ตอนที่ 1356 คำสัญญาของพระเจ้า โดย Ink Stone_Fantasy
“เฮ้ โรแลนด์”
“โรแลนด์ เจ้ายืนงงอะไรของเจ้า!”
“คุณอา รีบมาช่วยคนเร็ว!”
เสียงของทั้งสองคนดังสลับกัน สติของโรแลนด์ถูกดึงกลับมาสู่ความเป็นจริง เขากะพริบตา เสาลำแสงกับเกล็ดหิมะหายไปแล้ว ภาพสะพานที่ตกอยู่ในความโกลาหลปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ซีโร่กับวัลคีรีย์กำลังจัดการกับอะไรอยู่ตรงเศษซากรถ เมื่อดูจากสีหน้าของพวกเธอแล้ว ความวุ่นวายครั้งนี้เหมือนจะยังไม่จบลง
ใช่แล้ว จู่ๆ เขาก็คิดขึ้นมาได้ ตอนที่โทรศัพท์ก่อนหน้านี้ คนที่ทำให้เขาสังเกตเห็นถึงความผิดปกติก็คือเฟยอวี่หาน แต่ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนล่ะ?
หรือที่ซีโร่บอกว่า ‘ช่วยคน’ จะหมายถึง….
สีหน้าโรแลนด์คร่ำเคร่งขึ้นมาทันที
ในที่สุดตอนนี้ความคิดเขาก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
เขาเอาภาพที่เห็นก่อนหน้านี้โยนทิ้งไป ก่อนจะก้าวอาดๆ เข้าไปหาทั้งสองคน จากนั้นเขาก็ต้องสูดปากด้วยความตกใจ!
เขาเห็นในหลุมที่ยุบตัวเพราะถูกของหนักๆ กระแทกลงไปมีร่างหญิงสาวที่ถูกเล่นงานจนเละเป็นก้อนเนื้อนอนอยู่ แขนขาของเธอยกเว้นแต่แขนซ้ายแทบจะถูกบดขยี้จนเละ กระดูกที่แตกหักผสมรวมเข้ากับก้อนเนื้อจนไม่เหลือรูปร่างเดิม ร่างกายของเธอเองก็เต็มไปด้วยบาดแผล เสื้อผ้าแทบจะถูกเลือดสดๆ ชโลมจนเปียกชุ่ม กระดูกสันหลังคดงอจนปูดขึ้นมาจนกระดูกบางส่วนทะลุผิวหนังออกมา
ต่อให้อยู่ในสงคราม ภาพเหตุการณ์นี้มันก็ยังน่าสยดสยองอย่างมากอยู่ดี
และเมื่อดูจากใบหน้าที่เละไปแถบหนึ่งแล้ว คนๆ นี้คือเฟยอวี่หาน
ตอนนี้เธอยังมีลมหายใจอยู่ แต่มันก็รวยรินอย่างมากแล้ว
“ทำไมถึง…”
โรแลนด์คุกเข่าลงไป ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ปฐมพยาบาลเหรอ? ต่อให้มีผ้าพันแผล เขาก็ไม่สามารถเอาอวัยวะภายในที่ทะลักออกมาข้างนอกยัดกลับเข้าไปได้ ห้ามเลือดนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ทั่วทั้งร่างกายของเธอไม่มีตรงไหนเลยที่จะไม่มีบาดแผล การทำงานของอวัยวะภายในแทบจะล้มเหลว ตอนนี้เป็นเพราะพลังแห่งธรรมชาติที่ทำให้เธอยังประคองสติเอาไว้ได้
แต่พลังตรงนี้มันก็เหลือน้อยจนเหมือนกับแสงเทียนที่พร้อมจะดับลงทุกเมื่อ
ความจริงแล้ว การที่สามารถประคองสติเอาไว้ได้ในสถานการณ์แบบนี้นั้นต้องใช้พลังใจอย่างมาก ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ มันก็มีน้อยคนนักที่จะทำได้แบบนี้
“อาจารย์ปกป้องหนู ก็เลยกลายเป็นแบบนี้…” ซีโร่ร้องไห้โฮออกมา
“นางใกล้ตายแล้ว” วัลคีรีย์เองก็ดูออกเหมือนกัน “ถึงแม้จะเป็นราชาปีศาจ แต่ถ้าได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ต่อให้เอาไปแช่ไว้ในบ่อละอองชีวิตก็ทำได้เพียงแค่ยืดเวลาออกไปเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นระดับการรักษาพยาบาลของโลกนี้ก็ไม่อาจเทียบบ่อละอองชีวิตได้ ต่อให้นางมีพลังเวทมนตร์อยู่อย่างเต็มเปี่ยมก็ยากที่จะรอดชีวิตได้ ในฐานะที่เป็นนักรบคนหนึ่ง นางได้อดทนมาจนถึงวินาทีสุดท้ายแล้ว”
“ในที่สุด….นายก็มาแล้ว” ราวกับว่าเธอได้ยินเสียงของเขา เฟยอวี่หานค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา “ฉันควรจะเรียกนายว่า…ท่านพระเจ้าใช่ไหม?”
