GGS:บทที่ 1040 ไม่ใช่บั่นทอน แต่เป็นการส่งเสริม

ชายหนุ่มหลายคนได้กลับมายังอะพาร์ตเมนต์ของพวกเขาหลังจากทำงานเสร็จ พวกเขาได้ชวนกันแวะซูเปอร์มาร์เก็ตแถวนั้นเพื่อหาขนมและเบียร์ดื่มเพื่อเป็นรางวัลประจำวัน
แต่ตอนที่กำลังจะคิดเงิน พวกเขาก็ได้สังเกตเห็นบุหรี่ของซูจิ้ง
“เฮ้ นี่มันบุหรี่ของซูจิ้งที่ร่ำลือกันนั่นรึเปล่า”
“หืม? บุหรี่คัดพิเศษเหรอ”
“ฉันก็ว่าใช่นะ นายอาจจะไม่รู้เพราะมัวแต่วุ่นทั้งวัน นี่เป็นบุหรี่ที่ซูจิ้งร่วมมือกับภาครัฐในการผลิต วันนี้ทั้งวันมีการโฆษณาไปทั่วเลยทั้งช่องทีวีเล็ก ใหญ่ แม้แต่บนเน็ต
เห็นเขาบอกว่าด้วยการพัฒนาของซูจิ้งทำให้บุหรี่นี้ไม่เป็นผลเสียต่อร่างกายอีกต่อไป ฉันว่าพวกภาครัฐต้องคุยโม้เพราะกลัวไม่มีใครซื้อมากกว่า
เท่าที่ดูฉันว่าภาครัฐอยากจะแทนที่บุหรี่ในท้องตลาดด้วยบุหรี่ของซูจิ้งทั้งหมดแหงๆ”
“ถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่เท่ากับทำเงินให้หมอนั่นหรอกเหรอ”
“เอาน่า ลองดูเดี๋ยวก็รู้”
“ฉันไม่ซื้อหรอกนะ ที่ถูกสุดก็ต้องห้าสิบหยวนแน่ะ”
“ฉันก็ไม่เอานะ อุตส่าหาเงินมาทั้งวันเพียงเพื่อซื้อบุหรี่ซองเดียวแบบนี้ ฉันไม่หลงกลโง่ๆซื้อสูบแน่นอน”
ในที่สุดก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ใส่ใจมากเรื่องเงินและซื้อไปซองหนึ่ง หลังจากออกมาข้างนอก ชายคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะแกะซองบุหรี่แล้วเอาออกมาสูบหนึ่งมวน
เมื่อจุด ควันของมันไม่ได้ดูแตกต่างอะไรกับบุหรี่ทั่วๆไป แต่เพียงเมื่อควันนั้นได้ลอยมาเตะจมูกเขาเท่านั้น ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายเพราะมันหอมมาก
เขาได้สูบบุหรี่ไปหนึ่งทีแล้วพ่นควันออกมา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกสดชื่นในทันที นี่ทำให้เขาอดไม่ได้ที่สูบให้เต็มปอดอีกครั้งหนึ่ง เขาได้พยายามกลั้นลมหายใจอย่างที่สุดเพราะเสียดายหากต้องพ่นของดีออกมา จนถึงที่สุดก็ต้องพ่นออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“โคตรสุด”
“ทำไมมันหอมขนาดนี้เนี่ย กลิ่นแบบนี้มันบุหรี่ชั้นดีชัดๆ”
“ขอมวนนึง”
“ฉันก็ด้วย”
“เฮ้เฮ้เฮ้ ใครกันที่บอกออกมาว่าไม่โง่พอที่จะซื้อน่ะ ยังมามีหน้ามาแย่งฉันสูบอีกเนี่ยนะ ไม่มีทางโว้ย อยากได้ไปซื้อเองนู่น” ชายหนุ่มพูดเสร็จก็ได้หันไปสูบต่ออย่างไม่แคร์และไม่คิดจะให้ใครแม่แต่น้อย
นี่ทำให้เพื่อนๆที่มานึกอยากอย่างที่สุด แต่เดิมพวกเขาแค่ต้องการจะแกล้งหมอนี่ตอนซื้อก็เท่านั้นเอง คิดไม่ถึงว่าคำพูดของตัวเองจะมาค้ำคอแบบนี้

ในที่สุดพวกเขาก็อดลนทนไม่ได้และกลับเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตและซื้อติดไม้ติดมือมาคนละซอง หลังจากนั้นทุกคนก็ได้หยิบขึ้นคนละมวน แล้วตัวกันสูบอย่างดูดดื่ม
“เทพซูนี่ยังไงก็เป็นเทพซูอยู่วันยังค่ำแหะ แม้แต่บุหรี่เขาก็ยังทำได้ดีแบบสุดๆ”
“บุหรี่นี่สมควรจะทำมาจากยาสูบคุณภาพดี ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงแพงนัก”
ถึงทุกคนจะพูดแบบนั้นแต่สิ่งที่ทุกคนในที่นี้ไม่รู้ก็คือบุหรี่นี้เป็นได้มาจากต้นพันธุ์ที่โตได้ไม่ดี เศษใบที่ร่วงหล่นระหว่างการผลิต และใบยาสูบที่อบไม่ได้คุณภาพเท่านั้นเอง นี่ถือได้ว่ายังห่างไกลจากคุณภาพสูงที่ถ้าจริงของใบยาสูบแห่งไชร์มากนัก
ถึงจะบอกว่าเป็นของคุณภาพไม่ดี แต่อย่างน้อยๆพวกมันก็ยังคงรักษาไว้ถึงสรรพคุณที่ไม่ทำร้ายร่างกายผู้สูบและรสชาติที่เหนือล้ำกว่าบุหรี่ทั่วไป

