู้จากจีนจนในตอนนี้หัวอันใหญ่โตของมันแทบจะชนเรือทีมเก็บกู้จากจีนอยู่แล้ว

 

แต่หมึกยักษ์นั่นหาได้สนใจเรือของทีมเก็บกู้จากจีนแม้แต่น้อย มันได้ตวัดหนวดข้างหนึ่งออกไปและนั่นเองทำให้ทุกคนในเรือต้องตื่นตะลึง

“บากะยาโล(บ้าไปแล้ว)” กัปตันเรือที่เห็นฉากนั้นถึงกับอุทานภาษาถิ่นของตัวเองออกมาดังลั่น เขาได้เห็นหนวดหมึกนั่นพุ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว เขาในตอนนี้ทำได้เพียงยิงปืนกลที่ยังสะพายเอาไว้ไปยังหมึกยักษ์

แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั้นตอนนี้หนวดของหมึกยักษ์ได้รัดพันตัวเขาไว้แล้ว เขานั้นพยายามจับที่กาบเรือและดึงตัวเองขึ้นจากน้ำแต่ก็ไม่มีทางสู้แรงของหมึกยักษ์ได้อย่างแน่นอน

 

เขาถูกหนวดของหมึกยักษ์รัดจนตายและลากลงน้ำไปราวกับว่ามันไม่อยากให้คนเช่นนี้ต้องขึ้นเรือไปเดี๋ยวจะเป็นเสนียดเรือเสียเปล่าๆ

หลังจากมันมั่นใจว่าจัดการชาวญี่ปุ่นได้หมดแล้ว หมึกยักษ์ก็ทำเพียงดำดิ่งลงไปใต้น้ำเฉยๆโดยไม่ได้สนใจเรือนักเก็บกู้จากจีนแต่อย่างใด

“ไปเลย” กัปตันทีมเก็บกู้จากจีนที่เห็นว่าเหตุการณ์สงบแล้วเขาได้รีบสั่งให้เรือแล่นออกไปในทันที เพราะพวกเขายังไม่รู้ว่าหมึกยักษ์นี่จะกลับมาอีกรึเปล่า ตอนนี้หนวดของมันอาจจะแค่เต็มเลยยังไม่เล่นงานพวกเขาก็ได้

แค่การที่หมึกยักษ์นั่นเข้ามาใกล้เรือและไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อยนั้นก็โชคดีมากพอแล้ว พวกเขาไม่มีทางจะอยู่รอเพื่อให้เกิดผลลัพท์อันเลวร้ายอย่างแน่นอน

ใครจะไปรู้ ที่มันหายไปอาจเป็นเพราะว่าเตรียมตัวจะพุ่งชนเรือของพวกเขาให้คว่ำในทีเดียวเลยก็ได้

ตอนนี้ทีมเก็บกู้จากจีนยังคงตกอยู่ในความหวาดกลัว แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าโชคดีไปด้วยพร้อมๆกัน บางคนพลางคิดไปว่าหมึกยักษ์ตัวนี้เล่นงานแต่ชาวญี่ปุ่นราวกับว่าโดนสั่งมาฆ่าพวกนั้นโดยเฉพาะอย่างไงอย่างนั้น

 

ทีมเก็บกู้จากอเมริกาเองที่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ห่างๆต่างก็ตกตะลึงในสิ่งที่เห็น

“ชิบ อะไรวะนั่น ไอ้นั่นมันหมึกใช่ไหม”

“หมึกยักษ์เหรอ ฉันว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดนะ”

“…พวกเราควรจะไปดูหน่อยรึเปล่าว่ามีใครรอดบ้าง”

“สมองแกหายไปหมดแล้วรึไง ถ้าไอ้หมึกยักษ์นั่นมันยังอยู่ล่ะ เข้าไปก็หาที่ตายน่ะสิ แถมดูๆไปแล้วก็ไม่น่าจะมีใครรอดชีวิตนะ หมึกยักษ์นั่นสามารถฉีกเรือทิ้งได้สบายๆเลยนะ โดนของแบบนั้นฟาดไปยังไงก็ตายอยู่แล้ว”

“ฉันว่าพวกเราไม่ปลอดภัยนะ รีบไปกันดีกว่า”

 

ทีมอเมริกาที่ก่อนหน้านี้ที่สังเกตุการณ์ราวกับตั๊กแตนที่ยืนนิ่งรอดักจับจั๊กจั่นอยู่นั้น ในตอนนี้ความคิดแบบนั้นได้มอดไหม้ลงราวกับตะเกียงไร้น้ำมันในทันที

ตอนนี้พวกเขานั้นรู้สึกกลัวหมึกยักษ์ตัวนั้นแบบจับใจจนรีบออกเรือจากไปในทันที พวกเขาในตอนนี้ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะไล่ตามทีมเก็บกู้จากจีนแต่อย่างใด

ตอนนี้ทั่วทั้งท้องทะเลในบริเวณนี้เหลือเพียงซากเรือและศพคนลอยอืดเพียงเท่านั้น มองซ้ายมองขวาก็มีแต่ศพลอยทั่วไปหมด

หมึกยักษ์ได้ดำน้ำลงไปหาซูจิ้งและได้ไปร่วมกลุ่มกับราชันย์หมึกกล้วยและวาฬเพชรฆาตในทันที ซูจิ้งเองที่เห็นดังนั้นก็ได้ใช้กระแสจิตของตัวเองตรวจสอบดูอีกครั้งว่ายังมีชาวญี่ปุ่นหน้าไหนเหลือรอดอีกหรือไม่

แน่นอนว่าเหตุการณ์การล้างบางทีมเก็บกู้จากญี่ปุ่นพวกนี้เป็นเขาเองที่เป็นคนสั่งการ เขาได้เห็นการกระทำเลวชาติของทีมเก็บกู้ทีมนี้ที่กล้ามากดขี่ชนชาติเดียวกันรู้สึกหงุดหงิดเลยให้หมึกยักษ์ไปเล่นงานฆ่าล้างบางไม่ให้เหลือ แน่นอนว่าด้วยฝีมือของสัตว์ประหลาดแบบนี้จะมีใครเหลือได้ยังไง

“ไป” ซูจิ้งที่กำลังขี่วาฬเพชรฆาตได้นำหมึกยักษ์หัวกลม ราชันย์หมึกกล้วย และฝูงปลาสีน้ำเงินดำดิ่งลงไปยังใต้ทะเล

ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่มีใครรู้ตัวเลยว่าเรื่องทั้งหมดนี่มีซูจิ้งอยู่เบื้องหลัง