ตอนที่ 1345 การกลับมา

Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ

ตอนที่ 1345 การกลับมา โดย Ink Stone_Fantasy

ในฐานะที่วัลคีรีย์นั้นเป็นปีศาจระดับสูงที่ยกระดับเป็นราชากลุ่มแรกสุด คำพูดของมันย่อมต้องมีน้ำหนักมากกว่าราชาตัวอื่น แล้วก็มีแต่มันเท่านั้นที่สามารถรักษาน้ำเสียงและสภาพจิตใจเอาไว้ได้เป็นปกติเวลาที่พูดคุยกับจักรพรรดิ ราวกับว่าทั้งสองนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน ที่สำคัญไปกว่านั้นคือจักรพรรดิเองก็ไม่เคยคัดค้านมันมาก่อนด้วย

ถ้านี่เป็นข้อสรุปที่ไนท์แมร์พูดออกมา มันก็ย่อมต้องมีความน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้นเฮคซอดนั้นเคยพูดคุยกับอีกฝ่ายถึงเรื่องความเป็นไปได้ที่มนุษย์จะได้รับการสืบทอดจริงๆ เพียงแต่อีกฝ่ายนั้นไม่เคยพูดออกมาจากปากตรงๆ จะมีก็แต่สมมติฐานที่ฟังดูสมเหตุสมผล ขณะเดียวกันเฮคซอดก็จงใจที่จะพูดเรื่องนี้หลังจากที่แสดงความทรงจำศึกทางตะวันตกออกมาให้ราชาตัวอื่นๆ ได้เห็น จักรพรรดิอาจจะตรวจสอบคำพูดนี้ในขณะที่ดึงความทรงจำของมันออกมา แต่ไม่มีทางที่จักรพรรดิจะไปตรวจสอบเรื่องนี้โดยเฉพาะแน่

เพราะจิตสำนึกของจักรพรรดิมีความเป็นอิสระสูง การตัดสินทุกอย่างล้วนแต่ทำอยู่บนพื้นฐานของความจริง

คำพูดเหล่านี้เขาใช้เพื่ออุดปากผู้ที่เห็นต่างมากกว่า

สมองอันโง่เง่าจนน่าสงสารของบลัดดี้คองเคอเรอร์นั้นไม่สามารถมองสถานการณ์ออกได้ มันแต่ตอบสนองไปตามสัญชาติญาณเท่านั้น

เพื่อที่จะปัดความรับผิดชอบแล้ว เดอะแมสก์ไม่มีทางยืนอยู่ฝั่งตัวเองง่ายๆ แน่

ราชาตัวอื่นส่วนใหญ่โลเลไม่แน่นอน การฝากความหวังของเผ่าพันธุ์ไว้ที่พวกมันนั้นเรียกได้ว่าเป็นเรื่องตลก

ด้วยเหตุนี้เฮคซอดจึงพูดคำพูดโกหกเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ไม่มีความกดดันแม้แต่น้อย

ตอนนี้การถอยต่างหากถึงจะเป็นทิ้งความรับผิดชอบต่อเผ่าพันธุ์

มันจำเป็นต้องพลิกสถานการณ์กลับมาให้ได้!

“การสืบทอดที่ไม่รู้จักอะไรนั่น นี่ัมันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว…” เดอะแมสก์พูดเสียงต่ำอย่างสงสัย “พวกเราต่างเคยเห็นภาพในโถงแหล่งกำเนิดพลังเวทมนตร์มาแล้ว ถ้าเผ่าพันธุ์นั้นมันมีอยู่จริง อย่างนั้นตอนนี้มันอยู่ที่ไหนล่ะ?”

“แล้วใครจะรับประกันได้ล่ะว่าข้อสรุปที่เผ่าพันธุ์เราได้มาก่อนหน้านี้มันถูกต้อง?” เฮคซอดพูดอย่างมั่นใจ “ข้าเองก็ไม่อยากเชื่อว่ามนุษย์ได้รับความเมตตาจากโชคชะตา แต่พวกเราก็เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาแล้วนี่! อย่าลืมสิ ก่อนที่พวกเราจะได้รับชิ้นส่วนสืบทอดของอารยธรรมใต้ดินมา พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่แท้เศษชิ้นส่วนมันแบ่งได้”

“เจ้าหมายความว่า…” เฮทริตเหมือนจะคิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา

ไม่ ข้าไม่ได้หมายความว่าอะไรทั้งนั้น เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือชักนำพวกเจ้าไปยังคำตอบที่พวกเจ้าสร้างขึ้นมา  “ถ้าในโบราณสถานจำนวนมากมีเศษชิ้นส่วนหลงเหลืออยู่ล่ะก็…”

