ทุกคนในห้องโถงลุกขึ้นยืนทันที สายตาร้อนแรงของพวกเขาจ้องมองไปยังมู่เชียนฟาน ดูเหมือนพวกเขาจะมีคำถามอยู่นับพัน
จวินเสี่ยนตัวสั่น เขาลุกขึ้นยืน มือข้างหนึ่งจับโต๊ะเอาไว้เพื่อไม่ให้ล้ม เขามองไปที่มู่เชียนฟานและพูดว่า “กลับมาแล้วหรือ? เสี่ยวเสีย นาง……”
“ท่านปู่”
ทันใดนั้น เสียงที่แฝงความเย็นชาดังแทรกเข้ามาในหูของทุกคน มันเหมือนกับเสียงฟ้าร้องที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง
สายตาของทุกคนมองไปยังที่มาของเสียงนั้นทันที
จวินอู๋เสียยืนอยู่หน้าห้องโถงใหญ่ของวังหลินอ๋อง เวลาผ่านไป เด็กสาวได้เติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่กล้าหาญและสง่างาม
จวินเสี่ยนอ้าปากเล็กน้อย ริมฝีปากของเขาสั่นไม่หยุด ดวงตาที่ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชนมองไปที่หลานสาวสุดที่รักของเขา
“หลานคารวะท่านปู่เจ้าค่ะ” จวินอู๋เสียก้าวไปข้างหน้าและคุกเข่าลงตรงหน้าจวินเสี่ยน
จวินเสี่ยนยื่นมือที่สั่นเทาของเขาไปที่ไหล่ของจวินอู๋เสีย ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและตีลงบนไหล่ของนางอย่างแรง
เพียะ!
เสียงนั้นดังก้องห้องโถงใหญ่ มันดังมากจนฉูหลิงเย่อดก้าวออกมาไม่ได้ แต่เล่ยเฉินดึงแขนเสื้อของนางเอาไว้และส่ายหัวอย่างเงียบๆ
“เจ้ายังรู้จักกลับบ้านอยู่หรือ?” เสียงเข้มงวดของจวินเสี่ยนดังกังวานไปทั่วห้อง
“เจ้ายังรู้จักกลับมาหรือ! เจ้าไม่ต้องการวังหลินอีกแล้วใช่ไหม? ไม่ต้องการปู่กับอาเจ้าแล้วใช่ไหม?” มือที่จวินเสี่ยนใช้ตีนางยกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถตีลงมาได้เมื่อเห็นนางมองกลับมาที่เขาอย่างเงียบๆ จวินเสี่ยนหลั่งน้ำตาออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่และทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้
“ห้าปี ทำไมเจ้า……ถึงเพิ่งกลับมา!” จวินเสี่ยนก้มหน้า เสียงสั่นๆของเขาดังเข้าหูของทุกคนและทำให้ทุกคนตาแดงก่ำ
ห้าปีแห่งการรอคอย แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อว่าจวินอู๋เสียยังมีชีวิตอยู่ แต่ตลอด 1,800 วันนี้ ใครจะนอนหลับอย่างสงบสุขได้ลง?
พวกเขาฝันร้ายจนสะดุ้งตื่นทุกคืนไหม?
ทุกๆวันต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวนรึเปล่า?
อยู่ด้วยความกลัวว่าจะได้รับข่าวที่พวกเขาไม่อยากได้ยินมากที่สุด
จวินอู๋เสียยังคงก้มหน้าคุกเข่าอยู่บนพื้น สายตาที่มองลงต่ำของนางฉายแววขมขื่น
“เสี่ยวเสีย ยังไม่ยกชาขอขมาให้ท่านปู่อีก” เสียงแหบๆของจวินชิงดังขึ้น เขาหยิบถ้วยชาจากบนโต๊ะยัดใส่มือของจวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียถือถ้วยกระเบื้องสีน้ำเงินขาวเอาไว้ในมือ อุณหภูมิของชาส่งผ่านถ้วยมาที่มือของนาง ความอุ่นเล็กน้อยนั้นกระจายจากปลายนิ้วไปถึงหัวใจของนาง
“ท่านปู่……” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้น เย็นชามาได้หลายปี อดทนมาได้หลายปี แต่พอเงยหน้าขึ้นและเห็นจวินเสี่ยนที่น้ำตานองหน้า นางก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบอย่างแรงจนใบหน้าของนางซีดขาวด้วยความเจ็บปวด
ท่านปู่ของนาง อดีตหลินอ๋องแห่งแคว้นฉี ผู้ก่อตั้งกองทัพรุ่ยหลินและเป็นที่รู้จักดีในฐานะเทพสงครามในตำนาน เวลาผ่านไปแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น รอยเหี่ยวย่นที่ดวงตาของเขาก็เพิ่มขึ้น ผมบนหัวของเขาที่เคยมีทั้งสีดำและขาว บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหัว ผมแต่ละเส้นเป็นเหมือนเข็มที่แทงลงบนหัวใจของจวินอู๋เสีย
“ท่านปู่……ข้าขอโทษ……” จวินอู๋เสียพูดด้วยเสียงแหบพร่า แล้วยกถ้วยชาในมือขึ้นส่งให้จวินเสี่ยน จวินเสี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ เขามองไปที่จวินอู๋เสียและพูดว่า “ข้ารู้ว่าเจ้ามีความคิดของตัวเองอยู่เสมอ ข้ากับอาเจ้าถึงไม่เคยถามเรื่องของเจ้า แต่เจ้าต้องให้พวกเรารู้ว่าเจ้าปลอดภัยดี!”