บทที่ 1797 ทรัพยากรอมตะระดับเก้า
“ครื…นครืน…”
เสียงคลื่นทะเลดังเข้าหูฟางหยวน
แสงแดดของทะเลตะวันออกส่องสะท้อนใบหน้าของเขาขณะที่ลมทะเลพัดผ่านมาอย่างอ่อนโยนทําให้เขารู้สึกสดชื่น
อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับรู้สึกหดหู่เล็กน้อย “ดังคาด มันยังไม่ถึงเวลา…”
เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกเดินทางมายังทะเลตะวันออก เป้าหมายของเขาคือการตามหาวาฬมังกรฟ้า
สําหรับฟางหยวน การได้รับวิญญาณความเสียใจจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม
เพราะเขาต้องการยกระดับวิญญาณอมตะระดับหกจํานวนมากเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวม ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณความเสียใจ เขาจะสามารถลดความสูญเสียและลดความเสี่ยงของความล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณให้อยู่ในจุดต่ําสุด
ในความเป็นจริงตั้งแต่กําเนิดใหม่เขาเคยมาที่นี่หลายครั้ง
ทะเลบริเวณนี้เป็นสถานที่ที่เขาติดตามกลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉินมาและพบกับวาฬมังกรฟ้าในชีวิตก่อนหน้า
น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ประสบความสําเร็จในการตามหาวาฬมังกรฟ้า
“ข้าควรโจมตีเมี่ยวหมิงเฉินและยึดวิธีการของเขาหรือไม่?”
“ด้วยวิธีนี้ข้าจะสามารถค้นหาตําแหน่งที่แน่นอนของวาฬมังกรฟ้าด้วยตัวข้าเอง”
ความคิดนี้พุ่งผ่านจิตใจของฟางหยวน
ฟางหยวนสามารถใช้ตัวตนของชูอิงเพื่อวางแผนต่อต้านเมี่ยวหมิงเฉิน แต่สิ่งที่ไม่แน่นอน ก็คือฟางหยวนไม่รู้ว่าวิธีการของเมี่ยวหมิงเฉินเป็นอย่างไร
มันไม่ใช่ปัญหาหากนั่นเป็นท่าไม้ตายอมตะทั่วไป แต่หากมันเป็นวิธีการที่แปลกประหลาด มันอาจส่งผลกระทบในทางตรงข้าม
ตามการประเมินของฟางหยวน อย่างหลังมีความเป็นไปได้ไม่น้อย เนื่องจากห้าร้อยปีในชีวิตแรกของฟางหยวน เขาไม่เคยได้ยินว่าผู้อื่นมีวิธีการเช่นเดียวกับเมี่ยวหมิงเฉิน
ทะเลตะวันออกมีผู้อมตะระดับแปด ขณะที่เมี่ยวหมิงเฉิงเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด วิธีการของเขาเกี่ยวข้องกับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ไม่มีทางที่ผู้อมตะระดับแปดเหล่านั้นจะไม่เคลื่อนไหว
แต่ผู้อมตะเหล่านั้นกลับไม่เคลื่อนไหว นั่นแสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย
‘จากประสบการณ์ในชีวิตก่อนหน้า ข้าต้องรออย่างอดทนและติดตามเมี่ยวหมิงเฉิงเข้าสู่ถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าเท่านั้น’
‘แต่สิ่งนี้ไม่แน่นอน มันอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงจากผลกระทบหยดหมึก ในชีวิตก่อนหน้าเมี่ยวหมิงเฉินเลือกชูอิง แต่ชีวิตนี้เขาจะเลือกชูอิงอีกครั้งหรือไม่?’
