หลิงหยุนทำให้เย่ซิงเฉินถึงกับนิ่งอึ้งไปเขาไม่คิดที่จะเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของตนไว้อีกต่อไป และเริ่มแสดงมันออกมาอย่างเต็มที่!
ไม่เพียงหลวงจีนจื้อเหนิงเท่านั้นที่ถูกตราหยกจักรพรรดิอัดร่างลงไปในดินแต่เพราะเขากระโดดเข้าไปช่วยหลวงจีนที่ได้รับบาดเจ็บอีกสี่รูปด้วย ตราหยกจักรพรรดิจึงบดขยี้ลงอัดร่างหลวงจีนทั้งหมดห้ารูปลงไปใต้ดินพร้อมๆกันด้วย!
สำหรับหลวงจีนจื้อเหนิงผู้อยู่ในขั้นพลังเหนือธรรมชาติและมีร่างกายที่แกร่งดั่งเหล็กนั้น เวลานี้ไม่มีผู้ใดรู้ได้ว่าจะเป็นหรือตายอย่างไร
“จัดการสังหารพวกมันให้หมด!”หลิงหยุนไม่สนใจหลวงจีนจื้อเหนิงที่อยู่ใต้ดินอีก และรีบหันไปร้องบอกเย่ซิงเฉินทันที
จากนั้นหลิงหยุนก็ได้กลั่นเสินหยวนอีกกว่าสามร้อยหยด แล้วใช้เงาลวงตาพุ่งเข้าจู่โจมหลวงจีนที่เหลือทันที!
หลิงหยุนเคลื่อนที่ได้รวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์จนหลวงจีนทั้งเก้ารูปได้แต่ยืนงุนงง แต่ร่างของพวกเขานั้นกลับถูกหลิงหยุนฟันขาดเป็นสองท่อนเรียบร้อยแล้ว!
ส่วนที่เหลือออีกสองนั้นเย่ซิงเฉินยังนับว่าช้ากว่ากระบี่เหินเงาธนู และกระบี่กังฉีของหลิงหยุนที่พุ่งเข้าสังหารหลวงจีนอีกสองรูปสิ้นใจตายในทันที!
“หลิงหยุนได้โปรดเมตตา!”
แม้หลวงจีนเจี๋ยวหยวนจะไม่ใช่คนของหออรหันต์แต่ก็เป็นศิษย์วัดเส้าหลินเหมือนกัน เมื่อเห็นหลิงหยุนอัดร่างของหลวงจีนจื้อเหนิงลงไปใต้ปฐพีเช่นนั้น เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์จากนี้ไปต้องแย่กว่านี้แน่ เพราะเขารู้จักอุปนิสัยใจคอและอารมณ์ของหลิงหยุนค่อนข้างดี!
แต่ในเวลาเดียวกันกับที่เสียงร้องตะโกนของหลวงจีนเจี๋วยหยวนดังขึ้นนั้นร่างของหลิงหยุนก็ได้เคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วแล้ว!
หลิงหยุนยังไม่ทันได้ลงมือจริงจังอะไรนักแต่สิบแปดอรหันต์เส้าหลินก็ถูกหลิงหยุนสังหารตายไปถึงสิบเอ็ดคนแล้ว!
และหลังจากที่หลิงหยุนสังหารหลวงจีนรูปอื่นๆที่เหลือแล้วเขาก็หาได้สนใจกับคำพูดของหลวงจีนเจี๋ยว และหันไปพูดกับเย่ซิงเฉินว่า
“ภรรยา..ข้าสังหารพวกมันให้แล้ว เจ้าพอใจหรือไม่”
เย่ซิงเฉินยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจพร้อมตอบกลับไปว่า“เจ้าควรสังหารพวกมันตายตั้งนานแล้ว!”
ในการต่อสู้ครั้งนี้เย่ซิงเฉินใช้ทั้งพายุหมุนดวงดาว ดวงจันทร์ร่วงหล่นดวงดาราร่วงโรย ดาวตกจันทรา ระเบิดจักรวาล.. นับได้ว่าวิชาสุญตาดูดดาวนี้สามารถใช้ประมือกับศัตรูได้ดีเยี่ยมทีเดียว!
