ส่วนที่ 4 ภาคความปรารถนาจากบูรพา ตอนที่ 131 แผนที่เมืองจิงตู

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

เมื่อได้ยินคำว่า ‘ลูกหมี’ ถังซานสือลิ่วก็นึกถึงเซวียนหยวนผ้อ เขายิ้ม แต่ครั้งนี้เป็นแห้งๆ

เขายังคงอยู่ในสำนักฝึกหลวง แต่ก็เริ่มคิดถึงคนที่ไม่ได้อยู่ในสำนักฝึกหลวงแล้ว หวนคะนึงถึงเวลาที่เขามีในสำนักฝึกหลวง

ช่วงเวลานี้งดงามหาใดเปรียบ ควรค่าให้จดจำ น่าเสียดายที่คืนนี้ เมื่อเขาจากไปก็คงไม่ได้กลับมาแล้ว

“เข้าใจแล้ว” เขากล่าวกับประมุขรองตระกูลถัง “ข้าจะไปกับท่าน”

ประมุขรองตระกูลถังมองเขาอย่างสุขุมพลางหัวเราะเงียบๆ อีกครั้ง ปากอ้ากว้างท่าท่างตลกอย่างยิ่ง

เวลาผ่านไป เขาก็หุบยิ้มลงได้ในที่สุด “นับว่าดีมาก”

กล่าวสี่คำจบเขาก็นำตัวถังซานสือลิ่วออกจากประตูสำนักฝึกหลวงไป

เจ๋อซิ่วและศิษย์สถานศึกษาหนานซีก็ไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากมองร่างของพวกเขาหายไปในความมืด

ประมุขรองตระกูลถังนำตัวถังซานสือลิ่วเดินออกจากตรอกไป๋ฮวาเข้าสู่ถนนใหญ่ รถม้าที่ไร้สัญลักษณ์ได้รอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว

ครั้นเห็นภาพนี้ ยอดฝีมือจากกองทัพอวี่หลินที่เฝ้าดูสำนักฝึกหลวงจากเงามืดก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาและสงบลงอย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าจะเป็นทหารม้านิกายหลวงหรือกองทัพอวี่หลิน พวกเขาต่างก็ทำเป็นไม่เห็นรถม้าคันนั้น ไม่เห็นประมุขรองตระกูลถังกับถังซานสือลิ่วขึ้นรถไป

ตระกูลถังแห่งเวิ่นสุ่ยมีตัวตนที่น่ากลัวถึงเพียงนี้

แม้ฉากหน้าจะดูราวกับว่าอำนาจของพวกเขาไม่ได้เข้ามาในจิงตูหลายปีแล้ว แต่ความเป็นจริงพวกเขายังมีอิทธิพลที่ยากจะจินตนาการได้

เพราะสิ่งที่ทำให้คนเป็นดั่งเทพเจ้าได้นั้นหาใช่ความศรัทธาหรือความแข็งแกร่ง หากแต่เป็นเงิน

รถม้าวิ่งผ่านจิงตูอันมืดมิด ล้อที่ลงค่ายกลเอาไว้ไม่ส่งเสียงใด ไม่ว่าจะวิ่งผ่านหินเทาหรืออิฐแดง ประหนึ่งเป็นผีก็มิปาน แม้แต่ราชรถเหินฟ้าที่ลากด้วยม้าบินสีขาวขององค์หญิงผิงก็ยังไม่เร็วไปกว่ารถม้าที่ดูธรรมดานี้

คนในรถม้าคันนี้ก็ไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนแม้แต่น้อย ทว่าถังซานสือลิ่วกลับไม่รู้สึกสบายเลยสักนิดเดียว

เขาถาม “ตระกูลต้องการทำอะไรกันแน่”

ประมุขรองตระกูลถังตอบ “เจ้าจะได้เห็นในไม่ช้า”

เพราะพวกเขาเดินทางเร็วเกินไป ลมจึงพัดม่านรถม้าเปิดออก ขณะที่ถังซานสือลิ่วมองดูถนนลอยผ่านไปและเห็นประตูร้านที่ปิดสนิท เขาก็ครุ่นคิดอยู่เงียบๆ

ในส่วนลึกสุดของตลาด รถม้าก็หยุดลง ที่แห่งนี้ก็คือที่รวมพลของโรงพนันเทียนเซียง

ก่อนจะเข้าประตูที่นำลงสู่ใต้ดิน ถังซานสือลิ่วหยุดและถามประมุขรองตระกูลถัง “ท่านต้องการจะยึดครองสินทรัพย์ของหอความลับสวรรค์ในจิงตูเช่นนั้นหรือ”

ประมุขรองตระกูลถังเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ค่อนข้างประหลาดใจว่าอีกฝ่ายคาดเดาเป้าหมายที่แท้จริงของตระกูลในเวลาอันสั้นได้อย่างไร

“ต่อให้สถานการณ์ในต้าลู่จะเข้าสู่ความโกลาหล แต่หอความลับสวรรค์จะรับมือได้ง่ายอย่างนั้นหรือ หากผู้เฒ่าความลับสวรรค์มาจิงตูจะทำอย่างไร”

หากจะต่อกรกับหอความลับสวรรค์ ก็ต้องรับมือกับผู้เฒ่าความลับสวรรค์เสียก่อน

ต่อให้จักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์เทียนไห่เชิญผู้เฒ่าความลับสวรรค์มายังจิงตูเพื่อช่วยเหลือ แต่เหตุใดตระกูลถังถึงได้คาดคิดว่าผู้เฒ่าความลับสวรรค์จะต้องตายเป็นแน่

เป็นที่รู้กันว่าผู้เฒ่าคนนี้มีความสามารถในการเข้าใจความลับสวรรค์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำของแปดมรสุมอีกด้วย

“ผู้เฒ่าความลับสวรรค์จะไม่มายังจิงตู” ประมุขรองตระกูลถังเดินไปตามทางใต้ดินอันมืดมัว กล่าวโดยไม่หันหน้ากลับมา “เพราะว่าเขากำลังจะตาย”

ถังซานสือลิ่วเพิ่งจะยกเท้าขึ้นก็วางลงพลัน ยืนอึ้งค้างอยู่อย่างนั้น

ผู้เฒ่าความลับสวรรค์กำลังจะตายเช่นนั้นหรือ เพราะเหตุใดกัน

“ในบรรดายอดฝีมือเขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ในยุคนี้ เขากับใต้เท้าสังฆราชเป็นสองคนที่อายุมากที่สุด ในเมื่อพวกเขาไม่อาจบรรลุขั้นอำพรางเทพ ก็มิอาจหลุดพ้นจากสังสารวัฏ  เกิด แก่ เจ็บ ตายได้”

ประมุขรองตระกูลถังเดินต่อไปพร้อมกับกล่าวอย่างใจเย็น “ในหานซาน ตอนที่เขาพยายามจะกักขังราชามาร เขาก็ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ตายเร็วขึ้นอีก”

ถังซานสือลิ่วเดินตามและถาม “แล้วจักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์ล่ะ พวกท่านมั่นใจหรือว่านางจะแพ้”

ประมุขรองตระกูลถังอธิบาย “ความแข็งแกร่งของจักรพรรดินีศักดิ์สิทธิ์เทียนไห่นั้นอยู่ที่ใจอันโหดเหี้ยมของนาง เฉินฉางเซิงเข้ามาในจิงตูได้สองปีแล้ว แต่นางไม่เคยลงมือเลย แม้นางต้องการจะฆ่าเขาในตอนนี้ มันก็สายไปแล้ว”

ประตูเหล็กหนาหนักด้านหลังพวกเขาปิดลงช้าๆ ปิดกั้นจิงตูไว้เบื้องนอก

ห้องใต้ดินกว้างใหญ่ ทว่าไม่มืดมิดแม้แต่น้อย มีไข่มุกราตรีและหยกเพลิงวางอยู่ทั่วไปเพื่อให้ความสว่าง ที่นี่ก็ไม่สงบเงียบเช่นกัน เพราะมีคนอยู่ทั่วไปหมด

มีนักบัญชีหลายร้อยคนอยู่ที่โต๊ะกำลังคัดลอกบางสิ่ง คำนวณบางอย่าง โต๊ะตรงหน้าของแต่ละคนมีเอกสารกองสูง

“พวกเขากำลังทำอะไร” ถังซานสือลิ่วถาม

ประมุขรองตระกูลถังตอบ “สิ่งที่ตระกูลลถังให้ความนับถือมากที่สุดคือสิ่งใด”

ถังซานสือลิ่วไม่อาจคิดคำตอบได้

ตระกูลถังแห่งเวิ่นสุ่ยมั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในต้าลู่ แม้แต่หอความลับสวรรค์ก็มิได้เหนือล้ำกว่า ก่อนที่ราชสกุลเฉินจะก่อตั้งราชวงศ์ต้าโจว ตระกูลถังก็เป็นตระกูลถังอยู่ก่อนแล้ว ตระกูลถังทำธุรกิจทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ของวิเศษ เสบียงอาหาร แก้วผลึก เหมือง… หากมีสิ่งใดที่พวกเขาบูชาที่สุดก็ควรจะเป็นเงินไม่ใช่หรือ

