ตอนที่ 1379 สินค้าพิเศษ โดย Ink Stone_Fantasy
เมืองธอร์น อาณาจักรดอว์น
ตอนนี้เมืองเล็กๆ ที่อยู่ตรงตีนเขาเคจเมาเธ่นแห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่คึกคักอย่างยิ่ง
มันนอกจากจะเป็น ‘ด่านหน้า’ ของศูนย์บัญชาการเคจเมาเธ่นแล้ว ค่ายฝึกซ้อมแนวหน้าของโรงเรียนอัศวินอากาศก็ตั้งอยู่ที่นี่ด้วย
เพื่อจะรองรับการจับจ่ายใช้สอยปริมาณมหาศาลของอัศวินอากาศแล้ว ทีมวิศวกรจึงได้สร้างถนนซีเมนต์ที่กว้างขวางขึ้นมาอีกหลายสาย ปลายด้านหนึ่งก็เชื่อมต่อกับถนนหลักที่ทอดยาวจากทิศเหนือไปทิศใต้ ปลายอีกด้านหนึ่งก็เชื่อมกับท่าเรือทางเหนือสุดของอาณาจักรดอว์น การบริโภคทรัพยากรจำนวนมากย่อมต้องดึงดูดความสนใจของพ่อค้าในอาณาจักรดอว์น หลังจากสูญเสียเส้นทางการค้าที่วูล์ฟฮาร์ทกับอีเทอร์นอลวินเทอร์ไปแล้ว เกรย์คาสเซิลจึงกลายเป็นความหวังที่จะค้าขายของพวกเขา บริการที่เสนอมาก็มีตั้งแต่การขนของไปจนถึงสุรา เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่ต้องการ
เมื่อมีโอกาสทางการค้าก็ย่อมมีคน ในเวลาสั้นๆ แค่เกือบปี ขนาดของเมืองก็ขยายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ร้านเหล้า โรงแรมที่ปกติมักจะเห็นได้แต่ในเมืองใหญ่ๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
สำหรับการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ ทิลลีที่มักจะขับเครื่องบินขึ้นไปบนฟ้านั้นเป็นคนที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนที่สุด
ก่อนที่หิมะจะตกลงมา ถ้ามองลงมาจากบนฟ้าก็จะเห็นเค้าโครงของเมืองได้อย่างชัดเจน ส่วนที่มีสีหม่นๆ นั้นคือที่อยู่อาศัยเดิมของชาวเมือง แผ่นกระเบื้องบนหลังคาที่ตากแดดตากฝนมาเป็นเวลาหลายสิบปีกลายเป็นสีน้ำตาลและสีเทากระดำกระด่าง พวกมันมีจำนวนไม่เยอะ แต่ยังคงรักษาสภาพเดิมของเมืองธอร์นเอาไว้ได้อยู่ แต่พอขยับออกมารอบนอก บ้านเรือนพลันกลายเป็นสีสันสดใส
บ้านใหม่เหล่านั้นมีทั้งบ้านไม้เตี้ยๆ บ้านอิฐ แล้วก็มีบางส่วนที่เป็นบ้านซีเมนต์ เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่เกรย์คาสเซิลถ่ายทอดวิธีผลิตซีเมนต์ให้กับอาณาจักรดอว์น ขุนนางและพ่อค้าส่วนหนึ่งของอาณาจักรดอว์นก็ได้ยอมรับและเริ่มใช้วัสดุก่อสร้างชนิดใหม่นี้่ในการก่อสร้าง
ตอนนี้หิมะในเดือนแห่งปีศาจได้ทำให้ความแตกต่างระหว่างเขตที่อยู่ใหม่กับเขตที่อยู่เก่าดูแตกต่างกันน้อยลง แต่มันก็ยังพอจะมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงคร่าวๆ ของเมืองได้จากการตั้งเรียงรายของบ้านเรือนที่แตกต่างกัน
เมื่อก่อนเมืองชายแดนก็คงจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงแบบนี้เหมือนกัน
หลังส่งวานิลลาและโบรคเคนซอร์ดแล้ว ทิลลีก็เริ่มทำการฝึกซ้อมทุกวัน — เฮฟเว่นเฟลมรุ่นสองที่ทำการปรับปรุงตามคำแนะนำของเธอได้เดินทางมาถึงเมืองธอร์นเกือบ 40 ลำแล้ว เมื่อรวมกับเฮฟเว่นเฟลมรุ่นหนึ่งอีก 20 กว่าลำ ตอนนี้อัศวินอากาศได้กลายเป็นหนึ่งในพลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ของกองทัพไปแล้ว
