ตอนที่ 897 สับเจ้าไก่เฒ่า

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ชายชราผมขาวผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ พลังขั้นมหาจักรพรรดิแผ่ซ่านออกมา

ทุกคนต่างก็ตกตะลึงขึ้น “นี่ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลเหลยไม่ใช่หรอกเหรอ!”

“นึกไม่ถึงว่าเขาจะออกมาจากการฝึกบำเพ็ญแล้ว!”

“หลังจากการฝึกบำเพ็ญก็ได้เลื่อนขั้นมหาจักรพรรดิได้สำเร็จแล้ว นึกไม่ถึงว่าตระกูลเหลยจะไม่เปิดเผยข่าวนี้ออกมาเลยแม้แต่น้อย”

“เขามาแล้ว เขาจะยืนอยู่ฝ่ายไหนกันนะ”

ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิผู้เดียว สามารถพลิกผันสถานการณ์ได้!

กลับนึกไม่ถึงว่าท่านผู้เฒ่าของตระกูลเหลยจะเดินไปตรงหน้ารองเจ้าเมืองเหลยและกล่าวว่า “คารวะท่านเจ้าเมืองเหลย!”

เจ้าเมืองเหยียนกล่าว “นี่พวกเจ้า!”

ผู้นำตระกูลเหลยกล่าว “ท่านเจ้าเมืองคงจะคิดไม่ถึงกระมัง อันที่จริงแล้วพวกข้าก็คือคนที่ท่านเจ้าเมืองเหลยส่งมาก็เพื่อให้ได้เมืองเหยียนมา ตอนแรกได้ส่งนักฆ่าไปฆ่าบุตรสาวของท่านกับเย่เฉิน อยากจะให้ท่านกับตระกูลเย่โกรธแค้นกันและต่อสู้ให้ตายกันไปข้างนึง นึกไม่ถึงว่าแผนการจะล้มเหลว……”

“แต่ต่อให้แผนการนั้นล้มเหลวลง ท่านพ่อของข้าก็ได้ทะลวงพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิแล้ว ทั่วทั้งเมืองเหยียนก็ถูกลิขิตให้ตกอยู่ในกำมือของพวกข้า พวกเจ้าไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้แล้ว”

ขั้นมหาจักรพรรดิสองคน ฝ่ายตรงข้ามมียอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิถึงสองคน!

เหลยอ๋าวกล่าวถามว่า “ตอบพวกข้ามาว่าเจ้าตัดสินใจเช่นไร”

“ท่านเจ้าเมืองเหลยมาเป็นท่านเจ้าเมืองเมืองเหยียนของพวกเรา เป็นเรื่องที่ดีแน่นอน!”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!

“……”

ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิสองคน ท่านเจ้าเมืองคนเดียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาเลย!

ดูเหมือนว่าจะมีผู้คนสองในสามส่วนที่แสดงท่าทียินยอม และมีผู้คนเพียงแค่หนึ่งในสามส่วนเท่านั้นที่เลือกจะยืนฝ่ายท่านเจ้าเมือง

“ในเมื่อพวกเจ้าเลือกที่จะปกป้องท่านเจ้าเมืองผู้ไร้ประโยชน์คนเดิมผู้นี้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ตายซะเถอะ!” เหลยอ๋าวลงมืออย่างโหดเหี้ยม

ตูม!

ท่านเจ้าเมืองเหยียนขวางการโจมตีนี้ของเขาไว้ และกล่าวกับพวกว่า “พวกเจ้ารีบหนีไป!”

“คิดหนีอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!” เหลยอ๋าวกล่าว

สงครามได้เกิดขึ้นในทุกด้าน มู่เฉียนซีกล่าว “อู๋ตี้ ออกมา!”

ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่ามู่เฉียนซีอุ้มแมวน้อยตัวสีขาวตัวหนึ่งอยู่ นางโยนแมวน้อยสีขาวตัวนั้นออกไปเบา ๆ และมันก็ได้ไปอยู่ในอ้อมแขนของกู้ไป๋อี

“ปกป้องเสี่ยวไป๋เอาไว้ให้ดี อย่าให้เขาเป็นอะไรไปได้ล่ะ!”

“เสี่ยวไป๋ เจ้าอุ้มอู๋ตี้เอาไว้ หากมีอันตรายเกิดขึ้นมันจะปกป้องเจ้าเอง”

กู้ไป๋อีอุ้มอู๋ตี้อย่างแข็งทื่อ เขามองแมวน้อยหางยาวสีขาวที่อยู่ในอ้อมแขน นี่นาง……นางจะให้ชายหนุ่มเช่นเขาอุ้มแมวน้อยน่ารักตัวนี้น่ะเหรอ

อู๋ตี้กัดฟันกรอดพลางกล่าว “ทำไมล่ะ เจ้ารังเกียจข้าอย่างนั้นเหรอ ต่อให้เมื่อก่อนเจ้าจะเป็นถึงยอดฝีมือระดับสูงสุด แต่ตอนนี้เจ้าก็เป็นแค่ผู้ที่ไร้พลังวิญญาณคนนึง รับมือกับผู้ที่อ่อนด้อยกว่า เจ้ายังพอมีวิธีอยู่บ้าง แต่หากรับมือกับผู้ที่เหนือกว่าล่ะก็ เจ้าต้องตายเป็นแน่”

กู้ไป๋อีไม่ได้เปล่งเสียงกล่าวแต่อย่างใด อุ้มอู๋ตี้เดินไปอยู่ในที่ที่สงบ!