ในน้ำเสียงของเธอแฝงเอาไว้ด้วยอารมณ์ขัน สีหน้าของเธอดูไม่เหมือนคนที่กำลังจะตายเลย
“เธอ…” โรแลนด์ตกตะลึง
“ขอโทษนะ…ที่แอบฟังพวกเธอคุยกัน” เธอหันไปกะพริบตาให้วัลคีรีย์ นี่คือความเคลื่อนไหวเดียวที่เธอทำได้ในตอนนี้ “แต่ถ้ามีโอกาสอีกครั้งล่ะก็ ฉันก็ยัง…จะทำแบบนี้อยู่ ซีโร่…เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เธอเหมือนต้องใช้พลังอย่างมากในการพูดคำพูดแค่ไม่กี่คำ มีแต่ต้องกลั้นหายใจถึงจะได้ยินเสียงที่แทบจะเหมือนเสียงกระซิบกระซาบของเธอ
“อาจารย์ หนู…ไม่เป็นไร..” ซีโร่สะอึกสะอื้น
“อย่างนั้นโลกนี้…ตอนนี้ยังปลอดภัยดีอยู่ใช่ไหม?” เฟยอวี่หานพูดเสียงเบาๆ “แบบนี้ ฉันก็ถือว่ามีส่วนช่วยปกป้องกันแล้ว”
“อย่างนั้นเธอก็รู้อยู่แล้วว่าโลกนี้มันเป็นแค่ความฝัน..” วัลคีรีย์ขมวดคิ้วขึ้นมา
“บางทีสำหรับพวกเธอแล้ว โลกมันอาจจะมีอยู่หลายใบ แต่สำหรับฉันแล้ว…มันกลับมีเพียงแค่หนึ่งเดียว และการปกป้องโลกใบนี้ก็คือหน้าที่ที่ผู้ผึกยุทธ์ไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้” เธอชะงักไปเล็กน้อย “ฉันว่านะ…ท่านพระเจ้า ในเมื่อนายสร้างมันขึ้นมาแล้ว นายก็ควรจะเชื่อใจทุกคนให้มากกว่านี้ ใช่หรือเปล่า?”
“เชื่อใจ…ทุกคน?”
“ฉันรู้ว่าฟังแล้วมันอาจจะ….น่าเหลือเชื่อ แต่ขอเพียงนายเอาหลักฐานออกมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสมาคม…จะต้องรับฟังอย่างแน่นอน เรื่องที่พวกเราทำได้มีไม่เยอะ แต่พวกเราก็ไม่ถึงกับไร้ประโยชน์…ต่อให้สู้เทวทูตไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยแบ่งเบาภาระให้นายได้ไม่น้อย แบบนี้…การช่วยโลกมันก็จะง่ายขึ้นหน่อยไม่ใช่เหรอ?”
รวมพลังของทุกคน…
ภายในหัวโรแลนด์มีแสงสว่างวาบขึ้นมา
ถูกต้อง เขาคือผู้สร้างโลกนี้
แต่ไม่ใช่พระเจ้าที่จะทำได้ทุกสิ่ง
มีเรื่องบางเรื่องที่เขาเองก็ทำไม่ได้
แต่คนอื่นทำได้
ถ้าเอาพลังทุกคนมารวมเข้าด้วยกัน ไม่แน่อาจจะทำให้ปาฏิหาริย์ที่เหมือนไม่มีทางเกิดขึ้นกลายเป็นจริงได้
“สุดท้ายที่ฉันอยากจะพูดคือ…ขอบคุณนายมากนะ” เสียงของเฟยอวี่หานเบาจนแทบจะไม่ได้ยินแล้ว “ขอบคุณที่นายสร้างมันขึ้นมา ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่ความฝันก็ตาม…”
“ไม่ โลกนี้ไม่ใช่ความฝัน” โรแลนด์พูดตัดบท “มันอยู่ในโลกแห่งจิตสำนึก แล้วก็จะคงอยู่ตลอดไปด้วย”
“ฉันรู้อยู่แล้ว….ว่านายจะพูดแบบนี้” เฟยอวี่หานหลับตาลงพร้อมยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“นอกจากนี้ ฉันคิดว่าต่อให้เอาหลักฐานออกมา แต่ถ้าให้ฉันเพียงคนเดียวไปประกาศว่าตัวเองเป็นคนสร้างโลกนี้ มันก็ยังไม่มีความน่าเชื่อถือมากพอ แต่ถ้ามีผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะอีกซักคนมาช่วยพูดล่ะก็ บางทีมันอาจจะได้ผลก็ได้”
ริมฝีปากเธอขยับขึ้นมา “นายกำลัง…ปลอบใจฉันอยู่อย่างนั้นเหรอ?”
