บทที่ 676 ทางตัน!

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

แต่ว่าเขายังไม่ทันได้คิดพิจารณาให้ดี เสียงของหญิงสาวในสายโทรศัพท์ดูใจเย็นจนผิดปกติ ดังมาอีกครั้ง

“คุณไม่ต้องโกหกฉัน ฉันหาตำแหน่งที่อยู่ของคุณเจอแล้ว กาวิน คุณเอาสถานการณ์ทั้งหมดบอกกับฉันมาจะดีกว่า ไม่งั้น คุณเชื่อหรือไม่ว่าฉันจะไปถึงที่นั่นในทันที”

“ไม่ ไม่เอา!”

ประโยคสุดท้าย ชายหนุ่มที่อยู่ในสายโทรศัพท์ในที่สุดก็รีบปฏิเสธออกมาอย่างรีบร้อน

เมื่อรีบร้อน น้ำเสียงของเขาก็ขาดห้วงไป

เส้นหมี่อึ้งไป

“คุณผู้หญิง คุณ……ตอนนี้คุณอย่ามา ถ้าคุณมา เพียงแต่จะทำให้ท่านประธานเสียสมาธิเท่านั้น”กาวินขาดช่วงไปตั้งนาน ถึงได้ยินเสียงของตัวเองพูดกับคุณผู้หญิงออกไปประโยคนั้น

คำพูดนี้พูดออกมา เส้นหมี่สั่นขึ้นมาอีกครั้ง

ทันใดค่อยๆเผยสีหน้าที่น่ากลัวออกมา เธอควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว จึงตะโกนออกมาทันที:“ทำไม? พวกคุณกำลังทำอะไรอยู่ที่นั่นกันแน่ กาวิน คุณมีอะไรปกปิดฉันอยู่กันแน่ ห๋า?”

“ไม่มี คุณผู้หญิง ผมไม่มี……อะไรปกปิดคุณเอาไว้จริงๆ”

“คุณโกหก!”เส้นหมี่ยิ่งโมโหขึ้นมามากกว่าเดิม “น้ำเสียงของคุณตอนนี้ดูอ่อนแรงมาก เห็นได้ชัดว่าร่างกายกำลังได้รับบาดเจ็บถึงได้เป็นแบบนี้ กาวิน คุณอย่าลืม ว่าฉันเป็นหมอ!!”

“……”

ไม่มีเสียงใดออกมาแล้ว ครั้งนี้ กาวินที่อยู่ในสายโทรศัพท์ ในที่สุดก็เงียบลงไป

ใช่น่ะสิ เธอจะไม่รู้สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ได้อย่างไร? เธอได้ยินผู้บัญชาการทหารกับลูกน้องสนทนากันด้วยหูของตัวเอง คดีการระเบิดเฮฟเวน&เฮิร์ดสาเหตุที่แท้จริงมาจากเขากาวิน!

33คนนั้นตายหมดแล้ว เขากาวินจะไม่เป็นอะไรเลยเหรอ? แล้วชายหนุ่มคนนั้นล่ะ? เขาเป็นยังไงกันแน่?

เส้นหมี่น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาแล้ว:“กาวิน ฉันจะบอกคุณนะ ตอนนี้ฉันอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว และฉันก็ไปที่ไนต์คลับร้านนั้นมาแล้วด้วย พวกคุณเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันรู้หมดแล้ว กาวิน”

กาวิน:“……”

เนิ่นนาน ในที่สุดชายหนุ่มในสายโทรศัพท์ก็เปล่งน้ำเสียงแหบแห้งออกมาปรามเอาไว้ประโยคหนึ่ง :“คุณผู้หญิงคุณไม่ต้องกังวล ท่านประธานไม่เป็นอะไร ก่อนเกิดการระเบิด เขา……ได้ออกไปแล้ว”

“จริงเหรอ?”

“จริงครับ ครั้งนี้ผมไม่ได้โกหกคุณจริงๆ ตอนนี้เขากำลังไปรวมตัวกับคุณชายเปรมไตร พวกเขาได้นัดกันเอาไว้แล้ว น่าจะอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ท่านประธานก็จะขึ้นเรือ”

ในที่สุดกาวินก็พูดความจริง ออกมาแล้ว ข้อความนี้ทำให้คนฟังสบายใจได้แล้ว

ทันใดเส้นหมี่ก็ดีใจออกมาจนน้ำตาไหล!

ที่เขาพูดนั้นจริงหรือเปล่า?

คนคนนั้น จะกลับไปแล้วจริงๆ?

ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นก็ดีมากเลย เธอก็จะกลับไปรอเขา

เส้นหมี่ออกมาจากร้านอินเทอร์เน็ต เตรียมหาสถานที่พักผ่อนสักหน่อย หลังจากนั้นรอฟังข่าว

แต่ว่า ในวินาทีที่เธอก้าวเดินออกมาจากร้านอินเทอร์เน็ตนั้น ทันใดนั้น เหนือศีรษะของเธอมีเฮลิคอปเตอร์หลายลำส่งเสียงดังขึ้นมา เหมือนกับในภาพยนตร์สงครามที่ฉายออกมา

เส้นหมี่อึ้งไปแล้ว!

