GGS:บทที่ 950 ใครกันที่ช่วย
ในที่สุดทีมเก็บกู้ใต้น้ำจากจีนก็รอดปลอดภัยกลับไปได้ แต่การเดินทางของพวกเขาในครั้งนี้เก็บเกี่ยวได้เพียงน้อยนิดเท่านั้น จะบอกว่าเสียเปล่าก็ว่าได้
ถึงจะเป็นแบบนั้น ฮัวหยุนซูเองก็รวยพอที่จะไม่ได้เสียดายเงินก้อนนี้ และเขาก็ไม่ได้กล่าวโทษต่อเอี้ยป๋อ โจวฉือเซียน และนักเก็บกู้คนอื่นๆแม้แต่น้อยหลังจากได้ยินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ราวกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับการเก็บกู้ครั้งนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องทำให้เขานั้นประหลาดใจอยู่นั่นก็เพราะว่าอีกสองวันต่อมาทางญี่ปุ่นได้กล่าวหาพวกเขา พวกญี่ปุ่นต้องการให้ทีมเก็บกู้ของจีนนั้นขึ้นศาลโลกด้วยข้อกล่าวหาที่ว่าได้ทำการปล้นและฆ่าทีมเก็บกู้จากจีน
ขนาดพวกเขานั้นบอกความจริงไปแล้วต่อทางรัฐบาลญี่ปุ่นเองไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย พวกนั้นเชื่อแบบฝังใจเลยว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะทีมเก็บกู้จากจีน
เป็นไปได้ว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าทีมเก็บกู้จากจีนนั้นเป็นผู้พบซากเรือใต้น้ำเป็นทีมแรกและนี่อาจเป็นชนวนเหตุให้ทั้งสองทีมเกิดการปะทะกันขึ้น
“ไอ้พวกญี่ปุ่นนี่กัดไม่ปล่อยจริงๆเว้ย” โจวฉือเซียนในตอนนี้โกรธจัดจนสบถออกมา เขารู้สึกได้เลยว่าการยุ่งเกี่ยวกับทีมเก็บกู้จากญี่ปุ่นในครั้งนี้ไม่สิต้องบอกว่าการไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกญี่ปุ่นนั้นไม่เคยมีอะไรดีเลย
นอกจากสมบัติจะโดนพวกนั้นขโมยไปแล้วแถมไอ้พวกนั้นยังจะพยายามขโมยพวกเขาซ้ำอีก ถึงแม้พวกเขาจะถูกหมึกยักษ์ช่วยไว้ก็ตามแต่ตอนนี้พวกเขาก็โดนตราหน้าเป็นโจรสลัดไปเรียบร้อยแล้ว
“ไอ้พวกนั้นมันชอบกัดไม่ปล่อยอยู่แล้วล่ะนะ” เอี้ยป๋อถอนหายใจสั้นๆก่อนหัวเราะออกมา
“เอาไงต่อล่ะ” โจวฉือเซียนพูดออกมา
“เอาเป็นไปขึ้นศาลก่อนก็แล้วกัน พวกเราไม่มีอะไรต้องกลัวอยู่แล้วนี่” เอี้ยป๋อพูดออกมา
ด้วยการร้องขอของญี่ปุ่นในครั้งนี้นั้น ในฐานะที่ญี่ปุ่นอยู่ในการควบคุมดูแลของอเมริกาจึงทำให้ไม่สามารถปฎิเสธได้ แน่นอนว่าพวกเขาเองก็จะร่วมการสืบสวนในครั้งนี้ด้วย
แต่ยังไงซะ โจวฉือเซียน เอี้ยป๋อ และคนอื่นๆในทีมเองไม่ได้ทำอะไรแม้แต่น้อย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเป็นผู้ถูกกระทำฝั่งเดียวอีกแน่นอนว่าพวกเขานั้นไม่มีอะไรต้องกลัว หากจะกลัวก็มีเพียงเรื่องเดียวนั่นก็คือการที่ญี่ปุ่นจะสร้างหลักฐานเท็จจนทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศจีนนั้นดูไม่ดีต่อสายตาชาวโลก