“ซิงเฉิน..เจ้าคอยดูให้ดี ครั้งนี้ข้าจะจัดการกับเหล่าศัตรูที่ไร้ยางอายของเราให้สิ้นซากในคราวเดียว!”
เย่ซิงเฉินพยักหน้าดวงตากลมโตนั้นเป็นประกายด้วยความชื่นชมพร้อมตอบกลับไปว่า “ข้าจะรอดู!”
ภาพของหลิงหยุนในคืนนี้เย่ซิงเฉินจะไม่มีวันลืมเลือนเลย!
เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนไม่สนใจตนเองเลยแม้แต่น้อยหลวงจีนเจี๋ยวหยวนจึงได้กล่าวขึ้นอีกว่า “หลิงหยุน.. เมื่อครั้งที่เส้าหลินบุกไปตระกูลหลิงเมื่อสิบแปดปีก่อนนั้น มีเพียงหลวงจีนอาวุโสแห่งเส้าหลินเท่านั้นที่บุกเข้าไป สิบแปดอรหันต์ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย เหตุใดเจ้าจึงต้องสังหารพวกเขาด้วยเล่า มันไม่โหดเหี้ยมเกินไปหน่อยรึ?”
“ถ้าเช่นนั้นนอกจากหลวงจีนเฒ่าผู้นี้แล้วหลวงจีนอาวุโสอีกสองรูปที่เหลืออยู่ที่ใดกัน”
หลิงหยุนคร้านที่จะสนใจเรื่องของสิบแปดอรหันต์วัดเส้าหลินที่ถูกสังหารไปเขาจึงถามตรงเข้าเรื่องที่ตนอยากจะรู้ทันที! หลังจากที่หลิงหยุนถามออกไปหลวงจีนอาวุโสทั้งสองรูปนั้นก็รีบก้าวถอยหลังออกไปด้วยความหวาดกลัวทันที!
และในคืนนี้หากรวมหลวงจีนเจี๋ยวหยวนด้วยแล้วก็มีหลวงจีนจากวัดเส้าหลินมารวมตัวกันที่หุบเขาแห่งนี้มากถึงยี่สิบสองรูปเลยทีเดียว ซึ่งก็คือหลวงจีนอาวุโสทั้งสาม และสิบแปดอรหันต์วัดเส้าหลิน
เวลานี้สิบแปดอรหันต์วัดเส้าหลินก็ถูกหลิงหยุนสังหารตายจนหมดแล้วส่วนหลวงจีนจื้อเหนิงก็ถูกตราหยกจักรพรรดิอัดอยู่ใต้พื้นดิน หลิงหยุนไม่คิดที่จะสังหารหลวงจีนเจี๋ยวหยวน แต่สายตาของเขานั้นจับจ้องอยู่ที่หลวงจีนอาวุโสอีกสองรูป
“เอ่อ..”
หลวงจีนเจี๋ยวหยวนถึงกับนิ่งอึ้งไปและรู้ตัวว่าได้พลาดท่าพูดสิ่งที่ไม่ควรออกไปแล้ว..
“หี!ขอบใจเจ้ามาก!”
ทันทีที่เห็นท่าทางอ้ำอึ้งของหลวงจีนเจี๋ยวหยวนหลิงหยุนก็ไม่จำเป็นต้องถามอะไรอีก เขาแสยะยิ้มเย็นออกมา แล้วร่างก็หายวับไปในทันที!
ชัวะ!
พริบตาเดียวร่างของหลิงหยุนก็มาปรากฏอยู่ที่ด้านหน้าของหลวงจีนอาวุโสของวัดเส้าหลินทั้งสองรูป!
“มอบชีวิตของเจ้ามา!”
ในเมื่อเป็นศัตรูหลิงหยุนก็ไม่เคยคิดที่จะปล่อยให้มีชีวิตรอด และเวลานี้ด้วยอานุภาพของการเผาหยดเสินหยวนก่อนหน้า ทำให้ความแข็งแกร่งของหลิงหยุนอยู่ในขั้นลิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-6) จึงสามารถสังหารศัตรูได้อย่างง่ายดาย!
