ตอนที่ 500 งูอนาคอนดายักษ์ถูกเผา

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 500 งูอนาคอนดายักษ์ถูกเผา โดย Ink Stone_Fantasy

ในตอนเริ่มต้น ตระกูลคิตะมิยะทุกคนบุกรุกไปข้าวหน้าอย่างรวดเร็ว  ปืนเปลวไฟสิบสองกระบอกพ่นปะทุออกมา ทำให้เกิดทะเลเพลิงภายในถ้ำ ความมืดครึ้มและหนาวเย็นของพลังชั่วร้ายที่ผนึกตัวมากว่าครึ่งศตวรรษ ถูกขับไล่ออกไปทั้งหมดอย่างกะทันหัน

แต่หลังจากที่เดินลึกเข้าไปอีกสามสิบสี่สิบเมตร คิตะมิยะ ฮิเดโอะและคนอื่นก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ พลังชั่วร้ายที่คละคลุ้งอยู่ภายในถ้ำเหมือนกับสสารที่เป็นหมอกควันสีดำติดต่อกันอย่างไม่ขาดสายเหมือนของจริง เกลื่อนกลาดอยู่ทุกซอกทุกมุมภายในถ้ำ

บนกำแพงของถ้ำ เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำ น้ำท่วมขังที่อยู่บนพื้นที่เป็นหลุมไม่ราบเรียบ ราวกับสีดำของหมึกก็ไม่ปาน หลังจากมีบางคนเดินเหยียบอย่างไม่ระวัง ทำให้เท้าทั้งสองเหมือนตกอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง สั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็นไปทั้งตัว

ถุงแม้ปืนไฟจะยังคงมีประโยชน์มาก กระทั่งสามารถทำให้แอ่งน้ำบนพื้นดินระเหยน้ำกลายเป็นไอได้ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวก็คือ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่หยุดพ่นปืนไฟ พลังชั่วร้ายที่อยู่ไปทุกที่นั้น กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งจัดการไปเมื่อครู่

“เพิ่มความเร็วอีก เร็วเข้า เร็วเข้า!”

เมื่อสัมผัสถึงพลังหยินพิฆาตที่มาไม่ขาดสายทำให้ขนลุกซู่ คิตะมิยะ ใบหน้าของฮิเดโอะจึงเต็มไปด้วยร้อนใจ เขาไม่สามารถโทษผู้อาวุโสคิตะมิยะ ฟูจิโอะได้ เพราะถ้าไมใช่ความคิดของเขา บางทีพวกเขาก็อาจจะมาไม่ถึงที่นี่

เพียงแต่หลังจากที่พ่นปืนไฟออกไปทุกครั้ง อากาศที่อยู่ตามพื้นที่ว่างเปล่าก็จะถูกเผาไหม้จนหมดสิ้น และกองกำลังทหารจำเป็นต้องรอสักพักหนึ่งถึงจะเข้าไปได้ ต่อให้อยากจะทำการอย่างรวดเร็วก็ไม่สามารถทำได้

หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง คิตะมิยะ ฮิเดโอะจึงเปลี่ยนให้หน่วยสังหารไร้เงาสองสามคนสลับเข้าไป เพราะพวกเขาสามารถกลั้นลมหายใจผ่านพื้นที่การเผาไหม้ได้ในระยะเวลาสั้น ทำให้ความเร็วของกองกำลังทหารก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย

จากคำพูดของตะขิ่น บา เตง ติน ที่บอกถึงที่ซ่อนทองคำที่อยู่ในถ้ำนั้น มีระยะทางห่างจากทางเข้าของถ้ำไม่ไกลมาก ก็คือระยะทางประมาณหนึ่งร้อยกว่าเมตร แต่ในระยะทางร้อยกว่าเมตรนี้ ก็มากพอที่จะทำให้ตระกูลคิตะมิยะใช้เวลาเดินนานเกือบหนึ่งชั่วโมง

“คือ…คือตรงนั้น ตรงนั้นคือที่ซ่อนขุมทรัพย์ของตระกูล!”

