หยางเฟิงพลันโบกไม้โบกมือไปมาแล้วพูดว่า “พอแล้ว นายไม่ต้องมาพูดซ้ำอีก ฉันได้ยินชัดเจนแล้ว”
“แต่……”
เถียนเฟยยังคงรู้สึกตะลึงจริงๆ
ในเมื่อหยางเฟิงได้ยินชัดเจนแล้ว เขาไม่นึกกลัวเลยเหรอจะไม่กลัว?
นั่นคือหัวหน้าตระกูลเย่ฟอเรนท์เชียว!
และเหล่าหัวกะทิทั้งแปดพันคนของสำนักหงอีกด้วย!
พลังที่น่าสะพรึงกลัวนี้เพียงพอที่จะกวาดล้างทั้งหู้ไห่ไปได้หมดเลย!
ยังไม่ต้องพูดถึงการกวาดล้างตงไห่ไปทั้งหมดอีกด้วย
แม้แต่ในต้าเซี่ยนั้น ก็ยังมีกองกำลังน้อยมากที่จะสามารถเทียบเคียงกับสำนักหงได้
แต่หยางเฟิงกลับทำตัวดูเหมือนคนปกติ
เถียนเฟยรู้สึกสงสัยจริง ๆ ว่า หยางเฟิงกำลังกลัวจนหมดปัญญาหรือไม่?
ยังไม่ทันรอให้เถียนเฟยพูดออกมา
หยางเฟิงจึงเอ่ยขัดจังหวะออกมาว่า “ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ก็แค่ตระกูลเย่ที่อยู่ในต่างประเทศไม่ใช่หรือ? กับสำนักหงใช่ไหม? ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว!”
“แล้วคนถึงแปดพันคนนะหรือ? แม้จะมากันแปดหมื่นคน ฉันก็ไม่คิดใส่ใจ!”
“ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าคนจะมาจากต่างแดนตระกูลเย่จะมาอีกสักกี่คน ฉันก็จะขัดขวางพวกเขาเอาไว้เอง และไม่คิดให้พวกเขาเข้าใกล้ต้าเซี่ยมาแน่นอน!”
ประโยคสุดท้ายของหยางเฟิงนั้น พลันกล่าวขึ้นมาอย่างหนักแน่น
ไม่สำคัญว่าสำนักหงเคยอยู่ภายใต้อิทธิพลของต้าเซี่ยมาก่อนหรือไม่
แต่เมื่อคุณคิดละทิ้งต้าเซี่ยไป ก็ไม่ควรเสนอหน้ากลับมาอีก
หากคุณยังกล้าที่จะกลับมา ก็อย่าโทษว่าหยางเฟิงใจร้าย!
“ครับ คุณหยาง!”
เมื่อเห็นใบหน้าของหยางเฟิง เต็มไปด้วยความมืดครึ้มที่น่ากลัวนั้น
เถียนเฟยเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ในความคิดของเขานั้น แม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมาก็คงเป็นหยางเฟิงที่ช่วยพยุงมันเอาไว้แน่ ๆ
ตัวเขาเองที่เป็นเพียงตัวละครตัวเล็กๆ นั้น
ในเมื่อหยางเฟิงไม่คิดกลัว แล้วเขาจะต้องกลัวอะไร?
“สามี……”
เย่เมิ่งเหยียนที่อยู่ด้านข้างเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อรู้ว่าตระกูลเย่ฟอเรนท์มีเหล่าหัวกะทิทั้งแปดพันคนของสำนักหงร่วมด้วยนั้น!
เขาจะไม่รู้สึกกลัวเลยหรือ?
หยางเฟิงมองไปที่เย่เมิ่งเหยียน และพูดออกมาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนว่า “ที่รัก คุณไม่ต้องกังวลไป! คุณเคยเห็นสามีของคุณ ทำอะไรที่ไม่แน่ใจในผลลัพธ์งั้นเหรอ? ตราบใดที่ผมบอกว่าไม่เป็นไร มันก็จะไม่เป็นไรครับ!”