แม้หลวงจีนอาวุโสทั้งสองรูปจะอยู่ในขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับหกแต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานหลิงหยุนที่จู่โจมอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้!
รังสีดำแดงแผ่ซ่านออกมาจากตัวกระบี่โลหิตแดนใต้ฟันทะแยงเข้าใส่หน้าอกของหลวงจีนอาวุโสทั้งสองรูปอย่างรวดเร็ว จากนั้นร่างทั้งสองก็ขาดครึ่งออกจากกันในทันที!
หลวงจีนอาวุโสทั้งสองคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะลงมือในทันทีเช่นนี้จึงไม่มีโอกาสแม้แต่จะรวบรวมลมปราณสร้างเกราะป้องกันให้ตัวเองได้ทัน จึงถูกหลิงหยุนสังหารตายโดยไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ!
หากจะเทียบแล้วหลวงจีนอาวุโสทั้งสองรูปนั้นล้วนแข็งแกร่งไม่แตกต่างจากหลี่เจิ้งเฟิงแห่งหน่วยนภา ดังนั้นต่อให้พวกเขาทั้งสองไหวตัวทัน ก็ยากที่จะต้านทานกระบี่ที่ทรงอานุภาพและความแข็งแกร่งของหลิงหยุนเวลานี้ได้!
ครืน..ตูม!
ในระหว่างนั้นเองจู่ๆตราหยกจักรพรรดิก็เริ่มสั่นและเกิดเป็นเสียงดังไปทั่วทั้งบริเวณ จากนั้นไม่นานก็พุ่งจากผืนดินขึ้นสู่ท้องนภาทันที!
จากนั้นร่างของหลวงจีนจื้อเหนิงก็พุ่งตามขึ้นมาเวลานี้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทา ศรีษะไร้เกศานั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ก่อนที่จะถูกตราหยกจักรพรรดิกดทับร่างของตนนั้นเพื่อต้องการที่จะช่วยหลวงจีนศิษย์วัดเส้าหลินรูปอื่นๆ หลวงจีนจื้อเหนิงจึงต้องใช้แสงพุทธองค์ในการสะกดพลังจิตของเย่ซิงเฉินไว้ ร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กนั้นจึงได้อ่อนกำลังลงมาก อีกทั้งยังผ่านการต่อสู้ประมือกับหลิงหยุนมาก่อนหน้า
แต่ถึงกระนั้นเนื่องจากฝึกบ่มเพาะมาถึงระดับที่สูงเช่นนี้ ทำให้หลวงจีนจื้อเหนิงสามารถฟื้นฟูร่างกายและพลังที่อ่อนด้อยลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากที่ฟื้นฟูกำลังได้แล้ว เขาก็ใช้กำปั้นชกเข้ากับตราหยกจักรพรรดิ แล้วพุ่งขึ้นมาจากใต้พื้นดิน!
“เจ้า..เจ้า.. เจ้ามารชั่วช้า! เจ้าช่างเหี้ยมโหดนัก!”
หลังจากที่หลวงจีนจื้อเหนิงพุ่งออกมาจากใต้พื้นดินเขาก็พบว่าสิบแปดอรหันต์ที่พามาด้วย และหลวงจีนอาวุโสอีกสองรูปได้ถูกหลิงหยุนสังหารตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงหลวงจีนเจี๋วยหยวนรูปเดียวเท่านั้น!
แม้ว่าหลวงจีนเจี๋ยวหยวนจะยังมีชีวิตอยู่แต่หลวงจีนเจี๋ยวหยวนนั้นก็อยู่ในส่วนของหอธรรม เขาจึงไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยมากนัก อีกทั้งเวลานี้หลวงจีนเจี๋ยวหยวนก็อยู่เพียงแค่ขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับสอง ซึ่งแทบจะไม่มีความหมายอะไรในสายตาของหลิงหยุนเลยแม้แต่น้อย
อีกทั้งหลิงหยุนเพิ่งจะลงมือสังหารหลวงจีนอาวุโสจากหออรหันต์ตายไปสองคนแต่กลับไม่ลงมือสังหารหลวงจีนเจี๋ยวหยวนเพียงผู้เดียว เห็นได้ชัดว่าหลิงหยุนคร้านที่จะใส่ใจกับเขา หาใช่ไม่มีความสามารถที่จะสังหารหลวงจีนเจี๋ยวหยวน..