หลังจากที่เลี้ยวตรงทางแยก พื้นที่เปิดโล่งที่มีขนาดกว้างโล่งได้ปรากฏต่อหน้าทุกคน ถ้ำนี้มีความสูงประมาณสามสิบกว่าเมตร ด้านบนเป็นหินผาที่แตกละเอียด มีรอยแตกร้าวเป็นวงกลมใหญ่เจ็ดแปดเมตร

แสงจันทร์ที่สุกสกาวสีขาวที่เพิ่งลอยขึ้นมาส่องทะลุผ่านช่องรูถ้ำ เหมือนกับเปิดหน้าต่างก็ไม่ปาน แม้จะไม่มีแสงสว่างจากไฟสปอร์ตไลท์ ก็สามารถมองเห็นลักษณะภายในถ้ำได้อย่างเลือนราง

แต่แทนที่จะพูดว่านี่คือถ้ำ ควรจะพูดว่ามันเหมือนพระราชวังใต้ดินมากกว่า ครอบคลุมสัดส่วนของพื้นที่กว้างมาก และยังมีหินเสาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเจ็ดแปดเสาที่ตั้งอยู่ภายในถ้ำ หินงอกหินย้อยห้อยลงมาจากด้านบนของถ้ำอีกด้วย

บางทีอาจเป็นเพราะรอยแตกที่ด้านบนของถ้ำ จึงมีน้ำขังเต็มพื้นอยู่ด้านหน้าของคิตะมิยะ ฮิเดโอะ ก่อตัวเป็นสระน้ำรูปวงกลม เพียงแต่สระน้ำที่ใสจนเห็นก้นสระตามที่ตะขิ่น บา เตง ตินพูดนั้น เวลานี้กลับเป็นสีดำเหมือนหมึก และยื่นขยายออกไปด้านหลังถ้ำ โดยไม่มีใครรู้ว่าสระน้ำแห่งนี้มันไหลไปที่ไหน

และตรงกลางที่ถูกโอบพิทักษ์ด้วยสระน้ำที่แปลกประหลาดนี้ มีแท่นที่สูงจากพื้นหนึ่งเมตรกว่า บนแท่นนั้นก็มีทองคำแท่งขนาดเท่าฝ่ามือเด็กทารกกองรวมกัน และเนื่องจากวันเวลาผ่านไปหลายปี หีบไม้ที่ใส่ทองคำก็เน่าผุมานานแล้ว ทำให้ทองคำที่อยู่ข้างในกองเต็มอยู่บนแท่น

แสงไฟสปอร์ตไลท์ทยอยส่องไปทนแท่นนั้น ทองคำที่ถูกฝุ่นจับเต็มไปนานนับสิบปี ได้สะท้อนแสงสีทองเจิดจ้าออกมา ทำให้ทุกคนต้องหรี่ตาด้วยความแสบตา พร้อมกับใบหน้าของทุกคนที่เปี่ยมไปด้วยตื่นเต้นระคนความดีใจ

ตอนที่เดินทางเข้ามาในพม่า ทุกคนยังไม่รู้เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ แต่ทว่าตอนนี้ได้เห็นทองคำที่กองเหมือนภูเขาก้อนเล็ก อยู่ตรงหน้า มีหรือที่พวกเขายังยังไม่เข้าใจอีก?

พวกลูกหลายในตระกูลที่ยังหนุ่ม ไม่สามารถระงับความตื่นเต้นภายในใจไว้ได้ และลงไปในสระน้ำอย่างอดใจรอไม่ไหว ตอนที่เพิ่งสังเกตว่าสระน้ำนี้มีความลึกประมาณช่วงเอว คนพวกนั้นต่างส่งเสียงร้องและมุ่งหน้าไปยังแท่นที่มีทองคำกองทับกันอยู่

“กลับมา ไอ้พวกโง่ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”

การปรากฏตัวของทองคำ ทำให้กองทัพที่รักษาความสงบมาตลอดกลับวุ่นวายทันที จึงทำให้คิตะมิยะ ฮิเดโอะคาดไม่ถึง ถึงแม้เขาจะตวาดเสียงดังขึ้นมา แต่ก็ยังมีลูกหลานของตระกูลอีกสิบกว่าคน ที่อยู่ตรงกลางของสระน้ำแล้ว