“นี่ไม่ใช่การปลอบ แต่เป็นคำยืนยันจากผู้สร้าง” โรแลนด์ลุกขึ้นมา “ฟังนะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมานั่งยอมแพ้! ในเมื่อเธอพูดถึงความเชื่อใจขึ้นมา อย่างนั้นเธอก็ต้องเชื่อฉัน เรื่องนี้เรายังแก้ไขมันได้อยู่!”
“เพราะฉัน….คือพระเจ้า”
ความฝันถูกตัดขาด โรแลนด์กระเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว
ตอนนี้ยังคงเป็นเวลาบ่าย ด้านนอกยังมีหิมะตกโปรยปราย ไนติงเกลที่เฝ้าอยู่ในห้องทำงานหายตัวมาอยู่ตรงหน้าเขาทันที พร้อมกับถามด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลว่า “ทำไมถึงตื่นเร็วขนาดนี้ล่ะเพคะ? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าเพคะ?”
สองวันหลังเขาสลบไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าไปในโลกแห่งความฝัน ตามปกติแล้วเขาจะนอนตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงประมาณสี่โมง แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ายังไม่ถึงเวลานั้น
“วางใจได้ ข้าไม่เป็นไร” โรแลนด์พูดอย่างหนักแน่น “เจ้าไปแจ้งบุ๊คกับฮันนี่ ให้พวกนางรีบมาที่ปราสาท ข้ามีภารกิจสำคัญจะให้พวกนางทำ”
ไนติงเกลตรวจดูอุณหภูมิและชีพจรเขาอย่างละเอียด หลังแน่ใจว่าไม่มีปัญหาแล้วเธอจึงพยักหน้า “หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ”
หลังอีกฝ่ายเข้าไปในหมอกมา โรแลนด์ก็กลับมาที่โต๊ะทำงาน พร้อมกับหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาเตรียมวางแผน
ถ้าอยากจะช่วยชีวิตเฟยอวี่หาน เขาก็จำเป็นต้องทำให้การช่วยเหลือของทั้งสองโลกเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
ทันทีที่ออกมาจากโลกแห่งความฝัน เวลาของที่นั่นก็จะหยุดลง ซึ่งนี่จะช่วยยื้อชีวิตให้เฟยอวี่หานได้ ต่อให้เหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้าย แต่ถ้าเขาไม่เข้าไปในโลกแห่งความฝัน ลมหายใจนี้ก็จะไม่หมดลง
หัวใจสำคัญที่จะช่วยยื้อชีวิตเธอกลับมาได้คือความสามารถใหม่ของนาน่า ถ้าหากใช้วัตถุเวทมนตร์ที่มีพลังในการรักษามากพอ มันก็จะช่วยหยุดยั้งการพังทลายของอวัยวะภายในร่างกายได้
จากนั้นก็เป็นดินแดนของบุ๊ค เขาไม่สามารถนำเอาสิ่งของเข้าไปในโลกแห่งความฝันได้ แต่ห้องเอกสารเล็กๆ นั้นกลับทำได้ เมื่อคิดถึงว่าโลกแห่งความฝันสามารถรับเอาพลังของแม่มดเข้าไป แถมยังแสดงผลของมันออกมาในรูปแบบเดิมด้วย อย่างนั้นวัตถุเวทมนตร์ก็น่าจะไปถึงโลกแห่งจิตสำนึกได้เหมือนกัน
แต่แน่นอน มีแค่สองคนนี้ยังไม่พอ
อันดับแรกคือเขาจำเป็นต้องเอาวัตถุที่จะใช้ช่วยชีวิตเหล่านี้ส่งจากห้องเอกสารไปถึงสะพานทางด่วนให้เร็วที่สุด
อันดับต่อมา ไหมเย็บกับผ้าก๊อชที่ผ่านการใส่พลังเวทมนตร์เข้าไปนั้นทำได้แค่ช่วยยื้อเฟยอวี่หานกลับมาจากความตายเท่านั้น แต่ถ้าอยากจะรักษาอาการบาดเจ็บอย่างพวกกระดูกที่หักนั้น เขาจำเป็นต้องใช้เครื่องจักรและเครื่องมือที่มีความเฉพาะทางมากกว่านี้ ซึ่งนี่จำเป็นต้องมีความช่วยเหลือของแพทย์มืออาชีพ
มีแต่ต้องรวมพลังของทุกคนเข้าด้วยกัน ถึงจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์นี้ได้
………………………………………………………………..