แต่ความจริงแล้วที่หลิงหยุนไม่สังหารหลวงจีนเจี๋ยวหยวนนั้น เพราะยังจดจำความสัมพันธ์ดีๆที่ผ่านมาได้ หลิงหยุนจึงไม่อาจลงมือสังหารหลวงจีนเจี๋ยวหยวนได้หากเขาไม่ทำอะไรที่เกินเลยมากไปกว่านี้ ในพริบตาเดียวหลวงจีนจื้อเหนิงที่นำพาเหล่าศิษย์เส้าหลินมางานชุมนุมชาวยุทธในคืนนี้ กลับหลงเหลือตนเองแต่เพียงผู้เดียว เขาจ้องมองเย่ซิงเฉินและหลิงหยุนด้วยแววตาเคียดแค้น แล้วร้องตะโกนออกมา
“เหตุใดเจ้าจึงต้องสังหารพวกเขาด้วย”
หลิงหยุนกระโดดกลับไปยืนอยู่ตรงหน้าของหลวงจีนจื้อเหนิงพร้อมกับพูดเย้ยหยันว่า “เจ้าบอกเองไม่ใช่รึว่าต้องการปราบมารให้สิ้นเพื่อผดุงความสงบสุขให้ยุทธภพ ในเมื่อเจ้าคิดการใหญ่เช่นนี้ ก็ควรต้องประเมินตัวเองให้ดีเสียก่อนว่า มีปัญญาที่จะสังหารทายาทมารเช่นข้าหรือไม่ ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะเป็นอย่างที่เห็น…”
“ในคืนนี้หากพวกเจ้าทั้งหมดมีปัญญาสังหารข้า รับรองได้ว่าข้าจะไม่ตำหนิพวกเจ้าเลยแม้แต่น้อย!”
หลิงหยุนคร้านที่จะเปลืองน้ำลายพูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะในสายตาของเขานั้น คนเหล่านี้ล้วนต้องกลายเป็นร่างไร้วิญญาณอยู่ที่นี่ในอีกไม่นาน เขาจึงไม่ต้องการที่จะเสียเวลามากไปกว่านี้..
จากนั้นหลิงหยุนก็ยกกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือขึ้นมาพร้อมกับประกาศว่า“เอาล่ะหลวงจีนเฒ่า ข้าจะให้โอกาสเจ้าจะเรียกผู้ใดเข้ามาช่วยก็ได้ พวกเรามาเล่นสนุกกันอีกสักครั้งดีกว่า ดูว่าข้าจะพ่ายแพ้ให้กับเจ้าหรือไม่”
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองเหล่าชาวยุทธในหุบเขาหลงเฟิงต่างพากันก้าวถอยหลังกันหมด และหลายคนต่างก็ล่าถอยไปอยู่ตามหน้าผาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าก้าวเท้าออกมาด้านหน้าเลยแม้แต่คนเดียว!
ใช่แล้ว..ทุกคนต่างก็หวาดผวากันไปหมด!
ทุกคนต่างก็ได้เห็นความแข็งแกร่งของหลิงหยุนด้วยตาตัวเองแล้วเวลานี้ทุกคนล้วนแล้วแต่กลัวตายกันทั้งสิ้น!
เพราะแม้กระทั่งหลวงจีนวัดเส้าหลินที่มากันทั้งหมด22 รูปในคืนนี้ แต่ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาทีกลับเหลืออยู่เพียงแค่สองรูปเท่านั้น มิหนำซ้ำหลวงจีนสองรูปที่ถูกสังหารตายไปก็เป็นถึงยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับหก และสิบแปดอรหันต์วัดเส้าหลินก็มีทั้งยันต์ป้องกันตัวและเพิ่งจะกลืนโอสถเพิ่มพลังปราณเข้าไป!