ตอนนี้ฟางหยวนทําได้เพียงใช้ท่าไม้ตายอมตะไข่มุกหยกเดินทางกลับภาคใต้เท่านั้น
ปัจจุบันภาคใต้ถือเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด แม้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะต่อต้านเขา แต่เขามีเชลยจํานวนมากที่สามารถใช้ต่อรอง สิ่งสําคัญที่สุดคือเขาเข้าใจสถานการณ์ของภาคใต้เป็นอย่างดี
ฟางหยวนไม่รีบร้อนที่จะจัดการเมี่ยวหมิงเฉิน แผนการของเขาดําเนินไปอย่างราบรื่น กระทั่งเขาจะต้องการโจมตีเมี่ยวหมิงเฉิง มันก็ยังเร็วเกินไปที่จะทําเช่นนั้น
ทุกอย่างต้องดําเนินการในเวลาที่เหมาะสม
บางครั้งต้องเร่ง บางครั้งต้องชะลอ
การกระทําการอย่างรวดเร็วและรีบร้อนไม่เป็นผลดี แต่หากช้าเกินไป พวกเขาอาจเสียโอกาส
ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้
งานหลักของเขาในช่วงเวลานี้ยังเป็นร่างแยก
เขาต้องการสร้างร่างแยกมนุษย์มังกร!
ฟางหยวนได้รับวิธีเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกรมาจากไป่หนิงปิงและเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับมัน
วิธีนี้เหมือนการหลอมรวมวิญญาณ มันใช้ร่างกายของตนเองเป็นวัสดุในการหลอมรวมเพื่อเปลี่ยนร่างมนุษย์เป็นมนุษย์มังกรโดยพึ่งพาเพลิงมังกรล่องคลื่น
มันมีโอกาสประสบความสําเร็จน้อยมาก
เมื่อฟางหยวนอ่านวิธีนี้เป็นครั้งแรก เขาต้องอุทานด้วยความชื่นชมต่อแนวคิดที่น่าเหลือเชื่อของมัน
จากนั้นเขาก็ค้นพบข้อบกพร่องของวิธีนี้
วิธีนี้ถูกสร้างขึ้นโดยราชันมังกรที่เชี่ยวชาญเส้นทางแห่งพลังปราณและการเปลี่ยนแปลง เขาไม่มีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อเลียนแบบวิธีบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม
แต่ฟางหยวนเป็นกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เขาสามารถดัดแปลงวิธีนี้ได้อย่างง่ายดาย หลังจากดัดแปลง มันมีโอกาสประสบความสําเร็จเกือบถึงสิบในร้อยส่วน
นี่คือขีดจํากัดของฟางยวนแต่มันก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
การเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นมนุษย์มังกรถือเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางมนุษย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
ฟางหยวนไม่สามารถแข่งขันกับราชันมังกรในด้านของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเส้นทางมนุษย์
มีเพียงความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเท่านั้นที่ช่วยให้ฟางหยวนเข้าใจท่าไม้ตายนี้
“อุปสรรคที่แท้จริงของมันคือเพลิงมังกรล่องคลื่น!”
เพลิงมังกรล่องคลื่นเป็นทรัพยากรอมตะระดับเก้าที่หายาก
ถ้ําสวรรค์ไป่เซี่ยงมีเพลิงมังกรล่องคลื่นเพียงหนึ่งเดียวซึ่งถูกใช้ไปแล้วโดยไป่หนิงปิง สวรรค์สีเหลืองไม่มีสิ่งนี้วางขาย
ประกาศความต้องการซื้อในสวรรค์สีเหลือง?
ไม่ ฟางหยวนมีตัวเลือกที่ดีกว่า!
ฐานทัพใหญ่ของตระกูลเซีย
จดหมายเรียกค่าไถ่ของฟางหยวนถูกส่งมายังตระกูลเซี่ยเป็นกองกําลังแรก
“วายร้ายฟางหยวนเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย เขาควรถูกสาปแช่งให้ตาย! เราต้องฆ่าเขา!” เซี่ยเฟยกุ้ยตะโกนด้วยความโกรธ
การแสดงออกของผู้อมตะตระกูลเซี่ยคนอื่นๆดูไม่น่ามอง
นอกจากความโกรธและความเกลียดชัง ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้เหล่านี้รู้สึกราวกับพวกเขากําลังอยู่ในความฝัน
ตระกูลเซี่ยที่เป็นกองกําลังใหญ่ถูกเรียกค่าไถโดยปีศาจอมตะผู้หนึ่ง!
