เทียนหยาจื่อส่ายหัวไปมาอย่างกระหยิ่มใจ พยายามแสดงสไตล์ของผู้มีความรู้สูงส่งออกมา ส่วนลู่ฝานก็ให้ความร่วมมือมาก เขาทำท่าตั้งใจฟังด้วยความเคารพนับถือ

แต่ขณะนั้น เทียนหยาจื่อยังไม่พูดอะไรออกมา รออยู่นาน เทียนหยาจื่อก็ทำแค่มองลู่ฝานด้วยรอยยิ้ม

ลู่ฝานโดนเทียนหยาจื่อมองด้วยแววตาขบขัน จนรู้สึกสงสัย ทันใดนั้น ลู่ฝานก็นึกอะไรขึ้นได้ รีบเอากาเหล้าที่พกติดตัวมาตลอดทางออกมา แล้วพูดว่า “ท่านผอ. นี่เป็นเหล้าที่ศิษย์ตั้งใจทำให้ท่าน เมื่อถึงตอนที่หิมะโปรยปรายอย่างหนัก ได้ยินว่าคนในเมืองหลวง ต้องดื่มเหล้าดีกรีแรงฉลองฤดูหนาว ศิษย์ไม่มีความสามารถ ทักษะทั่วไป แต่เพราะอยู่ในเจดีย์ยา จึงสามารถหาสมุนไพรได้ง่าย เลยตั้งใจทำเหล้ายาหนึ่งกา เพื่อแสดงน้ำใจครับ!”

เทียนหยาจื่อรับกาเหล้ามาด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “เด็กมีอนาคตสอนได้”

ดมเบาๆ ครู่หนึ่ง จากนั้นจิบเบาๆ จู่ๆ แววตาของเทียนหยาจื่อเป็นประกาย “เหล้าดี เหมือนมีเหล้าเมาพันเขาอยู่เล็กน้อย”

ลู่ฝานอึ้งเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าท่านผอ.จะรู้จักเหล้าเมาพันเขาด้วย

ดูเหมือนเขาคงเคยไปโรงเหล้าของเถ้าแก่อ้วนคนนั้น หลังจากลู่ฝานดื่มเหล้าเหล้าเมาพันเขาไปครั้งหนึ่ง เขาใช้ความรู้สึกในตอนนั้น ผลิตเหล้าออกมาเอง ด้วยเหตุนี้จึงเปลืองสมุนไพรของเจดีย์ยาไปไม่น้อย

วางกาเหล้าลง เทียนหยาจื่อยิ้มแล้วพูดว่า “ลู่ฝาน นายเป็นคนฉลาด เรื่องบางเรื่องฉันไม่ต้องพูด นายก็น่าจะเข้าใจแล้ว แต่นายยังอ่อนประสบการณ์ ตอนนี้อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งที่เมืองหลวงด้วย ดังนั้นฉันต้องเตือนนายไว้สองสามเรื่อง รวมถึงเรื่องที่ทำได้และทำไม่ได้ด้วย คนไหนที่เจอแล้วต้องหลบ คนไหนที่เจอแล้วหาผลประโยชน์ได้ องค์ชายรองฉินฝานไปหานายแล้วใช่ไหม!”

เมื่อลู่ฝานได้ยินจึงพยักหน้าพูดว่า “ใช่ครับท่านผอ. องค์ชายรองบอกว่าจะช่วยให้ผมชนะการต่อสู้ตอนเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี ท่านผอ.รู้ไหมว่าผมต้องสู้กับจางกวัง”

เทียนหยาจื่อหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ลู่ฝาน นักกระบี่แห่งตงหวา สู้อย่างดุเดือดกับแปดผู้โดดเด่น ต่อสู้กับคนจำนวนมากด้วยตัวคนเดียว ตอนเทศกาลเซ่นไหว้ประจำปี จะสู้กับจางกวังอันดับหนึ่งในแปดผู้โดดเด่นต่อหน้าทุกคน ใครไม่รู้บ้างล่ะ ชื่อเสียงโด่งดังของนาย มาถึงหูฉันแล้ว ตอนนี้ในบรรดาลูกหลานตระกูลเทียน มีคนจำนวนไม่น้อยเลื่อมใสศรัทธานาย นายจะพิจารณาแต่งงานกับผู้หญิงตระกูลเทียนเป็นภรรยาไหม ฉันจัดการให้นายได้ทันทีเลยนะ”

ลู่ฝานพูดว่า “ท่านผอ.ล้อผมเล่นอีกแล้ว ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ท่านผอ.มีความเห็นยังไงกับองค์ชายรองบ้างครับ”

เทียนหยาจื่อพูดว่า “ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันมีความคิดนี้จริงๆ นายลองพิจารณาดูก่อนสิ ส่วนองค์ชายรอง ฉันไม่มีความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับเขา ในทางตรงกันข้าม ฉันชื่นชมเขามาก แม้เขาทำตัวเป็นอิสระมาตลอด ไม่เอาถ่าน แต่เด็กคนนี้มีปณิธานยิ่งใหญ่ ลู่ฝาน คำแนะนำแรกที่ฉันจะบอกนายก็คือ อยู่ให้ห่างจากองค์ชายรองสักหน่อย อย่าอยู่ใกล้เข้ามากจนเกินไป!”

ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “ทำไมเหรอครับ”

เทียนหยาจื่อมองลู่ฝานด้วยแววตาเย็นยะเยือก พูดอย่างจริงจังว่า “ลู่ฝาน ตอนนี้สองคนที่นายเจอ ไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าองค์ชายรองเป็นแค่คุณชายตระกูลขุนนางตระกูลใดตระกูลหนึ่ง หรือแม้แต่คนของสิบตระกูลใหญ่ ฉันไม่มีทางพูดแบบนี้ แต่เขาเป็นคนของราชวงศ์ เป็นองค์ชายรองของประเทศอู่อาน เขาแซ่ฉิน! นายอาจไม่รู้ว่านายเข้าไปในการต่อสู้ขององค์ชายทั้งสองคนแล้ว ถูกต้องที่ไท่จื่อจะฆ่านาย แต่ถ้าเป็นแค่ไท่จื่อ ยังไม่เท่าไร จากความสามารถของนาย บวกกับการคุ้มครองของเจดีย์ยา คงไม่มีปัญหา หากแย่ที่สุด ถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายจริงๆ ฉันออกไปช่วยนาย เรื่องก็ผ่านไปแล้ว แต่ถ้านายเข้าไปในการต่อสู้ขององค์ชายทั้งสองคน ใครก็ช่วยนายไม่ได้ นายต้องตายแน่นอน”