“ต่อให้เจ้าอยากถล่มฟ้าให้เป็นรู เจ้าก็ต้องบอกให้ข้ากับอาเจ้ารู้ว่าเจ้ายังอยู่ดี ให้พวกเราได้รู้สถานการณ์ของเจ้า ต่อให้ฟ้าถล่ม วังหลินก็คือบ้านเจ้า ข้าคือปู่ของเจ้า เจ้าคือลูกหลานของวังหลินเราตลอดไป……” มือของจวินเสี่ยนห้อยตกลงจากโต๊ะ ราวกับกำลังระบายความกลัดกลุ้มกังวลที่สะสมมาหลายปี
จวินอู๋เสียกลั้นหายใจ ไม่กล้าพูด นางกลัวว่าวินาทีที่เปิดปาก นางจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จากสิ่งที่นางเก็บสะสมมาตลอดหลายปีนี้
นางเข้มแข็งได้ ไร้ความกลัวได้ ไม่ล้มลงได้……ต่อให้พวกเขาต้องแยกจากกันตลอดไป นางก็สามารถไปต่อได้ด้วยความหวังเสี้ยวสุดท้าย……
แต่……
สิ่งเดียวที่นางไม่สามารถเผชิญหน้าได้คือความอบอุ่นจากคนที่นางรัก นางกลัวว่าหากนางมองเพียงแค่แวบเดียว ความเข้มแข็งของนางจะพังทลาย
นั่นคือจุดอ่อนของจวินอู๋เสีย เป็นสิ่งที่นางไม่สามารถหลบหนีได้ แต่มันก็เป็นสิ่งที่มีค่ามากจนนางไม่สามารถละทิ้งไปได้
“วันนี้เจ้าต้องสัญญากับข้า ในอนาคตไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร เจ้าต้องบอกข้า! ปู่ของเจ้าอาจจะแก่และไร้ประโยชน์ แต่ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ใครหน้าไหนก็อย่ามารังแกหลานสาวข้า! ต่อให้ต้องสละชีวิตนี้ แต่เจ้าจะได้รับความไม่เป็นธรรมไม่ได้! จำไว้ให้ดี!” เป็นครั้งแรกที่จวินเสี่ยนพูดกับจวินอู๋เสียด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง นี่เป็นความห่วงใยแบบหนึ่งที่ผู้ใหญ่มีให้กับลูกหลานของตน เป็นสายใยที่ตัดไม่ขาด อย่างที่พูดกันว่าเลือดข้นกว่าน้ำ
“ท่านปู่……ข้า……จะจำไว้” เสียงของจวินอู๋เสียสั่นเล็กน้อย นางพยายามข่มกลั้นบางสิ่งที่กำลังจะพังทลายลงได้ทุกเมื่อ
จวินเสี่ยนถอนหายใจเบาๆ พยายามอย่างเต็มที่ที่จะระงับกระแสอารมณ์ที่หลั่งไหลเข้ามาในส่วนลึกของหัวใจ เขาหันหน้าหนีและเช็ดน้ำตาอย่างเงียบๆ
เทพสงครามผู้ไม่เคยพ่ายซึ่งเป็นที่เคารพทั่วทั้งอาณาจักรล่างไม่สามารถทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าหลานสาวของเขาได้ ไม่มีอะไรเอาชนะสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของครอบครัวได้
จวินเสี่ยนสงบสติอารมณ์และยื่นมือไปรับถ้วยชาจากจวินอู๋เสียมาดื่ม
จวินชิงที่ยืนอยู่ข้างๆถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาพยายามปกปิดความรู้สึกในแววตาของเขาและพยายามรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้อย่างเต็มที่
ท่านพ่อ กลัวว่าเสี่ยวเสียจะได้รับความคับแค้นใจ
พวกเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนจากประมุขวิหารหยกวิญญาณ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ที่นั่น แค่ฟังเขาเล่าก็ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างจวินอู๋เหยาและจวินอู๋เสียไม่ใช่ธรรมดา และเหรินหวงก็เป็นอาจารย์ปู่ของจวินอู๋เสีย รวมกับการเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าของเยี่ยนปู้กุย พวกเขาไม่กล้าคิดเลยว่านางผ่านช่วงห้าปีนี้มาได้อย่างไร ตลอดห้าปีที่ผ่านมา นางมีค่ำคืนที่สงบสุขบ้างไหม? ต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายและนอนไม่หลับหรือเปล่า?
“ลุกขึ้นเถอะ” จวินเสี่ยนดื่มชาของจวินอู๋เสียแล้วพูดอย่างอ่อนโยน
จวินอู๋เสียลุกขึ้นอย่างเงียบๆ และยืนอยู่ตรงหน้าจวินเสี่ยน
“ยืนงงอะไรอยู่ได้ นั่งสิ!” จวินเสี่ยนตบที่เก้าอี้ข้างๆเขา
เก้าอี้ตัวนั้นเตรียมไว้สำหรับนางโดยเฉพาะ ตั้งแต่นางออกจากอาณาจักรล่าง ก็ไม่มีใครเคยนั่งเก้าอี้ตัวนั้นเลย จวินเสี่ยนเคยพูดไว้ว่าที่นั่งนี้สำหรับจวินอู๋เสียเท่านั้น คนอื่นห้ามนั่ง
จวินอู๋เสียพยักหน้าและนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆจวินเสี่ยนอย่างเชื่อฟัง พวกเฉียวฉู่ที่มากับจวินอู๋เสียพากันยิ้มออกมาเมื่อเห็นนางได้กลับมารวมตัวกับครอบครัวของนางในที่สุด
เสี่ยวเสีย ได้กลับบ้านซะทีนะ
ในอนาคต ไม่ว่าจะเสี่ยงชีวิตแค่ไหน ศัตรูจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ยังมีสถานที่ที่เรียกว่า ‘บ้าน’ อยู่เสมอ มันจะคอยปกป้องนางจากลมและฝนได้ แม้ว่า ‘บ้าน’ หลังนี้จะไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน แต่มันก็เป็นที่พักพิงที่อบอุ่นที่สุด