พวกเขาเดินมาในห้องที่อยู่ลึกสุดของห้องใต้ดิน หัวหน้าปฏิคมของโรงพนันเทียนเซียงสามคนที่อยู่ที่นี่มองไปทางถังซานสือลิ่วที่อยู่ด้านหลังประมุขรองตระกูลถังด้วยสีหน้าประหลาด

พวกเขาทำงานในส่วนนี้มานานกว่าหนึ่งปี ทว่าไม่เคยเผยให้เขาได้ทราบ

นี่คือโรงพนันเทียนเซียง ฉากหน้าคือถังซานสือลิ่วได้ยึดมาเป็นของตระกูลเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีกลายโดยอาศัยจังหวะการกำเนิดขึ้นใหม่ของสำนักฝึกหลวง

ตระกูลของเขาได้เข้ายึดครองทุกอย่างแบบลับๆ โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิด

เขากำลังวุ่นวายกับการจัดการเรื่องของสำนักฝึกหลวง ดังนั้นการจัดการโรงพนันเทียนเซียงนั้นเขามอบให้เป็นหน้าที่ของปฏิคมที่ตระกูลส่งมา ดังนั้นโรงพนันเทียนเซียงย่อมกลายเป็นสินทรัพย์ของตระกูลโดยปริยาย

ใช่แล้ว เขาเป็นหลานรักของตระกูลถังแห่งเวิ่นสุ่ย แต่ในเหตุการณ์สำคัญเช่นนี้ เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไร

อย่างไรก็ตาม สำหรับปฏิคมเหล่านี้ อีกหลายปีต่อจากนี้ถังซานสือลิ่วต้องได้เป็นประมุขของตระกูลถังอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แม้ว่าสิ่งที่ทำในตอนนี้ไม่เชิงว่าเป็นการทรยศ แต่ก็ไม่ต่างกันมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง

“ตระกูลถังอย่างไรก็คือตระกูลถังของตระกูลถังวันยังค่ำ ไม่มีทางเป็นตระกูลถังของคนเพียงคนเดียว”

ประมุขรองตระกูลถังยกกาน้ำชาขึ้นดื่มจากกาโดยตรง จากนั้นก็เดินอยู่ตรงหน้าผนังและกล่าวโดยหันหลังให้กับปฏิคมทั้งสาม “ทำเรื่องนี้ให้ดี แล้วตระกูลถังจะไม่มีวันทำกับพวกเจ้าอย่างอยุติธรรม”

หัวหน้าปฏิคมทั้งสามมองไปทางถังซานสือลิ่วและรับคำเบาๆ

ประมุขรองตระกูลถังขยับถ้วยชาเบาๆ และแผนที่กว้างยาวเจ็ดฉื่อซึ่งแขวนอยู่บนผนังก็กางลงมา

แผนที่นี้สร้างขึ้นจากไหมทองที่ทนทานที่สุด วาดขึ้นด้วยน้ำหมึกแดนใต้ชั้นดีที่สุด เป็นหมึกที่ผสมไว้ด้วยถ่านไม้ ภายใต้แสงของมุกราตรีและหยกเพลิง มันดูชัดเจนอย่างยิ่ง

นี่คือแผนที่เมืองจิงตู ซึ่งวาดอย่างละเอียดที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวังหลวงหรือวังหลี หรือบ้านเรือนของคนธรรมดาทั่วไป ก็มีอยู่ครบโดยไม่ยกเว้น

ประมุขรองตระกูลถังถือกาน้ำชาไว้ในมือซ้ายในขณะสำรวจมองแผนที่ ใบหน้าเผยความพึงพอใจ “รายงาน”

หัวหน้าปฏิคมเข้าแถวตามลำดับ นำเอกสารหนาออกมาจากออกเสื้อและเริ่มทำการรายงาน

“สวนจิงเหอยืนยันแล้ว ความแข็งแกร่งลดลงสาม-สอง-สาม”

“ถนนใต้หงจูยืนยันแล้ว ความแข็งแกร่งระดับต้น”

“เจี้ยงกงเป่ยหลี่ ไม่อาจยืนยันได้ ในวันที่ไท่จงตาย มีนางกำนัลมากมายถูกฝังร่วมกับเขา ปราณหยินอาจส่งผลรบกวน”

“ไป๋จือฟางเป่ยหลี่ ยืนยันแล้ว ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหนึ่ง-สี่-หนึ่ง”

……