“เฮ้ย ไอแก่หนังเหนียว รีบไสหัวไป ที่นี่ใช่ที่ที่แกจะมาขอทานไหม?”

ดวงตาของหนานกงหยู่มีแสงเย็นเยือกแวบผ่านในทันที พูดคำหนึ่งออกมาอย่างไร้เสียง “ฆ่า!”

หนานกงหยู่ก้าวไปข้างหน้า กลับปรากฏตัวขึ้นอย่างแปลกประหลาดที่ด้านหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนั้น ส่วนศีรษะของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ตกลงบนพื้นแล้ว

หลายวันมานี้เฉินกั๋วเหลียงอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เฉินโม่มีอนาคตเช่นนี้ ทำให้ทุกตระกูลในหนานซูมาอวยพรปีใหม่ที่ตระกูลเฉิน ตระกูลเฉินเหมือนกับฟื้นสภาพกลับไปช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดในตอนนั้น หรือแม้กระทั่งดีกว่ายิ่งกว่า

มองดูภาพห้องโถงที่คึกครื้น รอยยิ้มบนใบหน้าเฉินกั๋วเหลียงคงอยู่ตลอดทั้งวัน

“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความดีความชอบของเสี่ยวโม่! คิดไม่ถึงว่าตระกูลเฉินของฉันจะมีบุคคลที่มีความสามารถไม่มีใครเทียบได้เช่นนี้ พลตรีที่อายุไม่ถึงยี่สิบปี ถูกโส่วจ่างที่มีเพียงไม่คนในประเทศเชื้อเชิญด้วยตนเอง เกียรติคุณนี้ต่อให้บรรพุบุรษในตอนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ได้รับ เสี่ยวโม่เด็กคนนี้มีอนาคตจริงๆ!”

ในตอนที่เฉินกั๋วเหลียงแอบคิดอยู่ในใจ จู่ๆ นอกห้องโถงมีเสียงคำรามดังขึ้น “เฉินไต้ซือ โผล่หัวออกให้ฉันเดี๋ยวนี้!”

โผล่หัวออกมา…โผล่หัวออกมา…โผล่หัวออกมา…”

เสียงนั้นราวกับเสียงฟ้าร้อง สะเทือนจนทุกคนหูอื้อ และเป็นเวลานาน ดังก้องอยู่นาน ดังไปไกล

“อ๊าาา!”

ในห้องโถง คนที่ใจฝ่อ ส่งเสียงร้องหวาดกลัวออกมา

เฉินกั๋วเหลียงสีหน้าเคร่งขรึม ตะโกนขึ้น “ออกไปดูสิเรื่องอะไรกัน!”

ลูกหลานของตระกูลเฉินสองคน ออกไปทันที มองเห็นหนานกงหยู่ที่ลอยอยู่กลางอากาศที่ลานบ้านของตระกูลเฉิน ตกใจจนตัวสั่นไปหมด แล้วอุทานเสียงดัง จากนั้นก็วิ่งกลับมาที่ห้องโถงทันที

“ผู้นำ มี มีผี!” ลูกหลานตระกูลเฉินสองคนตกใจจนหน้าซีดเขียว โซซัดโซเซพุ่งเข้ามา คุกเข่าร้องอย่างหวาดกลัวอยู่บนพื้น

“ลุกลี้ลุกลนอะไร! พูดดีๆ!” เฉินตงซุ่นตำหนิ ลูกหลานตระกูลเฉินสองคนถึงได้ดีขึ้นเล็กน้อย พูดหายใจหายคอไม่ทัน “ผู้นำ มีชายชราคนหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศ เขาบินได้!”

เฉินกั๋วเหลียงสีหน้าเคร่งขรึม เหมือนกับคิดอะไรได้ เขามองไปทางเฉินเยว่ ถามขึ้น “เสี่ยวเยว่ คนแบบไหนที่สามารถบินอยู่บนฟ้าได้?”

เฉินเยว่สีหน้าจริงจัง โค้งตัวตอบ “ท่านปู่ มีเพียงคนที่เป็นปรมาจารย์ ถึงจะลอยอยู่บนฟ้าได้ชั่วคราว!”

“ปรมาจารย์!”

เฉินกั๋วเหลียงกับเฉินกั๋วจงและยังมีเฉินกั๋วต้งที่สีหน้าแย่ เฉินตงหวาและคนอื่นที่เคยได้ยินโลกฝึกบู๊ ก็สีหน้าเคร่งขรึม

บรรยากาศร่าเริงในห้องโถงของตระกูลเฉิน ถูกแทนที่ด้วยเคร่งขรึมทันที

เฉินกั๋วเหลียงพูด “ตระกูลเฉินของฉันมิใช่ตระกูลบู๊ ปรมาจารย์คนหนึ่งเหตุใดถึงมาที่ตระกูลเฉิน? ทุกคนไม่ต้องตื่นตระหนก ตามฉันออกไปดู!”

เหนือลานบ้านตระกูลเฉิน หนานกงหยู่ลอยอยู่กลางอากาศ เหมือนกับปีศาจ มองทุกคนจากด้านบน

เฉินกั๋วเหลียงนำทุกคนออกมาก่อน จากนั้นมองหนานกงหยู่ที่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างตกตะลึง

เฉินกั๋วเหลียงโค้งตัวคำนับหนานกงหยู่ ท่าทางเคารพนบนอบ “มิทราบว่ายอดฝีมือให้เกียรติมา ข้าเฉินผู้น้อยขออภัยที่ไม่ได้ต้อนรับรอบด้าน ได้โปรดอย่าถือสา!”

หนานกงยวู่สีหน้าเรียบเฉย จ้องมองเฉินกั๋วเหลียงอย่างเย็นชา ตะโกนถามขึ้น “นายก็คือผู้นำตระกูลเฉิน?”

เฉินกั๋วเหลียงพูด “ฉันเอง!”

หนานกงหยู่พูด “ส่งตัวเฉินไต้ซือออกมา ไม่เช่นนั้น ฉันจะทำให้ตระกูลเฉินนองเลือด!”

ทุกคนตระกูลเฉินตื่นตระหนกกลัวเป็นอย่างมาก คนส่วนมากของตระกูลเฉินเป็นคนธรรมดา เคยเจอยอดฝีมือแบบนี้ที่ไหนกัน? กว่าจะได้เจอสักคน กลับจะทำให้ตระกูลเฉินนองเลือดตั้งแต่เจอหน้า

นี่ทำให้คนตระกูลเฉินตกใจและโมโหพร้อมกัน!

อีกอย่าง เฉินไต้ซือคนนั้นเป็นใครกัน? ตระกูลเฉินดูเหมือนจะไม่มีคนเช่นนี้

เฉินกั๋วเหลียงโค้งคำนับถามขึ้นอีกครั้ง “นายท่าน ตระกูลเฉินของฉันกับนายท่านไม่มีความแค้นต่อกัน และยิ่งไม่รู้ว่าเฉินไต้ซือคือผู้ใด ในนี้มีอะไรเข้าใจผิดกันหรือไม่?”