ความจริงแล้ว สาเหตุที่กองทัพที่หนึ่งสามารถโจมตีกลับได้อย่างรวบรื่นเช่นนี้นั้นเป็นเพราะว่ามีเฮฟเว่นเฟลมคอยคุ้มครองจากบนอากาศ เมื่อเทียบกับปืนกลต่อต้านทางอากาศแล้ว เฮฟเว่นเฟลมนั้นสร้างความเสียหายให้กับอสูรสยองได้มากกว่า และเมื่อปีศาจไม่ได้มีวิธีที่จะบุกเข้ามา ทหารหน่วยปืนใหญ่จึงสามารถใช้ประโยชน์จากการยิงระยะไกลในการโจมตีใส่ปีศาจได้อย่างสบายใจ แล้วก็รีบสลายแนวยิงก่อนที่ศัตรูจะโอบล้อมเข้ามา ขอเพียงปีศาจระดับสูงไม่ได้ปรากฏตัว ศัตรูก็แทบจะไม่สามารถบุกเข้ามาหากองทัพที่หนึ่งได้
ในตอนที่ออกไปปฏิบัติภารกิจ เฮฟเว่นเฟลมจำนวนหลายสิบลำจะค่อยๆ เคลื่อนที่ไปบนรันเวย์ ก่อนจะทยอยบินขึ้นตามๆ กันขึ้นไป เครื่องยนต์ส่งเสียงดังกระหึ่มจนแม้จะมีเมืองเล็กๆ คั่นกลางอยู่ก็ยังได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้ยากที่จะใช้คำพูดมาบรรยายได้ ต่อให้อัศวินรวมกลุ่มห้อม้าตะบึงเข้ามาก็ยังไม่อาจเทียบได้ ไม่ว่าใครถ้าได้มาเห็นภาพแบบนี้ก็ต้องรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของเกรย์คาสเซิลอย่างแน่นอน
และภาพนี้ก็ได้กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองธอร์น ขุนนางชาวดอว์นจำนวนมากที่ทราบข่าวต่างก็แห่มาดูอัศวินอากาศที่เล่าลือกัน ไม่นาน แม้แต่ในเวลาที่ทำการฝึกซ้อมปกติ บนดาดฟ้าของบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ๆ ลานบินต่างก็มีผู้คนมานั่งรอดูฝูงนกเหล็กที่กางปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหล่านี้
แถมทิลลีได้ยินมาว่าที่นั่งพวกนั้นเก็บเงินด้วย
แต่แน่นอน การพัฒนาโรงเรียนอัศวินอากาศเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอุปสรรค อย่างน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตของเฮฟเว่นเฟลมแล้ว ปัญหาจำนวนนักบินที่เพิ่มขึ้นช้าเกินไปก็ค่อยๆ แสดงออกมาให้เห็น
เพราะเกณฑ์การคัดตัวนักบินนั้นค่อนข้างสูง ไม่เพียงแต่จะต้องมีพื้นฐานความรู้ แต่ยังต้องมีสมรรถภาพทางร่างกายที่สามารถปรับตัวเข้ากับการบินได้ หลังครบตามเงื่อนไขที่กำหนดแล้วถึงจะเข้าสู่การฝึกได้ ส่วนจะใช้เวลานานเท่าไรถึงจะเข้าร่วมการรบได้ก็ต้องดูพรสวรรค์ของพวกเขา พวกที่ตอนฝึกซ้อมทำได้ดี แต่พอขึ้นไปบนฟ้ากลับมือไม้ปั่นป่วนทิลลีเห็นมาเยอะแล้ว สุดท้ายนักเรียนพวกนั้นก็ต้องไปเป็นกองหนุนแทน
ถ้าไม่เป็นเพราะเฮฟเว่นเฟลมรุ่นสองลดจำนวนนักบินเหลือคนเดียว ทำให้ช่วยแก้ปัญหานักบินขาดแคลนไปได้ชั่วคราว เกรงว่าตอนนี้อัศวินอากาศคงจะประสบปัญหามีแต่เครื่องบินแต่ไม่มีนักบินแล้ว
เพื่อที่จะแก้ปัญหานี้แล้ว นอกจากการเพิ่มจำนวนรับสมัครเพื่อเพิ่มจำนวนนักเรียนฝึกหัดแล้ว ทิลลีเองก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีก
โชคดีที่พี่ชายของเธอเองก็ให้ความสำคัญกับอัศวินอากาศอย่างมากเหมือนกัน ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาแทบจะไม่ปฏิเสธข้อเสนอแนะของเธอ ปัญหานี้น่าจะได้รับการแก้ไขในตอนที่นักเรียนฝึกหัดกลุ่มต่อไปเดินทางมาถึงเมืองธอร์น
กระทั่งในตอนกลางวัน การฝึกซ้อมบินและการลงจอดก็สิ้นสุดลง
ทิลลีซึ่งเป็นอมนุษย์ไม่จำเป็นต้องนอนกลางวันเพื่อฟื้นฟูกำลัง ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ไม่ต้องรับหน้าที่เป็นครูฝึกนี้ เธอมักจะบินขึ้นไปบนฟ้าคนเดียวเพื่อที่จะพิสูจน์ความคิดที่ผุดขึ้นมาในตอนที่ทำการฝึกสอน แล้วก็เพื่อดื่มด่ำกับการบินด้วย