ราชาทุกตัวตกอยู่ในความเงียบ

ยกเว้นก็แต่บลัดดี้คองเคอเรอร์เท่านั้น

“แล้วมันยังไงล่ะ? ข้าไม่เห็นด้วยที่จะเอาพระผู้สร้างไปใช้รับมือพวกแมลงเด็ดขาด! อาณาจักรซีสกายยังคงบุกโจมตีเข้ามาอย่างหนัก ตอนนี้เรามีโอกาสให้พักหายใจ พวกเราก็ควรจะฉวยโอกาสนี้เสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวป้องกันถึงจะถูก ข้าไม่มีพระผู้สร้าง แนวรบทางตะวันตกก็ยากที่จะรับมือกับศึกหนักที่ถ้าโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องได้ ถ้าหากกองทัพทางตะวันออกพ่ายแพ้ เมืองอีกสิบกว่าเมืองก็จะอยู่ในเงื้อมมือของพวกศัตรู!”

แต่ครั้งนี้กลับไม่มีใครออกเสียงสนับสนุนมันอีก

“เทียบกับเมืองสิบกว่าเมืองแล้ว อนาคตของเผ่าพันธุ์ต่างหากคือสิ่งที่เจ้าควรจะคิดถึง” เฮคซอดกวาดตามองมันด้วยสีหน้าราบเรียบ จากนั้นก็มองไปทางหอคอยแห่งการให้กำเนิดที่อยู่ตรงกลางหอเจ้าชีวิต “ท่านจักรพรรดิ จริงอยู่ที่ถ้ากองทัพตะวันออกสูญเสียพระผู้สร้างไปจะทำให้สถานการณ์ยิ่งตกอยู่ในความได้เปรียบ แต่อย่างน้อยนั้นก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด ตอนนี้เวลาไม่อยู่ฝั่งพวกเรา มนุษย์กำลังดูดซับการสืบทอดของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ในเมื่อการเสียสละเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างนั้นการตัดสินใจหลังจากนี้จะมีความสำคัญอย่างมากขอรับ”

“เฮคซอด นั่นมันกองทัพของข้านะ!” บลัดดี้คองเคอเรอร์คำราม

สกายลอร์ดทำเป็นไม่ได้ยิน “ทุกคนต่างก็ได้เห็นแล้วว่าอาวุธสงครามที่มนุษย์สร้างขึ้นมานั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน ที่สำคัญกว่านั้นก็คือร่างระดับต้นก็ใช้งานมันได้เหมือนกัน! ถ้าเผ่าพันธุ์เราสามารถดูดซับการสืบทอดของพวกเขาได้ แล้วเอาฝนเพลิงกับนกเหล็กมาให้กองทัพของพวกเราใช้ สถานการณ์การรบกับอาณาจักรซีสกายก็จะเปลี่ยนไป! ต่อให้เสียแบล็คสโตนไป แต่สุดท้ายคนที่จะชนะสงครามแห่งโชคชะตาก็ต้องเป็นพวกเราแน่นอน!”

ในตอนที่ได้ยินเรื่องการหลอมรวมเข้ากับอาวุธใหม่ ในกรอบดวงตาที่เป็นโพรงของเดอะแมสก์พลันเปล่งแสงสว่างวาบออกมา

บลัดดี้คองเคอเรอร์ยังคงตะโกนอย่างโมโห “แต่ความสูญเสียเหล่านี้มันสามารถหลีกเลี่ยงได้…”

“พอได้แล้ว” ในที่สุดจักรพรรดิก็เอ่ยปากขึ้นมา “ข้าเข้าใจความหมายของเจ้าแล้ว”

เฮคซอดใจชื้นขึ้นมา

จักรพรรดิไม่ได้รับผลกระทบจากการถกเถียงกันของพวกมัน มันจะตัดสินใจไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ส่วนราชาตัวอื่นๆ เองก็เริ่มจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อย่างน้อยพวกมันก็ไม่แสดงอากาศต่อต้านออกมาอย่างชัดเจน แบบนี้ก็จะทำให้การลงฉันทามติภายในสภาดำเนินไปเร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นการถกเถียงกันของราชาและความล่าช้าจะทำให้สูญเสียเวลาอันมีค่าไป แล้วความกดดันที่กองทัพฝั่งตะวันตกสร้างให้กับมนุษย์อย่างยากลำบากก็จะสูญเปล่าด้วย

ถึงแม้นี่จะยังห่างจาก ‘การบุกเข้าไปด้วยกำลังทั้งหมด’ อย่างที่อุรูคบอกไว้ แต่นี่ก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่มันจะทำได้ในตอนนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะที่เป็นผลงานชิ้นเอกของเผ่าพันธุ์ ตัวพระผู้สร้างจะต้องมีกำลังพลจำนวนมากคอยปกป้องคุ้มครองอย่างแน่นอน ซึ่งในอีกแง่หนึ่งก็เท่ากับเป็นการส่งกองหนุนมาช่วยกองทัพตะวันตก