“เย่เฉิน เจ้าไปตายซะเถอะ!”

เหลยเทียนที่พ่ายแพ้การประลองให้กับเย่เฉินในครั้งก่อน ตอนนี้ก็ได้พุ่งตัวเข้ามาแล้ว ครั้งนี้จะต้องล้างความอับอายในครั้งก่อนให้จงได้

ครั้งนี้เย่เฉินไม่ได้ขาดประสบการณ์การสู้รบจริงเหมือนในครั้งก่อนแล้ว ได้รับการฝึกฝนของปีศาจเช่นนั้น เผชิญหน้ากับการโจมตีของเหลยเทียนครั้งนี้เขาสามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย

ปัง!

ท่านผู้เฒ่าเหลยพุ่งเข้ามา

“ท่านเจ้าเมืองเหลย เจ้านี่มอบให้เป็นหน้าที่ข้าจัดการเถอะ ท่านรอชอมอยู่ข้าง ๆ ก็พอ”

จากนั้นท่านผู้เฒ่าเหลยก็ได้รับมือต่อสู้กับท่านเจ้าเมืองเหยียน แววตาของเหลยอ๋าวนั้นได้จ้องมองไปที่มู่เฉียนซี

เขากล่าว “เจ้าหมอนี่มอบให้เป็นหน้าที่เจ้าก็แล้วกัน ส่วนข้าจะไปจับเหยื่อของข้า”

กล่าวจบ เขาก็พุ่งเข้าหามู่เฉียนซีทันที คิดจะคว้ามือข้างหนึ่งของนาง

ทว่า สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยก็คือ เขาคว้าเอาเงาของนาง และนางก็ได้อันตรธานหายไปต่อหน้าเขาแล้ว

เงา! เมื่อครู่ที่คว้าเป็นเพียงแค่เงาเท่านั้น

“เจ้าไก่เฒ่า เจ้าชอบถูกย่างหรือถูกจับมาสับเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนให้สุนัขกินกันล่ะ?” มู่เฉียนซีปรากฏตัวด้านหลังเขาอย่างรวดเร็ว และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“สาวน้อย เจ้าหุบปากไปซะ! ใครอนุญาตให้เจ้าเรียกข้าเช่นนี้!” เหลยอ๋าวถูกมู่เฉียนซีเรียกเจ้าไก่เฒ่าเช่นนี้ก็โกรธเกรี้ยวขึ้น

“ข้าจะเรียกเจ้าเช่นไร จำเป็นต้องให้ใครอนุญาตด้วยเหรอ” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าว

“ข้าจะต้องจับเจ้าให้ได้ แล้วจะเอาเจ้ามาทรมานอย่างโหดเหี้ยม สาวน้อย เจ้าอย่าได้กำเริบเสิบสานเกินไป”

เขาไม่เชื่อว่าผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิอย่างตนเองนั้นจะจับตัวสาวน้อยผู้นี้ไม่ได้

ทว่า ความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นกลับเหนือความคาดหมายของเขามาก!

“หลบอย่างนั้นเหรอ ข้าจะดูว่าเจ้าจะหลบไปได้ถึงเมื่อไหร่!”

ในขณะที่เขาคิดว่ามู่เฉียนซีจะหลบต่อ แต่มู่เฉียนซีกลับสร้างความประหลาดใจให้แก่เขา!

“มังกรเพลิงสังหาร!”

มังกรเพลิงสีแดงฉานพุ่งเข้ามา และผู้ที่ควรจะหลบในตอนนี้ก็เป็นเขาแล้ว

ปัง!

แววตาของเขาเผยความตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น เขากล่าวในใจว่า ‘เป็นทักษะกระบี่ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก พลังวิญญาณต่ำกว่าขั้นมหาจักรพรรดิคงจะยากที่จะต้านทานได้!’

หากไม่ใช่เพราะพลังวิญญาณของเขาถึงขั้นมหาจักรพรรดิแล้วล่ะก็ เขาคงต้องถูกเปลวไฟนี้กลืนกินเป็นแน่!

ในขณะที่เขากำลังตกตะลึงพรึงเพริดอยู่นั้น มู่เฉียนซีก็พุ่งเข้ามาโจมตีอีกครั้ง!

“ทักษะเทียนซวน!”

