บทที่ 2679 ความเป็นมาของตี้ฝูอี
“เยี่ยมมาก!”
“ดี!”
“ฮ่าๆๆ ดีเหลือเกิน!”
คนนับไม่ถ้วนโห่ร้องยินดี พวกเขารู้ว่าลำแสงปืนใหญ่สายนั้นที่ยานรบเพิ่งยิงออกไปมีอานุภาพมหาศาล ต่อให้ด้านในเป็นเหล็กกล้า ก็สามารถหลอมละลายได้ในชั่วพริบตา นับประสาอะไรกับมนุษย์เป็นๆ…
หัวขโมยคนนั้นต้องตายแน่นอน!
กวนย่าหนิงกลับเป็นกังวล เขาเคยเห็นวรยุทธ์ของกู้ซีจิ่วด้วยตาตนเอง หากว่าผู้ที่มาในครั้งนี้คือหล่อน น่าจะทำอันตรายหล่อนไม่ได้…
หล่อนน่าจะเคลื่อนย้ายไปที่อื่นแล้ว
โชคดีที่กวนย่าหนิงทราบถึงความสามารถของกู้ซีจิ่ว ดังนั้นทันทีที่เห็นว่าคนของตนไม่อาจเข้าใกล้ยานรบได้กวนย่าหนิงจึงสั่งให้ไปทำการตั้งค่าระบบ เซ็ตระบบห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าออกโดยรอบของยานรบเหล่านี้ หากมีคนบุกเข้ามา ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู ยานรบเหล่านั้นจะส่งสัญญาณเตือนภัยโดยอัตโนมัติ ระบบควบคุมทั้งหมดจะปิดตัวลง ทำให้คนไม่สามารถควบคุมพวกมันให้ขึ้นบินหรือร่อนลงโจมตีได้
กวนย่าหนิงมองยานรบที่อยู่รอบๆ ตามสัญชาตญาณ ไม่มีความเคลื่อนไหวเลย และไม่ส่งสัญญาณเตือนภัย
หล่อนไปหลบอยู่ที่ไหนกันนะ?
เทพศักดิ์สิทธิ์คนนั้นไปมาไร้ร่องรอยเกินไปแล้ว
พอกวนย่าหนิงนึกถึงเทพศักดิ์สิทธิ์คนนั้นก็ปวดหัวอย่างยิ่ง และไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าขั้นต่อไปอีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวอย่างไร
อีกฝ่ายมีเพียงคนเดียว ก็สามารถทำให้ทั้งกองทัพที่มีวิทยาการก้าวหน้าล้ำสมัยอย่างพวกเขาหัวหมุนวุ่นวายได้แล้ว! นี่เกินไปแล้วจริงๆ…
เขาเงยหน้ามองยานรบหลักลำนั้นอีกครั้ง มันยังคงลอยนิ่งอยู่ในอากาศ ไม่มีทีท่าจะร่อนลงมา
หลายวันมานี้ท่านจอมพลให้ทุกคนตื่นตัวอยู่ตลอด แจ้งข่าวกรองเท็จอยู่หลายครั้ง ทุกคนค่อนข้างวิพากษ์วิจารณ์เขายิ่งนัก และไม่เคารพเขาถึงขนาดนั้นแล้ว
ความจริงเช้านี้ท่านจอมพลได้บอกอีกครั้งว่าอีกฝ่ายจะมา ผลคือปฏิกิริยาของทุกคนเป็นการพ่นลมออกจมูก ฉากหน้าตอบรับลับหลังเฉยเมย กลับเล่นสนุกกันยิ่งกว่าเดิม
ทว่าคาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้อีกฝ่ายจะมาจริงๆ!
แถมยังโจมตีคร่าชีวิตพวกเขาเช่นนี้ด้วย!
ท่านจอมพลปล่อยให้ยานหลักลอยอยู่ตรงนั้น น่าจะเกรงว่าเทพศักดิ์สิทธิ์คนนั้นยังไม่ตาย เตรียมพร้อมจะยิงระเบิดหากนางก่อความวุ่นวายขึ้นอีกครั้งกระมัง?
กวนย่าหนิงคาดเดาอยู่ตรงนั้น เขากดสิ่งที่เปล่งแสงวิบวับอยู่บนข้อมือทีหนึ่ง คิดจะติดต่อสอบถามท่านจอมพล ผลคือท่านจอมพลไม่รับสายเลย!
เกิดอะไรขึ้น?
ยามรบสถานการณ์พันเปลี่ยนหมื่นแปลง ระหว่างเหล่านายพลจะมีการติดต่อกันอยู่ตลอดเป็นประจำ บางครั้งถึงขั้นที่ไม่ตัดสายเลย ต่อสายเอาไว้ตลอดเวลา
ท่านจอมพลเองก็เคยกล่าวไว้ ยามรบเว้นแต่จะควบคุมยานรบโจมตีอยู่แล้ว จะต้องรับสายเสมอ
ตอนนี้ยานรบลำนั้นลอยนิ่งอยู่ตรงนั้น และไม่ได้โจมตี ไม่มีความเคลื่อนไหวอื่น ทำไมท่านจอมพลถึงไม่รับสายเล่า?
