เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1079
เขตนอกเมืองหลวงที่ค่อนข้างห่างไกล หรือแม้กระทั่งถนนตามหัวเมือง ยังไม่สามารถวาร์ปไปได้ แต่เทียบกับเขตตงหวาที่กว้างใหญ่เหมือนกัน วิธีการเดินทางแบบนี้ ถือว่าเร็วมากแล้ว

ลู่ฝานเดินทางจากที่นี่กลับเจดีย์ยา ต้องวาร์ปสามครั้ง

ดังนั้นลู่ฝานจึงกำเหรียญทองเตรียมไว้ในมือสามเหรียญ ทหารยามเฝ้าค่ายกลเห็นลู่ฝาน มีรอยยิ้มเต็มใบหน้าทันที

“สวัสดีครับคุณชายลู่!”

ลู่ฝานพยักหน้า ยัดเหรียญทองเข้าไปในมือทหารยามหนึ่งเหรียญ

ทหารยามทั้งสองคนรีบเปิดค่ายกล เชิญลู่ฝานกับสิบสามเข้าไปอย่างนอบน้อม

ไม่มีอะไรแตกต่างจากปกติ แสงค่ายกลเคลื่อนไหว พลังมิติรวมตัวกัน

ลู่ฝานไม่ได้คิดอะไรมาก ก้าวเท้าเข้าไป

ทันใดนั้น โลกหมุนเคว้ง แสงนับไม่ถ้วนพาดผ่านไปทางด้านหลังลู่ฝาน

ลู่ฝานรออยู่ครู่หนึ่ง พบว่าตัวเองยังไม่ได้ออกจากค่ายกล นี่มันผิดปกติแล้ว

ปกติเดินทางด้วยจุดค่ายกลเคลื่อนฟ้า หลังจากเข้าไปแล้ว จะออกมาอย่างรวดเร็ว

วันนี้เขากลับอยู่ในอุโมงค์มิตินานขนาดนี้ แต่ยังไม่สามารถออกไปได้ ขณะที่ลู่ฝานย้ายมือไปวางไว้บนด้ามจับกระบี่หนักไร้คมที่อยู่ด้านหลัง ในที่สุดอุโมงค์มิติหายไป สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าลู่ฝานคือห้องหนังสือ

หนังสือเต็มห้อง เหมือนวางกองเต็มสายตา ลู่ฝานมองรอบๆ ด้วยความตกใจ แล้วพูดว่า “นี่วาร์ปมาที่ไหนกัน”

สิบสามแววตาเคร่งขรึม มีแสงสีแดงสว่างขึ้นบนตัว ตัวเขาขยายใหญ่ขึ้นหนึ่งเท่า กล้ามเนื้อปูดขึ้น พลานุภาพที่ไม่ด้อยไปกว่านักบู๊แดนปราณชีวิตระดับสูงสุด แผ่กระจายออกไป

ลู่ฝานก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเหมือนกัน ค่อยๆ ดึงกระบี่หนักไร้คมออกมา แล้วพึมพำว่า “ค่ายกลมีปัญหาเหรอ”

คำพูดของเขา ไม่ใช่แค่ความสงสัย แต่เป็นการถามไอ้เก้าด้วย ไอ้เก้าที่อยู่ในตัวตอบกลับว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าค่ายกลมีปัญหา น่าจะดันคนออกไปทันทีถึงจะถูก ผู้ฝึกชี่ที่สามารถสร้างจุดค่ายกลเคลื่อนฟ้าในเมืองหลวงได้ ไม่มีทางไร้วิธีการป้องกัน มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือมีคนจงใจให้เจ้านายวาร์ปมาที่นี่”

ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “จงใจเหรอ แล้วเป็นใครกันล่ะ องค์ชายทั้งสองคน จะเป็นองค์ชายคนไหน”

ระหว่างที่พูด ลู่ฝานพลิกหนังสือที่อยู่ข้างตัว

หนังสือที่นี่เยอะมาก วางจนไม่สามารถยัดเข้าไปในชั้นวางได้อีก ทำได้เพียงวางไว้บนพื้น กองจนเต็มไปหมด แต่วางได้อย่างเป็นระเบียบมาก

ลู่ฝานพลิกหนังสือดูสองสามเล่ม จากนั้นส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ค่อนข้างผิดปกติ หนังสือที่นี่มีครบทุกอย่าง ไม่เหมือนหนังสือที่ราชวงศ์เก็บสะสมไว้!”

ลู่ฝานดึงหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง บนหน้าปกมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า “วิชาลับในห้อง!”

เมื่อเปิดดู มีภาพสีพร้อมคำอธิบาย ลู่ฝานอ่านครู่หนึ่ง เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้นอีก

ค่อยๆ วางหนังสือกลับเข้าไป ลู่ฝานเดินไปข้างหน้าช้าๆ

แต่สิ่งที่เขาไม่ทันสังเกตคือ ในกำแพงที่เต็มไปด้วยหนังสือทั้งสองด้าน มีไข่มุกหนึ่งเม็ดที่ใหญ่กว่าไข่มุกเรืองแสงทั่วไปเล็กน้อย ในไข่มุกสะท้อนทุกสิ่งในห้อง!

ภายในห้องเล็กๆ ด้านหลังกำแพง ผู้อาวุโสคนหนึ่งมองม่านน้ำสรวงสรรค์ด้านหน้าด้วยรอยยิ้ม

ทุกการกระทำของลู่ฝานในห้องหนังสือ รวมถึงคำพูดที่ลู่ฝานพูดทั้งหมด ล้วนอยู่ในสายตาและการได้ยินของผู้อาวุโส

“อืม สติปัญญาไม่แย่ ใจเย็นมากด้วย อาวุธในมือมีเขตวิถีแฝงอยู่ เป็นอาวุธวิเศษ คนใช้ข้างๆ มีกลิ่นเลือด ยาปิดบังออร่าปีศาจของเขา ต้องดูอีกทีว่าใช่ผู้ฝึกชั่วร้ายหรือเปล่า!”

ผู้อาวุโสค่อยๆ เขียนสิ่งเหล่านี้ลงบนกระดาษ หลังจากนั้นเงยหน้าขึ้นยิ้มบางๆ แสงส่องลงมาบนใบหน้าเขา

เป็นเฉิงเซี่ยงสามัญชน หลู่ชิงโหว!