วินาทีนี้ เธอเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาทันที หลังจากนั้นสมองก็ว่างเปล่าไป เธอจะรีบก้าวเท้าวิ่งหนีไป……

——

ท่าเรือ

ในตอนนี้แสนรักกำลังรอเปรมไตรอยู่

สำหรับเปรมไตรคนนี้ หลังจากความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลเทวเทพปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ติดต่อเขามาเลย รวมทั้งเจเคด้วย

แต่ว่าวันนั้น ตอนที่เขาตัดสินว่าจะมาเมืองหลวง เปรมไตรก็มาหาเขาด้วยตัวเอง

เขาพูดว่า:“น้องสาม เพราะว่าเป็นเรื่องของครอบครัว ผมไม่สามารถยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของคุณกับพี่ใหญ่ได้ แต่ว่าถ้าคุณต้องการที่จะมาที่เมืองหลวงจริงๆละก็ ไม่ว่าอย่างไร ผมจะส่งคุณออกไปเอง”

แสนรักได้ฟังจบแล้ว เดิมทีไม่ได้ให้ความสำคัญนัก

เพราะว่า เขาไม่ได้เตรียมการการออกไปจากที่นี่เอาไว้

แต่ว่าวันนี้ หลังจากที่กาวินได้พูดสิ่งเหล่านั้นกับเขาแล้ว เขาจึงคิดได้อย่างกะทันหันจึงมาถึงท่าเรืออันนี้แล้ว

“ท่านประธาน คุณชายเปรมไตรยังไม่มาเลย ไม่ใช่ว่าเขาปล่อยพวกเราทิ้งแล้วนะ”

เวลาหกโมงเย็นที่ท่าเรือนี้ ฟ้าเริ่มมืดลงมาเริ่มจะมองไม่เห็นแม่น้ำสายนี้ที่อยู่เบื้องหน้าแล้ว บรรยากาศรอบด้านอุณหภูมิเริ่มต่ำลงอย่างน่ากลัว ดลธีเริ่มอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาจึงถามออกมา

แสนรักไม่ได้ตอบกลับ

เขานั่งอยู่ที่นั่น ดวงตาทั้งสองจ้องมองไปยังด้านหน้า ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา แต่นั่งเงียบๆอยู่ที่นั่น บนใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนล้า ในเวลานี้ท้องฟ้ามืดมน การมองเห็นเริ่มไม่ค่อยชัดเจนแล้ว

ดลธีก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก

เขาจึงตัดสินใจลงจากรถออกไปดู ถ้าเปรมไตรไม่มาจริงๆ งั้นพวกเขาก็จะได้เตรียมการอย่างอื่น

แต่เมื่อเขาพึ่งจะลงมาจากรถ คาดิลแลคสีขาวคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ในเวลานี้ที่ท้องฟ้าที่กำลังค่อยๆมืดสลัวลง เหมือนกับเสือชีตาห์ยังไงอย่างนั้น พุ่งเข้ามาที่ท่าเรือ

“พี่สาม เส้นทางการเดินเรือไม่สามารถทำได้แล้ว พวกเราคงต้องไปทางอากาศ?”

คิดไม่ถึงว่า เปรมไตรที่พึ่งมาถึง หลังจากนั้นก็พูดคำประโยคนี้ออกมา

ดลธีได้ฟังแล้ว ทันใดก็ระเบิดออกมา:“จะได้ยังไง คุณชายเปรมไตร ตอนนี้คุณพึ่งจะมาบอกพวกเราว่าทางนี้ไม่สามารถออกเดินทางได้แล้ว คุณรู้หรือเปล่าว่าท่านประธานพึ่งจะฆ่าคนของตระกูลเทวเทพไป คุณกลับให้เขาเลือกทางเดินอื่นงั้นเหรอ?”

เปรมไตร:“……”

“นั่นเป็นเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลพวกเขา ตระกูลเทวเทพไม่มีอำนาจเข้ามายุ่งหรอกใช่ไหม”แสนรักที่อยู่ในรถถามออกไปเบาๆหนึ่งประโยค

แววตาของเปรมไตร ถึงได้มองผ่านดลธีไป หลังจากนั้นก็มองมาที่เขาที่อยู่ในรถ
“ใช่ ผมได้เตรียมการเอาไว้แล้ว คุณไปตอนนี้ ก็สามารถออกเดินทางได้เลย”

“ดี”

แสนรักตอบรับไปอย่างไม่ลังเล

เหลือเพียงดลธีที่อยู่ในรถ ได้ยินแล้วภายในใจก็กระวนกระวายคิดมากขึ้นมาจนอ่อนยวบลงไปบนพื้น

ใช่สิ เขาลืมไปได้อย่างไร? ตระกูลของเปรมไตรนั้นทำการวิจัยเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นความลับ นอกจากเจ้าของไวท์ พาเลซแล้ว ใครก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่ง

ว้าวว้าวว้าว!

ดลธีปลื้มปีติขึ้นมาแล้วก็ขับตามคุณชายเปรมไตรไป

แต่ว่า พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่า วุฒิพลที่กำลังบ้าคลั่งนั้น เพื่อที่จะฆ่าแสนรักให้ตายอยู่ที่นี่ แม้แต่ตระกูลของเปรมไตร เขาก็ไม่ได้สนใจแล้ว

“ปัง——”

เสียงดังออกมาอย่างมาก!

เปรมไตรที่กำลังขับรถอยู่ด้านหน้า ทันใดนั้นก็มองเห็นเพียงกระจกด้านหน้านั้นมีของหนักๆบางอย่างกระแทกลงมา หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็กระเด็นขึ้นมาไปชนเข้ากับพวงมาลัยด้านหน้า

รถคันนี้ ทั้งรถทั้งคน พลิกคว่ำกลิ้งออกจากทางด่วนเส้นนี้ออกไปด้วยกันแล้ว!