แต่ว่าเขายังไม่ทันได้คิดพิจารณาให้ดี เสียงของหญิงสาวในสายโทรศัพท์ดูใจเย็นจนผิดปกติ ดังมาอีกครั้ง
“คุณไม่ต้องโกหกฉัน ฉันหาตำแหน่งที่อยู่ของคุณเจอแล้ว กาวิน คุณเอาสถานการณ์ทั้งหมดบอกกับฉันมาจะดีกว่า ไม่งั้น คุณเชื่อหรือไม่ว่าฉันจะไปถึงที่นั่นในทันที”
“ไม่ ไม่เอา!”
ประโยคสุดท้าย ชายหนุ่มที่อยู่ในสายโทรศัพท์ในที่สุดก็รีบปฏิเสธออกมาอย่างรีบร้อน
เมื่อรีบร้อน น้ำเสียงของเขาก็ขาดห้วงไป
เส้นหมี่อึ้งไป
“คุณผู้หญิง คุณ……ตอนนี้คุณอย่ามา ถ้าคุณมา เพียงแต่จะทำให้ท่านประธานเสียสมาธิเท่านั้น”กาวินขาดช่วงไปตั้งนาน ถึงได้ยินเสียงของตัวเองพูดกับคุณผู้หญิงออกไปประโยคนั้น
คำพูดนี้พูดออกมา เส้นหมี่สั่นขึ้นมาอีกครั้ง
ทันใดค่อยๆเผยสีหน้าที่น่ากลัวออกมา เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว จึงตะโกนออกมาทันที:“ทำไม? พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่ที่นั่นกันแน่ กาวิน คุณมีอะไรปกปิดฉันอยู่กันแน่ ห๋า?”
“ไม่มี คุณผู้หญิง ผมไม่มี……อะไรปกปิดคุณเอาไว้จริงๆ”
“คุณโกหก!”เส้นหมี่ยิ่งโมโหขึ้นมามากกว่าเดิม “น้ำเสียงของคุณตอนนี้ดูอ่อนแรงมาก เห็นได้ชัดว่าร่างกายกำลังได้รับบาดเจ็บถึงได้เป็นแบบนี้ กาวิน คุณอย่าลืม ว่าฉันเป็นหมอ!!”
“……”
ไม่มีเสียงใดออกมาแล้ว ครั้งนี้ กาวินที่อยู่ในสายโทรศัพท์ ในที่สุดก็เงียบลงไป
ใช่น่ะสิ เธอจะไม่รู้สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ได้อย่างไร? เธอได้ยินผู้บัญชาการทหารกับลูกน้องสนทนากันด้วยหูของตัวเอง คดีการระเบิดเฮฟเวน&เฮิร์ดสาเหตุที่แท้จริงมาจากเขากาวิน!
33คนนั้นตายหมดแล้ว เขากาวินจะไม่เป็นอะไรเลยเหรอ? แล้วชายหนุ่มคนนั้นล่ะ? เขาเป็นยังไงกันแน่?
เส้นหมี่น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาแล้ว:“กาวิน ฉันจะบอกคุณนะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว และฉันก็ไปที่ไนต์คลับร้านนั้นมาแล้วด้วย พวกคุณเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันรู้หมดแล้ว กาวิน”
กาวิน:“……”
เนิ่นนาน ในที่สุดชายหนุ่มในสายโทรศัพท์ก็เปล่งน้ำเสียงแหบแห้งออกมาปรามเอาไว้ประโยคหนึ่ง :“คุณผู้หญิงคุณไม่ต้องกังวล ท่านประธานไม่เป็นอะไร ก่อนเกิดการระเบิด เขา……ได้ออกไปแล้ว”
“จริงเหรอ?”
“จริงครับ ครั้งนี้ผมไม่ได้โกหกคุณจริงๆ ตอนนี้เขากำลังไปรวมตัวกับคุณชายเปรมไตร พวกเขาได้นัดกันเอาไว้แล้ว น่าจะอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ท่านประธานก็จะขึ้นเรือ”
ในที่สุดกาวินก็พูดความจริง ออกมาแล้ว ข้อความนี้ทำให้คนฟังสบายใจได้แล้ว
ทันใดเส้นหมี่ก็ดีใจออกมาจนน้ำตาไหล!
ที่เขาพูดนั้นจริงหรือเปล่า?
คนคนนั้น จะกลับไปแล้วจริงๆ?
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นก็ดีมากเลย เธอก็จะกลับไปรอเขา
เส้นหมี่ออกมาจากร้านอินเทอร์เน็ต เตรียมหาสถานที่พักผ่อนสักหน่อย หลังจากนั้นรอฟังข่าว
แต่ว่า ในวินาทีที่เธอก้าวเดินออกมาจากร้านอินเทอร์เน็ตนั้น ทันใดนั้น เหนือศีรษะของเธอมีเฮลิคอปเตอร์หลายลำส่งเสียงดังขึ้นมา เหมือนกับในภาพยนตร์สงครามที่ฉายออกมา
เส้นหมี่อึ้งไปแล้ว!