ถึงจะบอกด่ารัฐบาลญี่ปุ่นนั้นไม่สามารถหาหลักฐานได้มากพอที่จะยืนยันได้ว่าทีมเก็บกู้จากจีนเป็นผู้สังหารทีมเก็บกู้จากญี่ปุ่น แต่ในทางกลับกันพวกเขาเองก็ไม่สามารถหาหลักฐานยืนยันได้เหมือนกันว่าพวกเขานั้นเป็นเพียงผู้ถูกกระทำเท่านั้น แน่นอนว่าเรื่องนี้จะต้องการเป็นคดีความที่ยาวนานอย่างไร้สาระอย่างแน่นอน
“ว่าแต่ตอนนี้ทีมเก็บกู้จากอเมริกาก็อยู่ไม่ไกลนี่นะ พวกนั้นก็น่าจะช่วยเป็นพยายานได้ว่าเกิดอะไรขึ้นนี่” โจวฉือเซียนพูดออกมาและพูดต่อว่า
“ตอนที่พวกเราออกมาจากจุดเก็บกู้นั้น ฉันจำได้ว่าพวกอเมริกานั่นก็ตามเรามาเหมือนกัน พวกนั้นควรจะเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี่ นี่จะเป็นพยานของพวกเรา”
ในตอนนี้นั้นต่อให้ทีมนักเก็บกู้จากจีนพูดอะไรออกมามันก็เป็นเพียงการแก้ตัวเท่านั้น แต่หากทีมเก็บกู้จากอเมริกามาช่วยยืนยันล่ะก็ แน่นอนว่าเรื่องนี้จะจบได้โดยไว
“จริงด้วย เราให้พวกนั้นเป็นพยานให้พวกเราได้นี่นา” เอี้ยป๋อพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง
คิดได้ดังนั้น ทั้งคู่ได้ลองใช้เส้นสายของตัวเองติดต่อกับทีมเก็บกู้จากอเมริการอยู่นานจนสามารถติดต่อได้
คิดไม่ถึงว่าเมื่อติดต่อได้แล้วจะได้รับคำตอบกลับมาว่าพวกเขานั้นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย ไอ้เรื่องที่ว่าทีมเก็บกู้จากญี่ปุ่นปล้นทีมเก็บกู้จากจีนแต่ถูกหมึกยักษ์เล่นงานนั่นพวกเขาเองก็ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
แถมยังยื่นข้อเสนอกลับมาว่าหากอยากให้พวกเขาเป็นพยานล่ะก็ จงนำสมบัติที่ได้มาแบ่งครึ่งกับทีมเก็บกู้จากอเมริกาซะ
ถึงแม้เอี้ยป๋อและโจวฉือเซียนเองถึงแม้นะมีชื่อเสียงในระดับโลกอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับทีมเก็บกู้จากอเมริกานั้นก็ยังถือว่าห่างไกลนัก ยังซะพวกเขานั้นไม่ได้อะไรกลับมาเลยในครั้งนี้ ต่อให้พวกเขาอยากจะแบ่งเพื่อให้มันจบๆไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังรู้สึกมืดแปดด้านอยู่นั้น อยู่ๆก็ได้มีวิดีโอหนึ่งได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ต วิดีโอที่ว่านั่นมีความยาวหลายนาที และความคมชัดนั้นราวกับใช้กล้องและช่างภาพมืออาชีพเลยก็ว่าได้