กวนย่าหนิงค่อนข้างร้อนใจขึ้นมาแล้ว จ้องยานรบลำมหึมาลำนั้นเขม็ง ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว หรือว่ายานรบลำลำนั้นจะถูกโฉมงามเทพศักดิ์สิทธิ์คนนั้นเข้าควบคุมอีกแล้ว?!
กู้ซีจิ่วเคลื่อนย้ายจากยานรบที่ระเบิดไปยังยานลำนั้นจริงๆ
เธอทราบถึงอานุภาพของยานหลักลำนั้นแล้ว ย่อมอยากควบคุมเจ้าของสิ่งนั้น จากนั้นก็ทำลายฐานทัพแห่งนี้ให้ย่อยยับอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นเธอจึงเคลื่อนย้ายไปที่ยานหลักโดยตรง
ในเมื่อเป็นยานหลักที่แข็งแกร่งและใหญ่โตที่สุดของผู้รุกรานจากดาวจิ้งจอกครามเหล่านี้ อุปกรณ์ด้านในย่อมซับซ้อนเป็นที่สุด ระบบรักษาความปลอดภัยก็หนาแน่นมาก
หนก่อนยานบัญชาการลำนั้นของกวนย่าหนิงมีระบบที่บังคับให้เธอเผยตัวออกมาได้ และมีระบบป้องกันการโจมตี เชื่อว่าความสามารถด้านนี้ของยานรบบัญชาการลำนี้จะมีแต่แข็งแกร่งไม่อ่อนด้อย
กู้ซีจิ่วถึงขั้นที่เตรียมพร้อมจะถูกดีดสะท้อนกลับทันทีที่เข้าใกล้เอาไว้แล้ว กลับคาดไม่ถึงว่าเธอเข้ามาได้ง่ายดายยิ่ง ไปโผล่ด้านในได้โดยตรง
พื้นสีเทาเงิน กำแพงสีเทาเงิน มองไม่เห็นอุปกรณ์ส่องสว่างอันใดเลยชัดๆ แต่ด้านในกลับสว่างไสวยิ่ง แถมยังไม่แยงตาด้วย
————————————————————————————-
บทที่ 2680 ความเป็นมาของตี้ฝูอี 2
กู้ซีจิ่วเข้าไปในห้องหนึ่ง การตกแต่งด้านในไม่ใช่แท่นควบคุมที่ดูเยียบเย็นไม่น่าเชื่อว่าจะเหมือนบ้านพักอาศัยยิ่งนัก
มีโต๊ะมีเก้าอี้มีเตียง
บนกำแพงยังแขวนภาพวาดน้ำหมึกแผ่นหนึ่งไว้ด้วย ในภาพมิใช่ทิวทัศน์ธรรมชาติ มิใช่ภาพเหมือน แต่เป็นอวกาศอันเวิ้งว้าง
ไม่ทราบเช่นกันว่าภาพนั้นใช้เทคนิคการวาดแบบใด เห็นแวบแรกแล้วราวกับกำลังมองเข้าไปในอวกาศจริงๆ…
ครั้งแรกที่กู้ซีจิ่วได้เห็น ก็ตาลายไปเล็กน้อย
เพียงแต่เธอดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็วยิ่ง กวาดตามองไปรอบยานหลักอย่างว่องไว จากนั้นเธอพบว่า…ด้านในไม่มีคนเลย
หรือเธอจะคำนวณพลาด ไม่ได้เข้าสู่ห้องควบคุม แต่เข้ามาในห้องพักของจอมพล?
เธอวนสำรวจที่นี่อย่างรวดเร็วรอบหนึ่ง ไม่เห็นแผงควบคุมเลยจริงๆ และไม่เห็นผู้คนด้วย
ดูเหมือนจะเป็นห้องพักจริงๆ!
แต่ว่า ประตูทางออกอยู่ไหนล่ะ?
ห้องนี้เสมือนหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน มองไม่เห็นประตูเข้าออกเลย
เธอหาอยู่ในด้านในพักหนึ่ง ก็หาประตูบานนั้นไม่พบ
เธอขมวดคิ้ว ใช้วิชาเคลื่อนย้ายอีกครั้งเสียเลย
‘ตุบ!’ เธอเคลื่อนย้ายออกจากห้องนี้ไม่ได้ ซ้ำยังชนเข้ากับกำแพงด้วย!