นี่มันอะไรกัน
เช่นนี้แล้วย่อมเท่ากับว่าหลิงหยุนสามารถสังหารหลวงจีนวัดเส้าหลินทั้งยี่สิบรูปได้อย่างง่ายดายแล้วชาวยุทธที่เหลือรวมทั้งคนของสำนักเขาหลงหู่ ยังจะใช่คู่ต่อสู้ของหลิงหยุนอีกอย่างนั้นหรือ หากยังขืนเข้าไปก็เท่ากับรนหาที่ตายดีๆนั่นเอง..
ในเวลานี้..ไม่มีผู้ใดกล้าพูดคำว่า ‘มาร’ อีกเลย และไม่มีผู้ใดกล้าพูดว่าจะสังหารหลิงหยุนและเย่ซิงเฉิน หรือพูดว่าจะถล่มตระกูลหลิง สังหารหลิงเสี่ยว และหยินชิงเฉวียนอีกเลยแม้แต่คนเดียว!
“หนี!”
เสียงร้องตะโกนของใครบางคนดังขึ้น! จากนั้น..ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียนหลายคนก็กระโจนลงจากหน้าผาทั้งสองฝั่งของหุบเขาหลงเฟิงเพื่อหนีเอาตัวรอดทันที!
ไม่มีทาง!แม้แต่ยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับหกยังถูกสังหารตายในพริบตา ยอดฝีมือขั้นต่ำเหล่านี้จึงอย่าได้หวังที่จะหนีรอดไปได้เลย ยิ่งหนีก็ยิ่งหมายถึงความตายที่จะมาเยี่ยมเยียนเร็วมากขึ้น!
ยอดฝีมือกว่าสามร้อยคนต่างก็พากันกระโดดไปทางหน้าผาทั้งสองด้านและต้องการที่จะหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
ภายในหุบเขาหลงเฟิงจึงโกลาหลวุ่นวายขึ้นในทันที!
“ผู้ใดหนีก่อนย่อมตายก่อน!”
หลิงหยุนแสยะยิ้มเยือกเย็นและพูดออกมาอย่างเย้ยหยันเขาใช้พลังจิตขยายตราหยกจักรพรรดิออก พร้อมกับบังคับให้ลอยไปครอบคลุมหน้าผาทั้งสองฝั่ง ก่อนจะกดทับลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว! เหล่าชาวยุทธที่ยืนอยู่บริเวณหน้าผาทั้งสองฝั่งต่างพากันแหงนหน้ามองขึ้นไปด้วยแววตาหวาดผวา!
ในเวลาเดียวกันกระบี่เหินเงาธนูและกระบี่กังฉีก็พุ่งออกจากกลางหุบเขา และตรงเข้าสังหารเหล่ายอดฝีมือที่กำลังกระโดดตามไปที่หน้าผาทันทีเช่นกัน!
เย่ซิงเฉินเองก็ไม่อยู่นิ่งนางบังคับกระบี่คู่มารสะบั้นเข้าสังหารเหล่าชาวยุทธตาย และบาดเจ็บสาหัสหลายรายเช่นกัน!
และในพริบตาเดียว..จู่ๆแผ่นหลังของหลิงหยุนก็มีปีกสองข้างปรากฏขึ้น และนี่คือปีกหยิน–หยาง เขาสยายปีกใหญ่กว่าสิบเมตรนั้นออก และกระพือขึ้นลงไปมา ปีกหยิน–หยางของหลิงหยุนนั้นสร้างขึ้นด้วยพลังหยินหยางที่ควบแน่นจนเป็นเกร็ดของแข็ง จึงมีความแหลมคมยิ่งนัก เมื่อสัมผัสโดนผู้ใด คนผู้นั้นจึงราวกับถูกทิ่มแทงด้วยอาวุธแหลมคม
ภายใต้ตราหยกจักรพรรดิกระบี่เหินเงาธนู กระบี่กังฉี ปีกหยิน–หยางของหลิงหยุนและกระบี่คู่มารสะบั้นของเย่ซิงเฉิน ทำให้เหล่ายอดฝีมือกว่าสามร้อยคนที่กำลังคิดจะหนีถูกสังหารตายไปกว่าครึ่งภายในพริบตาเดียว..
และเวลานี้ทั่วทั้งหุบเขาหลงเฟิงก็ได้กลายเป็นนรกบนดินไปในทันที!