เนื้อหาในวิดีโอเป็นเรื่องราวที่ทีมเก็บกู้จากญี่ปุ่นนั้นได้ทำการข่มเหงทีมเก็บกู้จากจีนอย่างหน้าด้านๆ และไม่นานนักพวกนั้นก็ถูกหมึกยักษ์โจมตีและฆ่าตายไปทีละคน ทีละคน
ทันทีที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้เห็นวิดีโอนี้ก็ทำได้เพียงเงียบปากไปเท่านั้น นี่ราวกับว่าพวกรัฐบาลญี่ปุ่นถูกตบหน้าโดยตรงจนเลือดกลบปากแต่ก็ไม่กล้าอ้าปากเถียงอีกต่อไป และนี่เองก็ทำให้ชาวเน็ตทั่วทั้งโลกต่างตกตะลึงไปกันหมด
“แม่… เอ๊ย พวกญี่ปุ่นนี่มันเลวชาติกันจริงๆ”
“เวลาที่พวกมันกลัวตายนั้นโคตรขี้ขลาดเลยนะเห็นรึเปล่า”
“ฉันละอายจนไม่อยากไปเจอหน้าคนจีนแล้ว”
“ฉันเองก็ละอายจนพูดอะไรไม่ถูกจนอยากจะดำดินหนีแล้ว”
“โว่ ตัวอะไรวะนั่น”
“หมึกยักษ์ นั่นมันหมึกโคตรยักษ์”
“เรือแตกเลยนะ มันสามารถแยกเรือได้เลย”
“มันโคตรเท่เลย เลือกฆ่าเฉพาะพวกเลวชาติซะด้วย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกนั้นเลวขนาดที่ว่าหมึกยักษ์ยังไม่อยากจะปล่อยให้มีชีวิตอยู่เลยแหะ”
“โอ้ นรกมาเยือนจ้า”
“ฉันรักหมึกยักษ์ตัวจัง ตกหลุมรักษ์เลยดีกว่า”
“เฮ้เฮ้เฮ้ กลับเข้ามาในโลกแห่งความจริงกันหน่อย ฉันเป็นคนเดียวรึเปล่าที่คิดว่าหมึกยักษ์นั่นมันประหลาด มันตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่ปรากฎบนโลกนี้เลยนะ แถมมันยังทรงพลังมากด้วยถึงขนาดกระชากเรือแตกได้เลยนะ”
ชาวเน็ตในประเทศจีนนั้นต่างก็คุยเกี่ยวกับวิดีโอนี้กันไปทั่ว และนี่ทำให้วิดีโอแพร่กระจายไปทั่วโลกราวกับไฟลามทุ่ง
เรื่องราวที่ว่าทีมเก็บกู้จากญี่ปุ่นระรานทีมเก็บกู้จากจีนแล้วโดนหมึกยักษ์กวาดล้างสิ้นนี้ เพียงแค่สองหัวข้อนี้ก็มากพอที่จะทำให้ทั่วทั้งประเทศสนใจแล้ว
นี่ยังไม่รวมกับที่มีชาวเน็ตรู้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นคิดจะทำอะไรอีก พอรู้เท่านั้น ชาวเน็ตในจีนราวกับโดนสาดด้วยเลือดไก่ พวกเขานั้นได้ส่งต่อวิดีโอกันต่อไปเรื่อยจนทำให้แม้แต่คนที่ไม่ได้เล่นเน็ตก็ยังหยิบยกประเด็นนี้มาคุยกันที่ข้างถนน
ไม่เพียงเท่านั้นวิดีโอนี้ไม่เพียงจะเป็นที่พูดถึงกันทั่วทั้งในประเทศ แม้แต่ต่างประเทศอย่างอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ และประเทศต่างๆ ต่างก็พูดคุยเรื่องนี้กันอย่างบ้าคลั่ง
ไม่เพียงจะพูดเกี่ยวกับความหน้าไม่อายของชาวญี่ปุ่นแล้ว พวกเขานั้นต่างตกตะลึงกับสัตว์ประหลาดอย่างหมึกยักษืที่ปรากฏมาเพียงในตำนานเท่านั้น
