“ฮ่าฮ่า!”
หยางเฟิงหัวเราะออกมาเบา ๆ และพูดออกมาว่า “เธอหมายถึงเขางั้นเหรอ … ดาร์กไนท์ออกมาหาฉัน!”
ฟึบเสียงสายหนึ่งพลันดังออกมา
ทันใดนั้นพลันมีเงาสายหนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเย่เมิ่งเหยียนในทันที
เธอเห็นดาร์กไนท์คุกเข่าลงบนพื้นด้วยขาข้างเดียว และพูดด้วยความเคารพออกมาว่า “ดาร์กไนท์ขอคารวะนายหญิงครับ!”
เมื่อเห็นการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของแนเยี่ยแล้วนั้น เย่เมิ่งเหยียนพลันตกใจขึ้นมาในทันที
เย่เมิ่งเหยียนจ้องมองไปที่ดาร์กไนท์ พลางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจขึ้นมาว่า “สามีนี่คือ…”
หยางเฟิงอธิบายออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “ที่รัก ดาร์กไนท์ยอมจำนนต่อฉันแล้ว และต่อจากนี้ไปเขาจะเป็นองครักษ์เงาของฉัน!”
ขณะที่หยางเฟิงพูดนั้น เขาพลันเหลือบไปมองดาร์กไนท์และพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายจะต้องปกป้องเย่เมิ่งเหยียนด้วยห้ามทำผิดพลาดอีกเข้าใจไหม?”
“ครับ!”
พูดจบ
ดาร์กไนท์จึงหายไปจากจุดนั้นอีกครั้ง ราวกับว่าไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน
เย่เมิ่งเหยียนตกตะลึงไปในทันที
ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฟิงยืนอยู่ข้างเธอตลอดละก็ เธอคงคิดว่าเธอเพิ่งเห็นผีมาแน่ ๆ
เย่เมิ่งเหยียนมองไปที่หยางเฟิง พลางเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “คนคนนั้นล่ะ?”
หยางเฟิงเพียงแย้มยิ้มและพูดว่า “อย่ากังวลไปเลย เขาอยู่เคียงข้างคุณตลอด นับจากวันนี้เป็นต้นไป ดาร์กไนท์จะคอยปกป้องความปลอดภัยของคุณ!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น
เย่เมิ่งเหยียนพลันรีบมองไปรอบ ๆ แต่เธอก็ไม่เห็นใครเลยสักคนเดียว
ทำให้ เธออดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก ๆ
แม้ว่าเธอจะไม่เห็นใครก็ตาม แต่เธอก็เชื่อมั่นในคำพูดของหยางเฟิงว่า ดาร์กไนท์จะคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
น่ากลัว!
น่ากลัวจริงๆเลย!
มีคนที่น่ากลัวอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?
ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฟิงละก็
หากว่าดาร์กไนท์คิดจะฆ่าเธอขึ้นมาละก็ เกรงว่าเธอคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองตายไปได้อย่างไร
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เถียนเฟยจะเนื้อตัวสั่นเทาตกใจเมื่อเขาได้ยินว่าตระกูลเย่ฟอเรนท์ส่งดาร์กไนท์มาฆ่าเขาแบบนี้
ไม่แปลกใจเลยที่ดาร์กไนท์จะถูกเรียกว่าเป็นนักฆ่ารัตติกาล
คนที่น่ากลัวเช่นนี้ ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวจริง ๆ
ในความเป็นจริงแล้ว การที่หยางเฟิงเก็บดาร์กไนท์มาไว้ข้างกายนั้น ก็เพื่อปกป้องเย่เมิ่งเหยียน
อย่างไรก็ตามหยางเฟิง ไม่สามารถอยู่เคียงข้างเย่เมิ่งเหยียน ได้ตลอดเวลา
สำหรับเสือขาวและคนอื่น ๆ นั้น พวกเขาล้วนแต่เป็นผู้บัญชาการทหาร ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปกป้องเย่เมิ่งเหยียนได้ตลอดเวลาเช่นกัน
สำหรับองครักษ์มังกรนั้น แม้ว่าเขาจะสามารถปกป้องดูแลได้ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ยังมีข้อจำกัดเช่นกัน
หากเมื่อต้องมาเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า พวกเขาย่อมกลายเป็นคนไร้ฝีมือในทันที
ในคราก่อนที่เย่หนานเกือบจะรังแกเย่เมิ่งเหยียนไปได้นั้นมันกลายมาเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ให้กับหยางเฟิง
หากไม่มีคนที่แข็งแกร่งคอยปกป้องดูแลเย่เมิ่งเหยียนนั้น หยางเฟิงก็คงไม่สามารถวางใจได้เหมือนกัน
อีกทั้ง ดาร์กไนท์นับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว
เมื่อมีดาร์กไนท์คอยปกป้องเย่เมิ่งเหยียนแบบนี้
นอกเสียจากจะเป็นผู้แข็งแกร่งขั้นแดนแปรเทพแล้วนั้น
มิฉะนั้น คนธรรมดาย่อมไม่สามารถทำร้ายเย่เมิ่งเหยียนได้อย่างแน่นอน
สิ่งนี้ทำให้หยางเฟิงวางใจได้ในที่สุด
แน่นอนว่า เย่เมิ่งเหยียนรู้ถึงเจตนาดีของหยางเฟิงได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
เธอมองไปที่หยางเฟิงด้วยใบหน้าที่รู้สึกซาบซึ้งใจ พลางเอ่ยออกมาว่า “ขอบคุณสามีมาก ๆ ! ที่ทำเพื่อฉัน !”
หยางเฟิงกอดเย่เมิ่งเหยียนเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา และพูดเบา ๆ ว่า “เด็กโง่ เธอเป็นภรรยาของฉันนะ การปกป้องเธอถึงอย่างไรก็เป็นหน้าที่ของฉันวางใจเธอ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้อีก”
“อื้ม!”
เย่เมิ่งเหยียนพยักหน้าลงและไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในตอนที่เธออยู่ในอ้อมกอดของหยางเฟิงนั้น เธอกลับรู้สึกว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและอบอุ่นที่สุดในโลก
ช่วงเวลานี้.
เธอค่อนข้างที่จะเชื่อขึ้นมาแล้วว่า
สามีของเธออาจจะเป็นเทพสงครามอันดับหนึ่งของต้าเซี่ยจริงๆ!
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่
แต่สามีของเธอ ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเทพสงครามอันดับหนึ่งแน่ๆ !
มิฉะนั้น.
ชายผู้แข็งแกร่งอย่างดาร์กไนท์จะยอมจำนนต่อเขาได้อย่างไรกัน?
…
ในต่างประเทศ เกาะดาว
เพล้ง!
เพล้ง!
เพล้ง!
“ขยะ! พวกแกมันเป็นคนไร้ประโยชน์ไปทั้งหมด!”