โชคดีที่กำแพงนี้ไม่นับว่าแข็งจนเกินไป อีกทั้งเธอมีเขตแดนคุ้มกายอยู่ ไม่บาดเจ็บจากการกระแทก
เธอยืนให้มั่นอีกครั้ง หัวใจจมดิ่งลงเล็กน้อย ไม่น่าเชื่อว่ากำแพงนี้จะสามารถขัดขวางวิชาเคลื่อนย้ายของเธอได้! เช่นนั้นอีกหลายด้านที่เหลือเล่า?
เธอไม่เสียเวลาคิดเลยทดสอบดูต่อเนื่องกันอีกหลายครั้ง บนล่างซ้ายขวาหน้าหลังล้วนลองดูหมดแล้ว ผลคือถูกดีดสะท้อนกลับมา
ชัดเจนยิ่งนัก ห้องโดยสารห้องนี้ทำให้วิชาเคลื่อนย้ายของเธอไร้ผลได้ เธอถูกขังอยู่ที่นี่แล้ว!
น่าแปลก เมื่อกี้เธอเคลื่อนย้ายเข้ามาได้ง่ายดายยิ่ง หรือว่าจะป้องกันจากด้านในไม่ป้องกันจากด้านนอก? มีเทคโนโลยีขั้นสูงแบบนี้ด้วยเหรอ?
เทคโนโลยีขั้นสูงทั่วไปอย่างมากก็คือบีบให้เธอที่เร้นกายอยู่เผยตัวออกมาได้ เป็นไปได้ยังไงที่จะขัดขวางวิชาเคลื่อนย้ายของเธอได้?
เธอสัมผัสถึงกลิ่นอายภายในห้องได้ ค่อนข้างคุ้นเคยอยู่บ้าง ราวกับเคยได้กลิ่นที่ไหนมาก่อน
เธอไม่เชื่อหรอกว่าห้องนี้จะขังเธอไว้ได้!
ในเมื่อห้องนี้ปล่อยให้คนเข้ามาได้ ย่อมต้องมีประตูทางออก เพียงแค่ทางออกลึกลับซับซ้อนอยู่บ้างก็เท่านั้น จะต้องมีเบาะแสอยู่แน่
ขณะที่เธอกำลังจะค้นหาอย่างละเอียด พลันได้ยิน ‘ซืด’ เบาๆ แว่วมาจากข้างหลัง เธอหันกลับไปทันที มองเห็นภาพวาดอวกาศนั้นกลายเป็นจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ และบนจอเริ่มฉายภาพยนตร์เรื่องหนึ่งแล้ว
กู้ซีจิ่วงุนงง
เธอสูดหายใจเบาๆ คราหนึ่ง คงไม่ใช่ว่าเธอเผลอกดโดนรีโมทอะไรเข้าโดยบังเอิญกระมัง?
เธอเหลียวซ้ายแลขวาแวบหนึ่ง ตอนนี้เธอจับโต๊ะที่ดูคล้ายศิลาหยกตัวหนึ่งอยู่ บนนั้นไม่มีปุ่มอันใดเลย
เธอเม้มปากนิดๆ มองไปที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นอยู่หลายแวบ ทว่ายามที่มองเห็นตัวละครด้านในอย่างชัดเจน ก็ผงะไป
ภาพยนตร์ที่ฉายอยู่ไม่ใช่ภาพยนตร์จากเทคโนโลยีระดับสูงของชาวดาวจิ้งจอกครามเอง และไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ผู้ชายเต็มวัยจะใช้ดูเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นซีรี่ส์ย้อนยุคเรื่องหนึ่ง
ฉากแรกที่ปรากฏขึ้นคือเศษธุลีในอวกาศ รังสีนับไม่ถ้วนพุ่งตัดสลับกันไปมา สุดท้ายก็รวมตัวกัน ค่อยๆ ก่อร่างเป็นชายคนหนึ่ง แรกเริ่มชายคนนั้นเสมือนทารกแรกคลอด ทั้งร่างเปล่าเปลือย ล่องลอยอยู่ในอวกาศเช่นนี้ งดงามประณีต
กู้ซีจิ่วสบถเบาๆ คราหนึ่ง ละสายตาไป
นอกจากร่างกายของตี้ฝูอี ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นชายเปลือยคนไหนทั้งนั้น!
ถึงแม้ร่างกายของชายเปลือยผู้นี้เทียบเทียมกับรูปปั้นเดวิด สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ทำให้คนเห็นแล้วเลือดกำเดาแทบพุ่งก็ตาม…
พอเธอหันกลับมามองอีกครั้ง ชายเปลือยบนจอก็สวมเสื้อผ้าแล้ว
กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะมองอาภรณ์บนร่างของเขาให้มากหน่อย ดูไม่ออกเลยว่าเป็นวัสดุใด ราวกับใช้นภาครามเมฆาขาวถักทอออกมา รูปแบบเรียบง่ายยิ่ง และหลวมโคร่งนัก เมื่อสวมอยู่บนร่างเขา อาภรณ์โบกพลิ้วปลิวไปกับสายลม สง่างามจนพรรณนาไม่ออก
————————————————————————————-