“อื้ม!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เมิ่งเหยียนพลันพยักหน้าลงเล็กน้อย
ในเมื่อหยางเฟิงพูดออกมาอย่างนี้แล้ว เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรไปได้มากกว่านี้อีก
อย่างไรก็ตาม เย่เมิ่งเหยียนเองก็ได้ตัดสินใจแล้วเช่นกัน
หากหยางเฟิงตกตายไปจริง ๆ แล้วนั้น เธอก็คงไม่อาจมีชีวิตได้อีกต่อไป
ทว่า เธอก็มีความคิดของตัวเองด้วยเช่นกัน
คู่ต่อสู้ที่สามีของเธอต้องมาพบในครั้งนี้ นับว่าแข็งแกร่งมาก
เธออยากจะรู้เหมือนกัน
สามีของเธอที่เป็นถึงเทพสงครามต้าเซี่ย แม่ทัพเทพมรณะ! ถึงแม้ทั้งหยางเฟิงและเย่เมิ่งเหยียน จะไม่ได้อยู่ที่หู้ไห่มานานมากนัก
ในเมื่อเย่หรงนำเหล่าหัวกะทิทั้งแปดพันคนของสำนักหงมาที่นี่
ไม่ว่าอย่างไร หยางเฟิงต้องรีบกลับไปยังตงไห่ในทันที
ในวันเดียวกัน ทั้งสองคนจึงได้บินกลับไปยังตงไห่โดยเครื่องบิน
ก่อนที่จะเดินทางกลับตงไห่นั้น หยางเฟิงจึงได้โทรศัพท์ไปหากัศปะ
พลางสั่งให้กัศปะนำกองทหารเทพมรณะ ไปประจำการที่ตงไห่ในทันที
ในเมื่อเย่หรงกล้าที่จะพาผู้คนไปสร้างปัญหาที่ตงไห่ นั่นหมายความว่าเขากำลังรนหาที่ตาย !
“ท่านเม่ทัพ มีคำสั่งอะไรลงมางั้นเหรอ?”
หลังจากรับสายจากหยางเฟิงนั้น กัศปะพลันนั่งตัวตรงในทันที
หยางเฟิงเพียงหรี่ตาลงเล็กน้อย “เย่หรงผู้นำตระกูลเย่ฟอเรนท์นั้น กำลังนำเหล่าหัวกะทิทั้งแปดพันคนของสำนักหงมาที่นี่อย่างอุกอาจ นายจะต้องเป็นคนนำกองทหารเทพมรณะออกไปทำลายล้างพวกเขาทั้งหมดให้สิ้นซาก!”
เมื่อได้ยินแบบนั้น
สายตาของกัศปะพลันฉายแววระยิบระยับออกมาในทันที
ช่วงเวลาที่เขาอยู่ในตงไห่แห่งนี้ เขาแทบจะกลายเป็นเชื้อราที่ไร้ประโยชน์ไปแล้ว
ไม่คาดคิดจริงๆเลยว่า จะยังมีคนที่กล้าพุ่งเข้าใส่ปากกระบอกปืนของตัวเองแบบนี่อยู่อีก
กัศปะพลันตอบรับคำสั่งในทันที “ท่านแม่ทัพครับ ท่านต้องการให้ผมนำเรือรบออกไปด้วยไหมครับ”
ก่อนที่กัศปะจะพูดจบนั้น
หยางเฟิงพลันเอ่ยออกมาด้วยท่าทางเหยียดหยามว่า “อาวุธขนาดใหญ่แบบนี้ จะให้เอาออกมาใช้จัดการกับขยะเพียงไม่กี่ชิ้นได้อย่างไรกัน? ก็แค่พวกไร้ประโยชน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น กองทหารเทพมรณะจัดการพวกมันได้ง่ายดายอยู่แล้ว!”
“ครับ ผมรู้แล้วว่าต้องทำยังไงต่อไปผมรับประกันได้เลยว่า ทุกคนที่อยู่ในสำนักหงจะไม่โอกาสได้กลับไปอย่างแน่นอนครับ!”