บางคนถึงกับตั้งทีมขึ้นมาเพื่อที่จะพยายามจับมันมาเพื่อมาศึกษา และเมื่อวิดีโอนี้ได้ถูกนำไปเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น นี่ทำให้ชาวญี่ปุ่นถึงกับพูดไม่ออก
การที่หมึกยักษ์เป็นผู้ลงมือสังหารชนชาติตัวเองแบบนี้ก็เปรียบได้ดั่งผ้าที่ถูกรอยเปื้อนแล้วซักไม่ออก เพราะพวกเขานั้นไม่รู้จะเอาความโกรธแค้นก่อนหน้านี้ไปลงที่ไหนได้
ทันทีที่เอี้ยป๋อและโจวซิเซียนเองได้เห็นวิดีโอนี้ต่างก็ประหลาดใจและพยายามหาคำตอบว่าใครกันที่เป็นคนถ่ายวิดีโอนี้
วิดีโอนี้ไม่ใช่คนในทีมเก็บกู้ของเขาถ่ายเอาไว้อย่างแน่นอน ด้วยสถานการณ์ที่เกือบจะตายแบบนั้นใครจะไปมีอารมณ์ถ่ายวิดีโอแบบนี้ได้ อีกอย่างมุมกลอ้งนี่ถ่ายค่อนข้างจะห่างจากเรือมากนัก ห่างถึงขนาดที่ว่าถ่ายให้เห็นเรือของพวกเขาและเรือของพวกเลวชาตินั้นไว้ได้ทั้งสองลำเลยทีเดียว
ทั้งสองคนตอนแรกต่างก็คิดว่าเป็นทีมเก็บกู้จากอเมริการถ่ายไว้ แต่ก็ต้องล้างความคิดนั้นไปเพราะว่าในวิดีโอนั้นกลับปรากฎเรืออีกลำที่น่าจะเป็นเรือของอเมริกาลอยอยู่ไกลๆเป็นหลังฉาก
ไม่มีทางที่พวกนั้นจะถ่ายเอาไว้ได้อย่างแน่นอน แถมเมื่อคิดเรื่องที่พวกนั้นกดดันพวกเขาที่จะส่งสมบัติไปก่อนหน้านี้ ต่อให้ถ่ายไว้จริงก็ไม่มีทางปล่อยออกมาง่ายๆแบบนี้อย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้นี้พวกเขาเองก็ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อหลักฐานเพื่อเตรียมสู้คดีไว้ก็พบว่าตอนนี้ไม่มีใครผ่านไปแถวนั้นเลย นี่จึงทำให้วิดีโอนี้นั้นกลายเป็นเรื่องประหลาดเกินไป
“เหมือนกับว่าจะมีคนช่วยเหลือพวกเราไว้นะ” เอี้ยป๋อพูดออกมาตอนที่คิดในเรื่องที่ว่าอยู่ๆก็มีปมึกยักษ์ปรากฏออกมาและเล่นงานคนญี่ป่นุอย่างโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับปล่อยเรือของพวกเขาไว้ทั้งๆที่ควรจะโจมตีไม่เลือกตามสัญชาติญาณสัตว์ป่าแบบนี้ แถมยังถ่ายวิดีโอเพื่อเอาไว้เวลาแบบนี้อีก จะว่าโชคดีก็ไม่ใช่ จะว่าบังเอิญก็ไม่เชิง มันเหมือนกับว่าทุกอย่างอยู่ในมือใครบางคนไว้แล้ว
“เป็นไปไม่ได้น่า จะมีใครที่สามารถสั่งหมึกยักษ์แบบนี้ได้กัน ต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆที่เรือของเราผ่านไปเขตของมันโดยไม่รู้ตัว” โจวฉือเซียนพูดออกมา
“…..ก็คงจริงล่ะนะ ใครกันที่จะไปสั่งหมึกยักษ์ได้” เอี้ยป๋อเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้เหมือนกัน หมึกยักษ์แบบนั้นแถมยังกลางทะเลแบบนั้นอีก ใครจะไปสั่งมันได้