และหลังจากที่สุดยอดอาวุธนี้มาถึงดินแดนรุ่งอรุณ แผนการรบทั้งหมดของมนุษย์ก็จะไร้ความหมาย

“ไซเลนท์ดิสแอสเตอร์ช่วยสนับสนุนกองทัพตะวันตกเหมือนเดิม” เสียงของจักรพรรดิดังขึ้นในหอเจ้าชีวิต “เอาไว้พระผู้สร้างเสร็จเรียบร้อยเมื่อไรก็ให้เดินหน้าเข้าไปยังดินแดนของมนุษย์เพื่อชิงชิ้นส่วนสืบทอดมา กองทัพตะวันออกให้ถอยมาทางใต้ก่อน หากจำเป็นให้ทิ้งเมืองบางส่วนได้ เพื่อจะได้ลดการสูญเสียของพวกร่างชั้นต่ำ หากสถานการณ์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง พวกมันยังถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญอยู่”

“รับทราบ” ราชาทุกตัวพากันรับคำสั่ง

“แต่บลัดดี้คองเคอเรอร์ก็พูดถูกเหมือนกัน แผนการรบในสงครามแห่งโชคชะตาครั้งที่สามที่วางไว้แต่เดิมคือทางตะวันออกคอยกันอาณาจักรซีสกายเอาไว้ แล้วให้ทางตะวันตกกลืนกินมนุษย์ แต่ตอนนี้เราจำเป็นต้องย้ายพระผู้สร้างไปทางตะวันตก ทำให้ความเสียหายของทางตะวันออกเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ สกายลอร์ด…เจ้าคิดว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยงั้นเหรอ?”

ทันใดนั้นเอง เฮคซอดพลันรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่ไต่ขึ้นมาบนสันหลัง ในสายตาของมัน ดวงตาของหอคอยแห่งการให้กำเนิดมารวมตัวอยู่ด้วยกันจนกลายเป็นดวงตาขนาดมหึมา ตัวมันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ดูตัวเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับมัน เพียงแค่ตาดำของมันก็ใหญ่พอที่จะใส่ตัวมันเข้าไปได้ตั้งหลายตัว ลูกตาลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับจับจ้องมาที่เฮคซอดด้วยสายตาเยือกเย็น ราวกับว่าขอเพียงกลิ้งมาข้างหน้าเล็กน้อย มันก็สามารถบดขยี้เฮคซอดให้กลายเป็นผุยผงได้สบาย ภายใต้ความกดดันแบบนี้ แม้แต่ความคิดที่จะเปิดประตูมิติมันก็ยังไม่กล้าคิดขึ้นมาเลย

ในหอเจ้าชีวิต จักรพรรดิไม่ได้ต่างอะไรจากพระเจ้า

“ความสามารถของเจ้าย่อมสำคัญ แต่มันไม่ได้หมายความว่าข้าจะมองข้ามในจุดนี้ไป นี่คือความผิดพลาดสุดท้ายของแผนการตะวันตก อย่าทำให้ข้าผิดหวังอีก ไม่อย่างนั้น…”

ความไม่สบอารมณ์ของมันไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดมาแสดงออก เพราะความรู้สึกกดดันที่ถาโถมเข้ามานั้นได้แสดงออกทุกอย่างแล้ว

“ข้า…เข้าใจแล้วขอรับ”

ดวงตาหายไป หอเจ้าชีวิตเองก็สลายหายไป หอคอยของเมืองสกายและหมอกแดงปรากฏขึ้นตรงหน้าเฮคซอดอีกครั้ง

“นายท่าน เป็นอะไรหรือเปล่าขอรับ?”

“ไม่เป็นไร…” สกายลอร์ดมองดูซีอาซิสที่เฝ้าอยู่ข้างกายพร้อมส่ายหัว เดิมมันคิดว่าตัวเองเตรียมพร้อมดีแล้ว แต่ในตอนที่ต้องเผชิญต่อแรงกดดันของจักรพรรดิจริงๆ ความรู้สึกไม่สบายและความขัดแย้งภายในใจของมันก็เป็นเหมือนภูเขาที่ล้มลงมาทับมัน

นี่เป็นแค่…ปฏิกิริยาที่ตอบสนองออกมาเองเท่านั้น

เฮคซอดหลับตา

ทุกอย่างล้วนแต่ทำเพื่อเผ่าพันธุ์

มันทำดีที่สุดแล้ว

………………………………………………………