ขณะที่หลายกำลังรู้สึกไม่เข้าใจกับหัวหน้าที่กำลังโกรธพวกเขาอยู่นั้น เดิมทีสระน้ำที่เงียบสงบ ทันใดนั้นก็เป็นคลื่นน้ำม้วนขึ้นมาสายน้ำกระเซ็นซ่านสีดำราวกับน้ำหมึก มีร่างขนาดใหญ่แต่ละตัวโผล่พรวดออกมาจากสระน้ำ แล้วเสียงกรีดร้องอย่างน่าอนาถก็ดังขึ้นมา

“นี่…นี่คือสัตว์ประหลาดอะไรกัน?”

ภายใต้การสาดส่องของไฟสปอร์ตไลท์จำนวนมาก พื้นที่ขนาดใหญ่นี้จึงสว่างไสวเหมือนตอนกลางวัน ทุกคนยืนอยู่ข้างสระน้ำ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ลำตัวที่ยาวเหมือนเกล็ดปลาทั่วทั้งตัวงูอนาคอนดายักษ์ตัวดำเมี่ยมโผล่พรวดออกมาจากสระน้ำ บ้างก็กัดบ้างก็รัด แล้วจึงลากคนสิบกว่าคนที่อยู่ในสระลงไปใต้น้ำ

ไม่มีใครรู้เลยว่าในสระน้ำแห่งนี้มีงูอนาคอนดายักษ์ซ่อนอยู่กี่ตัวกันแน่ แต่ในสระน้ำเวลานี้เกิดบรรยากาศคึกคักผิดปกติเกินไปเหมือนกับน้ำต้มเดือดปุดๆ กำลังม้วนตัวออกมาภายนอกอย่างต่อเนื่อง แขนขาทั้งสี่ที่ถูกฉีกขาดก็ถูกโยนออกมาบนผิวน้ำ จากนั้นก็เผยปากขนาดใหญ่ที่กำลังจะกลืนกินเข้าไป

ฉากที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกหลานธรรมดาของตระกูลที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรต้องหวาดกลัวและสงสัยแล้ว แม้แต่คิตะมิยะ ฮิเดโอะและคนอื่นที่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่ามีงูอนาคอนดายักษ์อยู่ในสระน้ำนี้ ก็ต้องตกตะลึงจนตาค้าง และมีเพียงแต่การสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น พวกเขาถึงจะรับรู้ถึงความรู้สึกตกใจกลัวของตะขิ่น บา เตง ตินในตอนนั้นได้

เหตุการณ์ที่ไม่คาคคิดเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากระยะเวลาเพียงหนึ่งหรือสองนาที น้ำในสระที่กระเพื่อมก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบเหมือนเดิม

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด งูอนาคอนดายักษ์เหล่านั้นถึงไม่ขึ้นมาบนฝั่ง แต่มันก็ได้ทำให้ความกล้าหาญของทุกคนนั้นแตกตื่นหายไป โดยไม่ต้องรอให้คิตะมิยะ ฮิเดโอะออกคำสั่งอีก พร้อมถอยหลังไปพร้อมๆ กัน หลังจากถอยออกไปสิบกว่าเมตร แล้วจึงค่อยๆ เอาปืนเล็งไปที่สระน้ำ พร้อมกับร่างกายที่ยืนนิ่งด้วยความอกสั่นขวัญหาย

“ฆ่าพวกมันให้ตาย ฆ่าพวกมันให้ตาย!!!”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาวุธที่อยู่ในมือหรือเปล่าที่เสริมความกล้าขึ้นมา หรือเมื่อครู่ได้รับแรงกระตุ้นมากเกินไป จึงทำให้บางคนระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่เหนียวไกปืนไปที่สระน้ำดำมืดนั้น ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นมาภายในถ้ำ ควันปืนคละคลุ้งไปทั่ว พร้อมกับเสียงสะท้อนที่สะท้อนทำให้แก้วหูของทุกคนดัง “หึ่งๆ”

“ไอ้โง่ พวกสารเลว!”

