”พวกท่านคือ?” เด็กยาคนนั้นอายุยังน้อย ดูเหมือนอายุประมาณ 8-9 ขวบเท่านั้น เสื้อผ้าของเขาเรียบง่ายมาก ทันทีที่เห็นพวกเย่ฉาซึ่งเป็นคนแปลกหน้าร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำท่าทางเย็นชา เขาก็ห่อไหล่สีหน้าเครียด สองมือกำพัดแน่น
”ไม่ต้องกังวล พวกเราไม่ใช่คนเลว เรามาหาหมอเทวดาไป๋สวี่” หรงรั่วก้าวออกมา รอยยิ้มอบอุ่นทำให้สีหน้าของเด็กยาคนนั้นผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เด็กยาเม้มปาก ดวงตากลมโตมองไปที่หรงรั่วและพวกเย่ฉา แววตาเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
”หมอเทวดาไป๋สวี่อะไร……ข้าไม่รู้จัก……พวกท่านมาผิดที่แล้ว ที่นี่ไม่มีหมอเทวดาอะไรหรอก” เด็กยาคนนั้นพูดตะกุกตะกัก ความหวาดระแวงน้ำเสียงเผยให้เห็นความตื่นกลัวของเขา คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อคำพูดของเขา
ดวงตาของจวินอู๋เสียมองผ่านเด็กยาไปที่กระท่อมซึ่งมีแสงไฟลอดออกมาจากหน้าต่าง นางก้าวไปข้างหน้า และคิดจะเข้าไปในกระท่อม แต่ก็ถูกเด็กยาห้ามเอาไว้
”ไม่มีใครอยู่ในบ้าน! พวกท่าน……พวกท่านเข้าไปไม่ได้……” เด็กยายืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย แต่พอเห็นหน้าจวินอู๋เสีย เขาก็ยืนตะลึงอยู่กับที่ทันที
ภายใต้แสงจันทร์กระจ่าง หญิงสาวผู้เย็นชาตรงหน้าเขาช่างงดงามเหลือเกิน เด็กยาไม่สามารถบรรยายความงามของนางเป็นคำพูดได้เลย
งดงามเหลือเกิน……
บนโลกนี้มีคนที่สวยขนาดนี้ได้ยังไง?
”หลีกไป” จวินอู๋เสียพูดเบาๆ
แต่เด็กยาไม่ยอมหลีกให้
เย่ฉาก้าวเข้ามาทันที และกำลังจะดึงเด็กยาออกมา
”อ๊า! พวกท่านจะทำอะไร! พวกท่านจะบุกรุกเข้าบ้านคนอื่นได้ยังไง!!” เด็กยาคนนั้นกรีดร้องใส่เย่ฉา ตอนนั้นเองก็มีเสียงอ่อนโยนของชายชราดังขึ้นจากด้านหลัง
”เป็นแขกจากแดนไกล ก็ควรรู้จักมารยาทบ้าง”
เสียงนั้นไม่ดังนัก แต่ก็ได้ยินกันอย่างชัดเจนทุกคน ภายใต้น้ำเสียงที่อ่อนโยน มีความแข็งกร้าวแฝงอยู่ด้วย
เย่ฉาจับเด็กยาน้อยคนนั้นไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและมองไปที่จวินอู๋เสีย นางพยักหน้าเล็กน้อย เขาจึงปล่อยเด็กคนนั้นไป เด็กยาที่ได้อิสระคืนมาก็กางแขนกั้นขวางหน้าประตูทันที พยายามจะปกป้องทางเข้าอย่างสุดชีวิต
”ให้พวกเขาเข้ามา” เสียงนั้นดังขึ้่นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พูดกับเด็กยาคนนั้น
เด็กยากัดริมฝีปากและลังเลอยู่นานกว่าจะยอมถอย จวินอู๋เสียเดินไปผลักประตูให้เปิดออกทันที
ภายในกระท่อมมุงจากมีโต๊ะและเก้าอี้เรียบง่ายพร้อมเทียนไขที่จุดไฟให้แสงสว่างส่องให้เห็นภายในกระท่อม บนโซฟานุ่มๆด้านข้างมีผู้เฒ่าคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดผ้าป่านเนื้อหยาบนอนอยู่ แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญเป็นใคร ใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
”ดูลักษณะพวกเจ้าแล้ว เหมือนว่าจะไม่ใช่คนของเก้าอารามสินะ” สายตาของไป๋สวี่มองไปที่จวินอู๋เสีย แล้วแสดงความเห็นออกมา
”รู้ได้ยังไง?” จวินอู๋เสียมองเขา นางเคยเจอไป๋สวี่ครั้งหนึ่งที่สำนักธาราเมฆเมื่อห้าปีก่อน แต่ตอนนั้นนางกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการสิบสองวิหาร จึงไม่ได้ติดต่อกับเขาอีก แต่ไม่คิดเลยว่าเวลาห้าปีได้เปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆไปมากมาย และนางก็ได้พบกับเขาอีกครั้ง
ไป๋สวี่หัวเราะ “ถ้าเก้าอารามมีคนอย่างพวกเจ้า ก็คงไม่กลายเป็นหุ่นเชิดของอาณาจักรบนหรอก ดูจากลักษณะของพวกเจ้าก็ไม่ใช่คนของอาณาจักรบน”
ความหลักแหลมของไป๋สวี่ทำให้พวกเฉียวฉู่ที่อยู่ข้างหลังจวินอู๋เสียรู้สึกประหลาดใจพอสมควร