”ถ้าพวกเจ้ามาที่นี่เพราะกระดูกวิญญาณอะไรนั่น ข้าเกรงว่าพวกเจ้าคงผิดหวังแล้ว” ความสงบนิ่งของไป๋สวี่ทำให้ยากที่ผู้คนจะสงสัยในความน่าเชื่อถือของคำพูดของเขา
แต่ในบรรดาคนเหล่านั้น ไม่ได้รวมจวินอู๋เสีย
”ปรมาจารย์ไป๋สวี่ ข้าคิดว่าท่านควรดูของบางอย่างก่อน” จวินอู๋เสียพูดขึ้นทันที
ไป๋สวี่เงยหน้าขึ้นและเห็นหน้ากากอันหนึ่งอยู่บนมือของนาง หน้ากากนั้นดูธรรมดามาก เป็นแค่หน้ากากเด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น แต่พอเขาสัมผัสมัน สีหน้าของไป๋สวี่ก็แสดงความตกใจอย่างที่ไม่สามารถบรรยายได้
”นี่……” ไป๋สวี่ตกใจสุดขีด เขาหันไปมองจวินอู๋เสีย
”ปรมาจารย์ไป๋สวี่ นี่เป็นครั้งที่สองที่เราพบกัน ครั้งแรกที่เจอกันคือตอนที่อาจารย์ปู่พาข้าไปพบท่าน” จวินอู๋เสียตอบอย่างจริงจัง แต่ตอนที่นางพูดคำว่า ‘อาจารย์ปู่’ น้ำเสียงของนางแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด
ไป๋สวี่ตกตะลึงจนนิ่งงันอยู่กับที่
”เจ้าคือศิษย์คนนั้นของซูหย่า?!” ไป๋สวี่เบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ แม้จะแก่แต่ความจำของเขายังดีอยู่ เขาจะลืมเด็กที่เพื่อนเก่าของเขาอวดนักอวดหนาได้อย่างไร?
เพียงแต่……
”เจ้าเป็นผู้หญิงหรือ?” ไป๋สวี่มองจวินอู๋เสียตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องพูดเลยว่าถึงอายุ เพศ และรูปร่างหน้าตาจะแตกต่างจากเด็กหนุ่มในความทรงจำของเขา แต่ดวงตาและบุคลิกลักษณะเหมือนกับในความทรงจำของเขาแต่เย็นชากว่า
”ใช่” จวินอู๋เสียพยักหน้า
ไป๋สวี่ถอนหายใจยาว ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่จวินอู๋เสีย “เจ้าหาที่นี่เจอได้ยังไง? อาจารย์ปู่เจ้า เขา…… เฮ้อ เจ้าจะเอากระดูกวิญญาณไปทำอะไร?”
ถ้าเป็นคนอื่น ไป๋สวี่จะไม่มีวันแพร่งพรายอะไรเด็ดขาด แต่จวินอู๋เสียเป็นศิษย์หลานคนโปรดของเหรินหวง แค่เรื่องนี้อย่างเดียว ไป๋สวี่ก็เลิกเสแสร้งปิดบังแล้ว
เขาจะเย็นชากับศิษย์หลานคนโปรดของเพื่อนรักได้อย่างไร?
”ข้าต้องการกระดูกวิญญาณไปจัดการกับอาณาจักรบน”
”อะไรนะ?!” ไป๋สวี่เบิกตากว้างจ้องมองนางอย่างเหลือเชื่อ สิ่งที่นางพูดออกมานั้นน่าตกใจเกินไปแล้ว!
”เอาไปจัดการอาณาจักรบน? เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง! ถึงอาจารย์ปู่เจ้าจะยกย่องพรสวรรค์ของเจ้า แต่เจ้ารู้ไหมว่าอาณาจักรบนเป็นสถานที่แบบไหน? อาจารย์ปู่เจ้าไม่เคยบอกเจ้าเลยเรอะ?! เจ้าอยากจัดการอาณาจักรบน มันจะสำเร็จง่ายๆได้ยังไง! เจ้ายังเด็ก ยังไม่รู้ถึงความน่ากลัวของอาณาจักรบน เรื่องกระดูกวิญญาณ อย่าแม้แต่จะคิดเลยเว้นแต่ว่าอาจารย์ปู่เจ้าจะมาเอง ข้าถึงจะบอกเขา! ไม่งั้น ไม่ต้องมาถามเลยว่ากระดูกวิญญาณอยู่ที่ไหน” ไป๋สวี่มีสีหน้าจริงจัง เขาไม่ได้อยากจะทำให้จวินอู๋เสียลำบากใจ แต่เขาไม่อยากให้พวกเด็กๆต้องตกอยู่ในอันตราย
พอไป๋สวี่พูดถึงเหรินหวง ใบหน้าของพวกเฉียวฉู่ก็ซีดขาวทันที พวกเขาหันไปมองจวินอู๋เสียแทบจะพร้อมเพรียงกัน สายตาเต็มไปด้วยความห่วงกังวล
ไป๋สวี่ไม่รู้หรือว่าเหรินหวงตายแล้ว?
จวินอู๋เสียนิ่งอึ้งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตั้งสติได้ แล้วเสียงเย็นชาของนางก็ดังขึ้น “อาจารย์ปู่……ท่าน……เสียชีวิตแล้ว”
สีหน้าไม่พอใจของไป๋สวี่กลายเป็นแข็งค้างเหมือนโดนแช่แข็งทันที ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองจวินอู๋เสียอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อเลย……นางพูดอะไรออกมา
”เจ้า……เจ้าว่าอะไรนะ? เหรินหวง……เขา……เขา……จากไปแล้ว?” เสียงของไป๋สวี่เบามาก ราวกับเขาไม่ต้องการที่จะเชื่อความจริงที่โหดร้ายนี้
แต่หลังจากที่เห็นจวินอู๋เสียพยักหน้า ทั้งตัวเขาก็อ่อนปวกเปียกเหมือนลูกบอลที่ถูกปล่อยลม