วินาทีนี้ เธอเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาทันที หลังจากนั้นสมองก็ว่างเปล่าไป เธอจะรีบก้าวเท้าวิ่งหนีไป……
——
ท่าเรือ
ในตอนนี้แสนรักกำลังรอเปรมไตรอยู่
สำหรับเปรมไตรคนนี้ หลังจากความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลเทวเทพปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ติดต่อเขามาเลย รวมทั้งเจเคด้วย
แต่ว่าวันนั้น ตอนที่เขาตัดสินว่าจะมาเมืองหลวง เปรมไตรก็มาหาเขาด้วยตัวเอง
เขาพูดว่า:“น้องสาม เพราะว่าเป็นเรื่องของครอบครัว ผมไม่สามารถยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของคุณกับพี่ใหญ่ได้ แต่ว่าถ้าคุณต้องการที่จะมาที่เมืองหลวงจริงๆละก็ ไม่ว่าอย่างไร ผมจะส่งคุณออกไปเอง”
แสนรักได้ฟังจบแล้ว เดิมทีไม่ได้ให้ความสำคัญนัก
เพราะว่า เขาไม่ได้เตรียมการการออกไปจากที่นี่เอาไว้
แต่ว่าวันนี้ หลังจากที่กาวินได้พูดสิ่งเหล่านั้นกับเขาแล้ว เขาจึงคิดได้อย่างกะทันหันจึงมาถึงท่าเรืออันนี้แล้ว
“ท่านประธาน คุณชายเปรมไตรยังไม่มาเลย ไม่ใช่ว่าเขาปล่อยพวกเราทิ้งแล้วนะ”
เวลาหกโมงเย็นที่ท่าเรือนี้ ฟ้าเริ่มมืดลงมาเริ่มจะมองไม่เห็นแม่น้ำสายนี้ที่อยู่เบื้องหน้าแล้ว บรรยากาศรอบด้านอุณหภูมิเริ่มต่ำลงอย่างน่ากลัว ดลธีเริ่มอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาจึงถามออกมา
แสนรักไม่ได้ตอบกลับ
เขานั่งอยู่ที่นั่น ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปยังด้านหน้า ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา แต่นั่งเงียบๆอยู่ที่นั่น บนใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนล้า ในเวลานี้ท้องฟ้ามืดมน การมองเห็นเริ่มไม่ค่อยชัดเจนแล้ว
ดลธีก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก
เขาจึงตัดสินใจลงจากรถออกไปดู ถ้าเปรมไตรไม่มาจริงๆ งั้นพวกเขาก็จะได้เตรียมการอย่างอื่น
แต่เมื่อเขาพึ่งจะลงมาจากรถ คาดิลแลคสีขาวคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ในเวลานี้ที่ท้องฟ้าที่กำลังค่อยๆมืดสลัวลง เหมือนกับเสือชีตาห์ยังไงอย่างนั้น พุ่งเข้ามาที่ท่าเรือ
“พี่สาม เส้นทางการเดินเรือไม่สามารถทำได้แล้ว พวกเราคงต้องไปทางอากาศ?”
คิดไม่ถึงว่า เปรมไตรที่พึ่งมาถึง หลังจากนั้นก็พูดคำประโยคนี้ออกมา
ดลธีได้ฟังแล้ว ทันใดก็ระเบิดออกมา:“จะได้ยังไง คุณชายเปรมไตร ตอนนี้คุณพึ่งจะมาบอกพวกเราว่าทางนี้ไม่สามารถออกเดินทางได้แล้ว คุณรู้หรือเปล่าว่าท่านประธานพึ่งจะฆ่าคนของตระกูลเทวเทพไป คุณกลับให้เขาเลือกทางเดินอื่นงั้นเหรอ?”
เปรมไตร:“……”
“นั่นเป็นเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลพวกเขา ตระกูลเทวเทพไม่มีอำนาจเข้ามายุ่งหรอกใช่ไหม”แสนรักที่อยู่ในรถถามออกไปเบาๆหนึ่งประโยค
แววตาของเปรมไตร ถึงได้มองผ่านดลธีไป หลังจากนั้นก็มองมาที่เขาที่อยู่ในรถ
“ใช่ ผมได้เตรียมการเอาไว้แล้ว คุณไปตอนนี้ ก็สามารถออกเดินทางได้เลย”
“ดี”
แสนรักตอบรับไปอย่างไม่ลังเล
เหลือเพียงดลธีที่อยู่ในรถ ได้ยินแล้วภายในใจก็กระวนกระวายคิดมากขึ้นมาจนอ่อนยวบลงไปบนพื้น
ใช่สิ เขาลืมไปได้อย่างไร? ตระกูลของเปรมไตรนั้นทำการวิจัยเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นความลับ นอกจากเจ้าของไวท์ พาเลซแล้ว ใครก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง
ว้าวว้าวว้าว!
ดลธีปลื้มปีติขึ้นมาแล้วก็ขับตามคุณชายเปรมไตรไป
แต่ว่า พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่า วุฒิพลที่กำลังบ้าคลั่งนั้น เพื่อที่จะฆ่าแสนรักให้ตายอยู่ที่นี่ แม้แต่ตระกูลของเปรมไตร เขาก็ไม่ได้สนใจแล้ว
“ปัง——”
เสียงดังออกมาอย่างมาก!
เปรมไตรที่กำลังขับรถอยู่ด้านหน้า ทันใดนั้นก็มองเห็นเพียงกระจกด้านหน้านั้นมีของหนักๆบางอย่างกระแทกลงมา หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็กระเด็นขึ้นมาไปชนเข้ากับพวงมาลัยด้านหน้า
รถคันนี้ ทั้งรถทั้งคน พลิกคว่ำกลิ้งออกจากทางด่วนเส้นนี้ออกไปด้วยกันแล้ว!