เมื่อได้เห็นพวกคนเหล่านี้ที่เรียกว่ากองกำลังทหารของตระกูล เหมือนกับแมลงวันไร้หัววิ่งหนีเพ่นพ่านไปมา คิตะมิยะ ฮิเดโอะโกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ ยืนมือออกไปจับคนที่กำลังใช้ปืนเหนี่ยวไกไปที่สระน้ำ ตบหน้าซ้ายขวาของเขาครั้งแล้วครั้งติดต่อกันสิบกว่าครั้ง

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมงูอนาคอนดายักษ์ถึงไม่ขึ้นมาบนฝั่งเพื่อโจมตีทุกคน แต่คิตะมิยะ ฮิเดโอะก็เข้าใจแล้ว ถ้าหากงูอนาคอนดายักษ์เหล่านี้พุ่งขึ้นมาอยู่บน พวกเขาร้อยกว่าคนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และคนโง่ที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้ ก็แค่ยั่วสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวให้เกิดโทสะเท่านั้นเอง

แต่สิ่งที่ทำให้คิตะมิยะ ฮิเดโอะปิติยินดีก็คือ กระสุนเหล่านั้นที่ยิงเข้าไปในสระน้ำ เหมือนกับหินที่จมเข้าไปในทะเลลึกก็ไม่ปาน ไม่มีคลื่นลูกใหญ่กระเพื่อมออกมาอีก และก็ไม่ได้ยั่วให้งูอนาคอนดายักษ์โกรธ นอกจากกลิ่นดินปืนแล้ว ภายในถ้ำก็กลับคืนสู่ความเงียบสงัดเหมือนเดิม

ดูเหมือนว่าถ้าการเข้าใกล้แท่นนั้นจะเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ คิตะมิยะ ฮิโคโตชิจึงขมวดคิ้วพลางพูด “หัวหน้าครับ สร้างสะพานลอยน้ำได้ไหมครับ?” ก่อนหน้านี้เขาก็เคยพิจารณาถึงความซับซ้อนของลักษณะพื้นภูมิในพม่า และลูกหลานของตระกูลที่มาจากญี่ปุ่นพวกนี้ ก็มีบางคนเป็นสถาปนิก และสระน้ำแห่งนี้ที่มีความกว้างไม่เกินสิบกว่าเมตร ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็น่าจะสร้างสะพานลอยน้ำแบบง่ายได้สำเร็จ

“ไม่ได้ ขอเพียงเข้าไปบริเวณรอบสระน้ำ ก็จะถูกพวกงูอนาคอนดายักษ์เหล่านั้นโจมตี”

คิตะมิยะ ฮิเดโอะยังไม่ทันตอบ ผู้อาวุโสฟูจิโอะก็ส่ายหน้า “ตอนที่ฉันยังเป็นวัยรุ่นก็เคยเห็นงูอนาคอนดา แต่รูปร่างที่ใหญ่มหึมาขนาดนี้ บางทีอาจจะมีอยู่ลุ่มน้ำอเมซอน ฉันสงสัยว่างูอนาคอนดายักษ์ที่เป็นพวกกลายพันธุ์ ถ้าหากไม่จัดการพวกมันให้สิ้นซาก ทางที่ดีที่สุดอย่าไปยุแหย่มัน”

ผู้อาวุโสฟูจิโอะพูดถึงงูอนาคอนดายักษ์ในป่าลุ่มน้ำอเมซอน เป็นชนิดของงูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีความแข็งแรงที่สุดในโลกนี้ เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวถึงสามสิบฟุต น้ำหนักเกือบหนึ่งร้อยห้าสิบกิโลกรัม ต่การปรากฏตัวของงูอนาคอนดาเหล่านั้นเมื่อครู่รูปร่างและขนาดของมันมีความใหญ่และยาวมากกว่างูอนาคอนดาในป่าอเมซอนถึงสามเท่า