และบุคคลที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ยังเป็นรากฐานและผู้มีอํานาจสูงสุดของตระกูลเซี่ย ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง เซี่ยชา!
หากบางคนบอกเรื่องนี้กับผู้อมตะตระกูลเชี่ยก่อนที่การซุ่มโจมตีจะเกิดขึ้น ผู้อมตะตระกูลเซี่ยจะตบศีรษะคนผู้นั้นให้ตื่นจากความฝัน
แต่ตอนนี้ผู้อมตะตระกูลเซียกลับต้องการตบศีรษะของตนเอง
ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลเซี่ย เซี่ยเจารู้สึกกดดันมาก เขาถอนหายใจกล่าว “พวกเจ้าเห็นจดหมายของฟางหยวนแล้ว เขาต้องการเพลิงมังกรล่องคลื่น พวกเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร?”
ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเซี่ยมองหน้ากันอย่างเงียบๆ
เซี่ยเจามองไปที่เซี่ยเฟยคุ้ย “เมื่อครู่เจ้ายังตะโกนเสียงดัง ตอนนี้ลองพูดความคิดของเจ้าออกมา”
เซี่ยเฟยกุ้ยโกรธฟางหยวนมากแต่เขายังนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าว “กระทั่งผู้อมตะของวังสวรรค์ก็ไม่สามารถกําจัดฟางหยวน เขาอาจเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาเป็นปีศาจที่แท้จริง หากเขาต้องการชีวิตของท่านหญิงเซี่ยชา เขาสามารถทําได้โดยปราศจากความลังเล บางทีเราอาจสร้างความร่วมมือกับกองกําลังอื่น ฟางหยวนรีดไถพวกเรา แต่เขาย่อมรีดไถกองกําลังอื่นเช่นกัน”
เซี่ยหลิวเพ่ยตอบโต้ทันที “เราจะพึ่งพาคนนอกได้อย่างไร? พวกเขาอยากเห็นพวกเราสูญเสียผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ตั้งแต่เจ้าตระหนักว่าปีศาจฟางหยวนไม่ได้กรรโชกทรัพย์เพียงพวกเรา แล้วเจ้าได้ยินกองกําลังอื่นร้องขอความร่วมมือจากพวกเราหรือไม่? เหตุใดพวกเขาไม่ติดต่อพวกเรา?”
“เจ้า!” เซี่ยเฟยกุ้ยโกรธมากแต่เขาไม่สามารถโต้แย้ง หลังจากชั่วครู่เขาจึงเปิดปากกล่าวอีกครั้ง “แม้เราจะต้องการประนีประนอมแต่เราไม่มีเพลิงมังกรล่องคลื่น”
“เราไม่มีไม่ได้หมายความว่าผู้อื่นไม่มี”
“ปีศาจฟางหยวนอาจตั้งราคาสูงไว้ก่อนและรอให้เราเจรจา?”
ผู้อมตะตระกูลเซี่ยแสดงออกความคิดเห็น
เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า พวกเขาไม่มีทางเลือก
คําตอบของฟางหยวนตรงไปตรงมา “ข้าต้องการเพลิงมังกรล่องคลื่นเท่านั้น ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะหามันมาอย่างไร แต่เราจะสามารถพูดคุยเมื่อพวกเจ้าน้ํามันมาให้ข้า มิฉะนั้นชีวิตของเซี่ยชา…ฮ่าฮ่า”
ฟางหยวนสงบกว่าชีวิตก่อนหน้า
ครั้งก่อนเขาต้องตรวจสอบหลายครั้งก่อนจะรีดไถกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ แต่ครั้งนี้เขาคุ้นเคยกับข้อจํากัดของทุกกองกําลังเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงรีดไถตระกูลเซี่ยอย่างหนัก
แม้ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเซี่ยและตระกูลปาจะถูกจับตัวในฐานะเชลยเช่นเดียวกัน แต่สถานการณ์ของตระกูลเซี่ยเลวร้ายที่สุด เหตุผลเป็นเพราะตระกูลปายังมีผู้อมตะระดับแปดอีกหนึ่งคน นั่นคือ ปาเต๋อ!
