เห็นได้ว่าสำหรับโลกฝึกบู๊แล้ว หอเทียนจีจะต้องมีพลังอำนาจที่สูงมากอย่างแน่นอน
เพียงแต่ เฉินโม่ยังไม่เคยเห็นคนของหอเทียนจีปรากฏตัวออกมาก่อน
“รายชื่อเทพ ต้องเป็นรายชื่อเฉพาะสำหรับผู้แข็งแกร่งแดนเทพ! อันดับปรมาจารย์ และอันดับแดนในของเมื่อก่อน ล้วนสอดคล้องกับระดับของนักบู๊”
“แต่รายชื่อเทพ มีแค่รายชื่อของผมคนเดียวเท่านั้น หมายความว่าอย่างไร? หรือว่าหอเทียนจีจัดอันดับสำหรับผมคนเดียวโดยเฉพาะ?”
“หรือว่ามีแผนการอะไรบางอย่าง?”
ตอนนี้เฉินโม่ยังคิดไม่ออก ถ้ามีเวลาว่าง เขาจะไปสืบหาหอเทียนจี เพื่อดูว่ามันเป็นองค์กรประเภทใด
ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเฉินโม่ก็ดังขึ้น เมื่อมองหน้าจอ ถานชิวเซิงเป็นคนโทรมา
“ฮาโหล ชิวเซิง” เฉินโม่กล่าวเบา ๆ
เสียงของถานชิวเซิงดังมาก “เสี่ยวโม่ นายอยู่ที่ไหน? นายกลับมาอำเภอเฟิ่งซานแล้วใช่ไหม?”
เฉินโม่พยักหน้า “ใช่!”
“นายมันไม่รักกันจริง นายกลับมาอำเภอเฟิ่งซานแล้ว แต่ไม่มาหาฉันกับสวีจื่อหาว แล้วนายยังไม่โทรมาหาพวกเราอีกด้วย?” ถานชิวเซิงพูดเสียงดังมาก เดาว่าเขาน่าจะดื่มเหล้าเล็กน้อย
“เอาล่ะ มันเป็นความผิดของฉัน นายอยู่ที่ไหน คืนนี้ฉันจะเลี้ยงเหล้าพวกนายเป็นการขอโทษ” เฉินโม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่จำเป็น นายรออยู่ที่บ้าน ฉันกับสวีจื่อหาวจะไปหานายทันที!” ถานชิวเซิงกล่าวเสียงดัง
เฉินโม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นายจะมาหาฉัน แล้วนายรู้ได้อย่างไรว่าฉันอยู่ที่ไหน?”
ถานชิวเซิงหัวเราะและกล่าวว่า “นายจะทดสอบฉันเหรอ? คนอย่างนายถ้าไม่อยู่บ้าน แล้วจะไปไหนได้อีก?”
“ดูแล้วนายยังคงเข้าใจฉันอยู่ โอเค ฉันจะรอพวกนายอยู่ที่บ้าน พวกนายมาเถอะ!” เฉินโม่กล่าว
“โอเค รอก่อน อีกสิบนาทีก็ไปถึงแล้ว!” ดูเหมือนถานชิวเซิงจะตบหน้าอกตนเองด้วยความมั่นใจ
หลังจากวางสาย เมื่อนึกถึงเพื่อนสมัยเด็กเหล่านั้นแล้ว เฉินโม่ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโตแล้ว แต่มิตรภาพนี้ไม่เคยเปลี่ยน หายาก หายาก
หลังจากนั้นไม่นาน รถคันหนึ่งก็หยุดอยู่ที่หน้าบ้านของเฉินโม่ ถานชิวเซิงบีบแตรเสียงดังสนั่น “เฉินโม่ รีบออกมาเร็ว!”
เฉินโม่เปิดประตู มองถานชิวเซิงที่โบกมือให้เขา ยังมีสวีจื่อหาวที่ทำสัญญาลักษณ์มือมาที่เขา เฉินโม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เข้ามาข้างในเถอะ!”
ถานชิวเซิงและสวีจื่อหาวลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
หลังจากเข้ามาในบ้านแล้ว ถานชิวเซิงก็ต่อยเฉินโม่ทันที “เฉินโม่ นายไม่ได้โทรหาพวกเราเป็นเวลานาน และไม่ได้กลับมาง่าย ๆ แต่นายกลับทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ นายกลัวจะเห็นหน้าพวกเราขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
เฉินโม่ยิ้มด้วยความขมขื่นและกล่าวว่า “ฉันไม่ได้ทำตัวลับ นายพูดจาให้มันมีความน่าเชื่อถือบ้างได้ไหม?”
“นายไม่มาหาพวกเราสองคน แล้วยังไม่โทรหาพวกเราอีกด้วย ถ้าพวกเราไม่เจอคุณลุงเฉิน พวกเราคงไม่รู้ว่านายกลับมาแล้ว ถ้าแบบนี้ไม่เรียกว่าทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แล้วเรียกว่าอะไร? นายยังมาเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีก?” ถานชิวเซิงดุ
สวีจื่อหาวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ หยุดก่อกวนได้แล้ว มาพูดเรื่องหลักกันเถอะ!”
ถานชิวเซิงถึงได้ยอมปล่อยเฉินโม่ และกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องมันเป็นแบบนี้ นายยังจำหูหยางหยู่ได้ไหม?”
หูหยางหยู่ ……
ทันใดนั้น เฉินโม่ก็คิดถึงความทรงจำในอดีต ไม่รู้ว่าชื่อนี้ถูกฝังไปนานเท่าไหร่ นานจนกระทั่งเฉินโม่ลืมเธอไปแล้ว แต่เมื่อเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา เขากลับอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นสะท้าน และความคิดพลุ่งพล่านราวกับกระแสน้ำ
หูหยางหยู่ เพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมต้นของเฉินโม่ แต่น่าเสียดาย หลังจากเรียนมัธยมศึกษาปีที่หนึ่ง เธอก็ย้ายไปที่อื่น ไม่มีใครรู้ว่าเธอจากไปเพราะอะไร และไปที่ไหน?
ถึงแม้จะเป็นชาติก่อน เฉินโม่ก็ไม่รู้ว่าหูหยางหยู่ไปที่ไหน ราวกับว่าเธอหายไปจากโลกใบนี้!
อย่างไรก็ตาม เพียงเวลาสั้น ๆ ที่พวกเขาเรียนมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งด้วยกันเพียงหนึ่งปีเท่านั้น แต่ผู้หญิงคนนี้ ได้สร้างความประทับใจที่ลบไม่ออกไว้ในใจของเฉินโม่
ไม่ใช่แค่เฉินโม่คนเดียวเท่านั้น หลายคนรู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน รวมถึงถานชิวเซิงและสวีจื่อหาวด้วย
“จำได้แน่นอน แต่เธอจากไปหลังจากเรียนมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ? หรือว่านายเจอเธออีกแล้ว?” เฉินโม่ถาม เขาจำได้ว่าชาติก่อน หลังจากหูหยางหยู่จากไปแล้ว เธอไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ถานชิวเซิงน่าจะไม่เคยพบเจอเธอเช่นกัน
“เธอกลับมาแล้ว!” คราวนี้สวีจื่อหาวเป็นคนเอ่ยปาก