งูอนาคอนดาชอบอาศัยอยู่ในน้ำ มักจะเกาะหรืออาศัยอยู่บนโคลนหรือน้ำตื้น จับเหยื่อพวกนกน้ำ เต่า แคพิบารา สมเสร็จ กวางเป็นต้น บางครั้งมันก็จะกลืนกินจระเข้ที่มีความยาวถึงสองเมตรครึ่งเป็นอาหาร แสดงว่าเป็นห่วงโซ่ของสิ่งมีชิวิตในป่าที่สูงที่สุด ไม่มีสัตว์ตัวไหนที่สามารถคุกคามชีวิตของพวกมันได้

อีกทั้งงูประเภทนี้จะมีอายุที่ยืนยาว มีเพียงตัดหัวของงูทิ้ง พวกมันถึงจะตายจริงๆ ดังนั้นที่ผู้อาวุโสฟูจิโอะพูดออกมาแบบนี้นั้น ในมุมมองของเขา การใช้อาวุธเหล่านี้มารับมือกับงูอนาคอนดายักษ์ จึงเป็นการกระทำที่โง่เขลาที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

“อย่างนั้นต้องทำยังไงครับ? ถึงจะสามารถฆ่าพวกมันให้ตายได้?”

เมื่อมองดูทองคำเหล่านั้นภายใต้แสงไฟ คิตะมิยะ ฮิเดโอะจึงไม่อาจรอได้อีกต่อไป เพื่อสมบัติที่สามารถกอบกู้ชีวิตศักดิ์ศรีของตระกูล เขาได้รับคำซักถามและคำตำหนิมากมายตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ขอเพียงแค่สามารถเอาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้กลับไปได้สำเร็จ เขาก็จะกลายเป็นหัวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูล

“ใช้ไฟเผา ใช้ไฟเผาพวกมันให้ตายไปให้หมด!”

หลังจากที่ได้ยินคำถามของคิตะมิยะ ฮิเดโอะ ผู้อาวุโสฟูจิโอะจึงเผนสีหน้าที่ดุร้ายออกมา “งูประเภทนี้ชอบสถานที่มืดและเย็น พลังชั่วร้ายที่หนาแน่นของที่นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่พวกมันไม่ยอมออกไปจากที่นี่ อย่างไรก็ตามถ้าพวกเราจุดไฟเผาสระน้ำแห่งนี้ ถ้าพวกมันไม่อยากตาย พวกมันก็จะต้องหนีออกไป!”

คิตะมิยะ ฟูจิโอะเป็นมือฉมังที่เคยเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง และก็ไม่รู้ว่ามือของเขาเปื้อนเลือดของคนมาเท่าไรแล้ว ชีวิตของคนไม่มีความหมายในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกับงูอนาคอนดายักษ์ที่เป็นสัตว์เลือดเย็นเหล่านี้เลย เพียงแค่กรอกลูกตา ก็นึกแผนการชั่วร้ายออกมาทันที

“ครับ งั้นก็ทำตามวิธีที่ผู้อาวุโสฟูจิโอะบอกนะครับ!”

เมื่อคิตะมิยะ ฮิเดโอะได้ยินก็ดีใจมีความสุข รีบออกคำสั่งให้ลูกน้องหน่วยหนึ่ง ออกไปนอกถ้ำย้ายถังน้ำมันสำรองที่เตรียมไว้บนรถแหล่านั้นเข้ามาข้างใน หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป ถังน้ำมันกว่ายี่สิบถังเป็นน้ำมันรถเกือบหนึ่งตัน ก็วางเรียงเป็นระเบียบอยู่ข้างสระน้ำ

คิตะมิยะ ฮิเดโอะออกคำสั่ง ให้สมาชิกในตระกูลสิบกว่าคนที่มีความกล้าหาญ เปิดฝาถังน้ำมันออกแล้วเทลงไปในสระน้ำ กลิ่น้ำมันรถที่ฉุนหนักกระจายไปทั่วภายในถ้ำทันที

หลังจากให้ทุกคนถอยหลังไปสิบกว่าเมตร หน่วยทหารกล้าตายกลุ่มหนึ่งถือปืนพ่นไฟ ยืนห่างจากสระน้ำประมาณสิบกว่าเมตร ลำแสงห้าหกอันที่เหมือนกับมังกรพ่นไฟ ได้มุ่งตรงเข้าไปในสระน้ำ

……..