ดังนั้นเป้าหมายแรกในการรีดไถของฟางหยวนจึงยังเป็นตระกูลเซี่ยเช่นเดิม
ตระกูลเซี่ยไม่มีเพลิงมังกรล่องคลื่นซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของฟางหยวนเพราะเขาค้นวิญญาณของเซี่ยชามาแล้ว
ผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นๆอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง เซี่ยชาต้องรู้อย่างแน่นอน
ในความเป็นจริงฟางหยวนไม่รู้ว่ากองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะมีเพลิงมังกรล่องคลื่นหรือไม่
มีความเป็นไปได้ที่บางกองกําลังจะเก็บไว้ แต่ทรัพยากรอมตะระดับเก้าที่ซ่อนอยู่ใน คลังสมบัติของตระกูลมีเพียงผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งเท่านั้นที่ล่วงรู้
แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ที่กองกําลังฝายธรรมะของภาคใต้จะไม่มีเพลิงมังกรล่องคลื่นเช่นกัน
แต่ฟางหยวนไม่สนใจเรื่องนี้ เขาผลักเรื่องปวดหัวนี้ให้กับกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้
ในแผนการของฟางหยวน ร่างแยกมนุษย์มังกรเป็นหนึ่งในแผนการส่วนสําคัญ
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวังมังกร
ฟางหยวนไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับวังมังกรแต่เขาสามารถอนุมานได้ว่ามนุษย์มังกร เป็นกุญแจสําคัญในการรับสืบทอดวังมังกร
ในชีวิตก่อนหน้า ไป่หนิงปิงสามารถเป็นเจ้าของวังมังกร นี่คือหลักฐานสําคัญ
ฟางหยวนรีดไถฝ่ายธรรมะของภาคใต้ ขณะเดียวกันเขายังฝึกฝนและดูดซับผลประโยชน์ของเขาต่อไป
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ประสบความสําเร็จในการดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะตัดเวลา มันกระทั่งทรงพลังกว่าชีวิตก่อนหน้าถึงสามสิบส่วน
นี่เป็นเพราะฟางหยวนมีวิญญาณอมตะในการครอบครองมากกว่าชีวิตก่อนหน้า
ฟางหยวนรีดไถตระกูลเซี่ยเป็นอันดับแรก ต่อมาก็เป็นตระกูลปาและตระกูล
อี้หยางของตระกูลอี้เป็นทายาทในสายเลือดของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลอี้และเป็นผู้สืบทอดตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง เขามีความสําคัญมากต่อตระกูลอี้
ตระกูลถัดมาที่ฟางหยวนเรียกค่าไถคือตระกูลจื่อ
แต่ทัศนคติของฟางหยวนที่มีต่อตระกูลจื่อค่อนข้างเป็นมิตร “พี่จื่อ เราเป็นสหายที่ดี ข้าสามารถจับผู้อมตะภาคใต้ได้เพราะท่าน ข้าจะคืนผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลจื่อให้ท่านโดยตรง”
ใบหน้าของจื่อชิวหยูกลายเป็นขี้เถ้า
“อย่ามาตีสนิทข้า!” จื่อชิวหยูกรีดร้องอยู่ในใจ
เขาถูกฟางหยวนลากเข้ามุมและไม่สามารถออกไป
ไม่กี่วันที่ผ่านมา อารมณ์ของจื่อชิวหยูเลวร้ายมาก
เพราะเขารู้ว่าฟางหยวนสามารถจับผู้อมตะภาคใต้ได้เนื่องจากอาณาจักรแห่งความฝันที่เขาลอบส่งมอบให้ฟางหยวน
หากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้รู้เรื่องนี้ กระทั่งจื่อชิวหยูก็จะตกอยู่ในอันตราย
ธุรกรรมอาณาจักรแห่งความฝันกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อจื่อชิวหยู เขาต้องการหยุดธุรกรรมที่อันตรายนี้ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
หลังจากทั้งหมดคนที่เขาเผชิญหน้าอยู่คือฟางหยวน ความจริงข้อนี้ทําให้หัวใจของจื่อชิวหยูจมดิ่งลง