ตูม!

ร่างของเหลยอ๋าวกระเด็นลอยออกไป และร่วงสู่พื้นจนพื้นเกิดหลุมหลุมหนึ่ง

“ท่านเจ้าเมืองเหลย!”

เหล่าบรรดาลูกสมุนก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าท่านเจ้าเมืองเหลยของพวกเขาผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดินั้นจะถูกจักรพรรดิแห่งภูตระดับสามคนหนึ่งโจมตีจนกระเด็นลอยไปเช่นนี้

“ถุย!” เขาถุยฟันซี่หนึ่งที่หักออกมา

เขาเอามือเช็ดเลือดที่ไหลออกมาข้างปากพลางจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยสีหน้าที่โหดร้าย “สาวน้อย เมื่อครู่ ข้าประเมินศัตรูต่ำเกินไปแล้ว แต่ต่อจากนี้ ข้าจะไม่ให้เจ้าได้ใจอีกต่อไป!”

กล่าวจบ เขาก็พุ่งตัวเข้าหามู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว

ครั้งนี้เจ้าหมอนี่ต่อสู้อย่างจริงจัง โจมตีอย่างบ้าคลั่งเพื่อไม่ให้มู่เฉียนซีหลบหลีกได้ หากไม่ใช่เพราะความรวดเร็ว เกรงว่า……

“ทักษะตี้ซวน!”

“ทักษะเทียนซวน!”

ตูม ปัง ปัง!

“ทักษะกระบี่แข็งแกร่งมาก ทักษะวิญญาณก็แข็งแกร่งมาก ตราบใดที่จับตัวเจ้าได้ สิ่งเหล่านี้ก็จะต้องเป็นของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ทักษะวิญญาณกับทักษะกระบี่ที่อยู่ในมือศัตรูนั้น ช่างทำให้รู้สึกตื่นเต้นเสียจริง

มู่เฉียนซีกวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิงพลางกล่าว “ข้าว่า เจ้ากำลังฝันกลางวันอยู่มากกว่า!”

“บัวแดงพิฆาต!”

บัวแดงสีแดงฉานดอกนั้นปรากฏขึ้นส่องสว่างทั่วทั้งงานเลี้ยง

เหลยอ๋าวรับรู้ได้ถึงพลังการเข่นฆ่าอันน่าสะพรึงกลัวนั้น และในขณะที่เขากำลังจะหลบหนี เขาก็ได้ถูกบัวแดงอันน่าสะพรึงกลัวนั้นห่อหุ้มแล้ว

“อ๊า!” เสียงกรีดร้องอันเสียดแทงหัวใจดังก้องขึ้นทั่วทั้งงานเลี้ยง!

“นั่นเสียงของท่านเจ้าเมืองเหลยหนิ!”

“นั่นมันเป็นเสียงของท่านเจ้าเมืองเหลย!”

“ท่านเจ้าเมือง!”

ปัง!

ร่างของท่านเจ้าเมืองเหลยกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง

ตอนนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลอันน่าสังเวช ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น!

“ท่านเจ้าเมืองเหลยพ่ายแพ้แล้ว!”

“เขาแพ้แล้วจริง ๆ ด้วย!

“……”

ท่านเจ้าเมืองเหลยพ่ายแพ้แล้ว ท่านผู้เฒ่าเหลยจัดการกับท่านเจ้าเมืองเหยียนไม่ได้ การต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงเช่นไรนั้น ยากที่จะคาดเดาได้!

“พรวด พรวด พรวด!” ตอนนี้เหลยเทียนกระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นเลือดสีดำอีกด้วย

ดวงตาของเขาเบิกกว้างจ้องมองไปที่เย่เฉิน “เจ้า……เจ้าวางยาพิษข้า เจ้า……ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก……”

เย่เฉินกล่าว “ครั้งก่อนที่ข้าวางยาพิษเจ้า ยังแก้พิษได้ แต่ครั้งนี้พิษที่ข้าวางให้เจ้านั้น แก้ไม่ได้ เจ้าค่อย ๆ สนุกกับมันก็แล้วกันนะ!”

สีหน้าของผู้นำตระกูลเหลยพลันเปลี่ยนไปทันที “เทียนเอ๋อร์!”

รองเจ้าเมืองเหลยได้ล้มลงไปแล้ว บุตรชายของตนเองก็ล้มลงไปเช่นนี้อีก

เขาได้พบเจอกับสาวน้อยผู้วิปริตเข้าแล้ว และตอนนี้เขาทุ่มสุดตัวพุ่งไปที่ชายหนุ่มผู้ที่เย็นยะเยือกราวหิมะผู้นั้นที่ยืนอยู่ในมุมมุมหนึ่ง ตั้งแต่เริ่มต่อสู้ชายผู้นี้ยืนอยู่ในที่ที่ปลอดภัยตลอด ไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ ต้องมีปัญหาเป็นแน่