แต่ว่าครั้งนี้เธอสังเกตเห็นตรงพื้นที่ลานเก็บเครื่องบินในลานบินมีความผิดปกติบางอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือว่าเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินก็ล้วนแต่ไม่ได้แยกย้ายกันไปไหน หากแต่ไปรวมตัวกันอยู่บริเวณรอบๆ โรงเก็บเครื่องบิน เหมือนว่าถูกอะไรบางอย่างดึงดูดความสนใจเอาไว้
ไม่นานก็มีองครักษ์คนหนึ่งมารายงานสถานการณ์ให้เธอทราบ
“ทูลองค์หญิง ทางเนเวอร์วินเทอร์เหมือนจะส่งของล็อตใหม่มา พวกเขาต้องการให้พระองค์ไปตรวจสอบดูพ่ะย่ะค่ะ”
“ของล็อตใหม่?” ทิลลีเลิกคิ้วขึ้นมา เธอจำได้ว่าในตารางวันนี้ไม่ได้มีนัดอะไรแบบนี้เอาไว้ แต่ว่าที่นี่กับเนเวอร์วินเทอร์ห่างกันเป็นพันกิโลเมตร ถ้าทางนั้นจะทำการปรับเปลี่ยนอะไรกะทันหันมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เธอเดินไปถึงพื้นที่โรงเก็บเครื่องบิน ทุกคนต่างหลีกทางให้เธอ แต่ยังไม่ทันจะได้เห็นของที่ส่งมา เธอพลันได้ยินเสียงตะโกนเรียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
“ท่านทิลลี!”
จากนั้นเธอเห็นมอลลีวิ่งเข้ามาหาเธอ ก่อนจะกางแขนออกแล้วกอดเธอเอาไว้
ทิลลีลูบหัวสาวน้อยอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะเห็นว่าคนที่รับหน้าที่ขนของลงมาคือผู้ช่วยวิเศษ มันขยายตัวเองจนเป็นเหมือนบอลลูนสีน้ำเงิน จากนั้นจึงค่อยๆ ‘กลืน’ ตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่บนรถบรรทุกไอน้ำลงไปในท้องอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยๆ ขนเข้าไปในโรงจอดเครื่องบิน
นี่คือสาเหตุที่ทุกคนต่างมาล้อมที่นี่เอาไว้งั้นเหรอ?
ไม่สิ…ไม่ได้มีแค่นี้…
ในตอนที่สายตาของทิลลีเลื่อนไปยังตู้คอนเทนเทอร์ เธอพลันคิดถึงมาได้ว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
ตู้คอนเทนเนอร์มีทั้งหมด 3 ตู้ เมื่อดูจากวัสดุโลหะของตู้คอนเทนเนอร์แล้ว เห็นได้ชัดว่าตู้เหล่านี้เหมือนกับตู้ที่ใช้ขนเฮฟเว่นเฟลมมา เพียงแต่ว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่าเท่านั้น ตัวตู้ค่อนข้างยาว ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองด้านของตัวตู้ยังมีการวาดลายเมฆสีแดงสดเหมือนกับปีที่กำลังกางออกอย่างไรอย่างนั้น
การตกแต่งตู้คอนเทนเนอร์นั้นเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไร แต่ก็เพราะเหตุนี้มันถึงได้ดูพิเศษ
ทิลลีใจเต้นขึ้นมาทันที
‘เออใช่ เจ้าอยากได้เครื่องบินสีอะไร? ถ้าไม่มีสีที่ชอบเป็นพิเศษ อย่างนั้นก็สีแดงแล้วกัน?’
หูของเธอมีเสียงโรแลนด์ดังขึ้นมา
‘มันต่างกันยังไง?’
‘ปกติผู้ที่เป็นเจ้าแห่งท้องฟ้าก็มักจะใช้สีนี้’
เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเปิดสลักตู้คอนเทนเทอร์ตู้แรกอย่างชำนาญ จากนั้นจึงค่อยๆ ปล่อยแผ่นที่ปิดตู้ลงมา กลุ่มคนที่มองดูมันอยู่พากันอุทานตกใจออกมา
โครงสร้างลำตัวเครื่องบินแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนลำหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
………………………………………………………………..