หูหยางหยู่หันหลังแล้วเดินออกไป เพื่อนนักเรียนเหล่านั้นกระซิบกระซาบ ถานชิวเซิงและสวีจื่อหาวไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด แต่เฉินโม่ได้ยินอย่างชัดเจน

พวกเขาบอกว่านึกไม่ถึงว่าหูหยางหยู่จะสวยขนาดนี้ พวกเขารู้สึกเสียใจที่ตอนนั้นไม่ได้จีบเธอ

ถานชิวเซิงตบแขนของเฉินโม่ และกล่าวเบา ๆ ว่า “เห็นเธอแล้ว เป็นไงบ้าง? ตื่นเต้นมากใช่ไหม?”

เฉินโม่กลอกตาใส่เขา คว้าแอปเปิลที่อยู่บนโต๊ะ แล้วยัดเข้าไปในปากของถานชิวเซิง

สวีจื่อหาวหัวเราะเสียงดัง

หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนนักเรียนก็เดินเข้ามาเรื่อย ๆ ตอนที่เพื่อนมากันเกือบครบแล้ว หูหยางหยู่ก็มานั่งอยู่ในห้องของพวกเฉินโม่แล้ว

“คนมากันเกือบครบแล้ว พวกเราเริ่มงานเลี้ยงกันเถอะ!” หูหยางหยู่ยืนขึ้นและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“โอเค!”

“วันนี้หูหยางหยู่คนสวยเป็นเจ้าภาพ พวกเราจะเชื่อฟังคำสั่งของหูหยางหยู่คนสวย!” ผู้ชายคนหนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม มองหูหยางหยู่ด้วยความสายตาเร่าร้อน จนไม่สามารถปิดบังได้

หูหยางหยู่แกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไร และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณที่ทุกคนมาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ ฉันขอดื่มคารวะให้เพื่อนนักเรียนก่อน!”

หลังจากกล่าวจบ เธอยกแก้วเหล้าขึ้น แล้วจิบเล็กน้อย

มีผู้ชายสองคนโห่ร้องและกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นการดื่มคารวะให้ทุกคน งั้นก็ต้องดื่มหมดแก้ว ตามคำที่กล่าวว่า ถ้าความสัมพันธ์แน่นแฟ้ม ต้องดื่มหมดแก้ว ทุกคนเห็นด้วยหรือไม่?”

“ถูกต้อง ดื่มหมดแก้ว!” ผู้ชายหลายคนโห่ร้องทันที

ถึงแม้ว่าหูหยางหยู่จะดื่มไวน์แดง แต่ปริมาณแอลกอฮอล์ของไวน์แดงก็ไม่ต่ำ ยังคงสามารถทำให้คนเมาได้ หลังจากเมาแล้วจะรู้สึกทรมานเป็นพิเศษ

หูหยางหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอโทษด้วย ฉันดื่มเหล้าไม่เก่งจริง ๆ การจิบเมื่อสักครู่ ก็ฝืนตนเองแล้ว”

“ผมว่าช่างมันเถอะ อย่าทำให้หูหยางหยู่คนสวยเมา เพราะแฟนหนุ่มของเธอจะมาหาเรื่องพวกเราได้” เพื่อนนักเรียนชายที่สวมแว่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ดูเหมือนว่าเขากำลังช่วยหูหยางหยู่แก้ปัญหา แต่ความจริงแล้ว เขากำลังใช้คำพูดเพื่อหลอกถามว่าหูหยางหยู่มีแฟนหรือยัง

หูหยางหยู่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันดื่มเหล้าไม่เก่งจริง ๆ ทุกคนอย่าบังคับฉันได้ไหม ถ้าฉันดื่มมากเกินไป อีกสักครู่พวกคุณต้องเช็กบิลแทนฉันน่ะ!”

คำพูดประโยคนี้ของหูหยางหยู่ ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง

ผู้ชายสองคนนั้น ก็ไม่อาจเกลี้ยกล่อมเธอได้อีกต่อไป

“หูหยางหยู่ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณไปอยู่ที่ไหน? ตอนนั้นหลังจากคุณจากไปแล้ว เพื่อนนักเรียนไปถามอาจารย์ แต่อาจารย์ก็ไม่รู้ว่าคุณไปอยู่ที่ไหน?” เพื่อนนักเรียนหญิงที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหูหยางหยู่เอ่ยถาม

หูหยางหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนั้นเร่งรีบ ดังนั้นฉันจึงไม่มีเวลาบอกลาทุกคน ทางอาจารย์ก็ไม่รู้เช่นกัน เลยทำให้เพื่อนนักเรียนรู้สึกกังวลไปด้วย”

หูหยางหยู่หลีกเลี่ยงคำถามอย่างชาญฉลาด ไม่เปิดเผยว่าตอนนั้นเธอไปไหน

ถานชิวเซิงกล่าวด้วยความน้อยใจเล็กน้อย “หูหยางหยู่คนสวย ตอนนั้นคุณจากไปโดยไม่บอกลา คุณรู้ไหมว่ามันทำให้ใครบางคนรู้สึกกังวลมาก”

หลังจากกล่าวจบ ถานชิวเซิงมองเฉินโม่เหมือนตั้งใจ แต่ไม่ตั้งใจ โดยบอกเป็นนัย

เฉินโม่เตะเท้าของถานชิวเซิงที่อยู่ใต้โต๊ะ และมองเขาด้วยสายตาดุดัน

คำพูดประโยคนี้ ทำให้ทุกคนมองไปที่เฉินโม่ ตอนนั้นเพื่อนนักเรียนหลายคนเคยเห็นท่าทีที่เฉินโม่มีต่อหูหยางหยู่

หากเป็นเฉินโม่คนก่อน ตอนนี้เขาคงอายจนหน้าแดงไปแล้ว แต่ตอนนี้สีหน้าของเฉินโม่สงบ ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ

หูหยางหยู่มองเฉินโม่ด้วยสายตาแตกต่าง แต่ดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจความหมายที่อยู่ในคำพูดของถานชิวเซิง กล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ว่า “ขอโทษจริง ๆ ที่ตอนนั้นฉันทำให้เพื่อนนักเรียนกังวล”

“ตอนนี้ฉันกลับมาขอโทษทุกคนแล้ว ดังนั้นขอให้เพื่อนนักเรียนโปรดเข้าใจด้วย ผู้ใหญ่ไม่ถือสาผู้น้อย ให้อภัยฉันเถอะ”