“บุหรี่ของซูจิ้งเหรอ?” ตอนที่โจวจือหยุนกำลังกลับบ้านหลังจากทำงานเสร็จแล้ว เขาได้เดินผ่านร้านข้าแห่งหนึ่งก็ได้เห็นโฆษณาบุหรี่ของซูจิ้งจึงอดไม่ได้ที่จะยืนมอง
“น้องชายคนนั้นน่ะไม่คิดจะลองดูสักกล่องเหรอ พี่ชายคนนี้ขอบอกตรงๆเลยนะว่าบุหรี่ยี่ห้อนี้สุดยอดมากจริงๆ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าใครซื้อไปก็ต้องกล่าวชมกันทุกคน” พนักงานร้านที่เห็นโจวจือหยุนยืนมองป้ายโฆษณาอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา

“อืมมมมม ห้าสิบหยวนสินะ” โจวจือหยุนในตอนนี้คิดว่าจะซื้อมาสักซองอยู่เหมือนกัน ในฐานะแฟนคลับพันธุ์แท้ของซูจิ้งแล้วเขาย่อมอยากจะอุดหนุนซูจิ้งทุกเมื่อหากเขาสามารถ
แถมก่อนหน้านี้เขาเองก็ต้องประสบกับประสบการณ์ประทับใจจากการกินข้าวสีน้ำเงินมาแล้ว จึงไม่แปลกที่เขาจะซื้อบุหรี่นี่สูบอย่างไม่ต้องคิดมาก เพราะมันเข้าถึงได้ง่ายกว่า
ทันทีที่ได้บุหรี่มาหนึ่งซอง โจวจือหยุนก็หยิบขึ้นมาหนึ่งมวนในทันที และในทันทีที่เขาได้สูบเข้าไปหนึ่งฟืดในตอนจุด ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างและสูบเข้าไปเต็มปอดในทันที พร้อมทั้งใบหน้าที่แสดงออกถึงความสดชื่นแบบสุดๆ

ในบาร์สำหรับของกินเล่นแห่งหนึ่ง คนขายได้จุดบุหรี่สูบอย่างเพลิดเพลิน ทันใดนั้น ภรรยาของเขาก็ได้รีบเข้ามาแตะไหล่ในทันทีพร้อมพูดขึ้นว่า “ต่อให้บุหรี่ของซูจิ้งจะดียังไงก็ตามแต่นี่เวลางานนะคุณไม่ควรจะมาสูบแบบนี้ อีกอย่าง มันราคาซองละตั้งห้าสิบหยวนเลยนะ พวกเราไม่มีเงินพอที่จะสูบได้ทุกวันขนาดนี้หรอก
นึกถึงลูกของพวกเราที่กำลังเข้ามหาวิทยาลัยมั่งสิ ถ้าคุณยอมอดสักหน่อยล่ะก็เราจะเก็บเงินไว้ให้เขาได้อีกนิดหน่อยก็ยังดี ”

“ฉันไม่ได้ไร้วิสัยทัศน์ขนาดนั้นหรอกน่า ที่ฉันสูบนี่ไม่ใช่เพราะว่ามันเพลินหรอกนะ ฉันทำเพื่อธุรกิจล้วนๆเลย” เจ้าของร้านพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ห้ะ อย่างคุณเนี่ยนะทำเพื่อธุรกิจ” ฝ่ายภรรยาพูดพร้องถลึงตาใส่ในทันที
“ไม่เชื่อฉันเหรอ เดี๋ยวเราคอยดูแล้วกัน” เจ้าของร้านพุดออกมาพลางยักไหล่ทำหน้าเหรอหราใส่
ในตอนนั้นเองที่เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนหลังเลิกงาน คนกลุ่มหนึ่งได้เปิดร้านเข้ามาเพื่อหาอะไรกินเล่นและนั่งพัก ทันทีพวกเขาเข้ามาก็ได้ทำท่าดมอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะหันมาถามเจ้าของร้านว่า
“เฮ้ ลูกพี่ บุหรี่ที่ลูกพี่สูบนี่ยี่ห้ออะไรเนี่ย ทำไมถึงได้หอมนักล่ะ” ชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะถามออกมาในทันทีที่ได้กลิ่นบุหรี่ มันหอมขนาดที่ว่าแม้แต่คนไม่สูบบุหรี่ก็ยังรู้สึกหอมได้
“บุหรี่ของซูจิ้ง” เจ้าของร้านพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ บุหรี่ที่ร่ำลือกันนี่เอง” ชายวัยกลางคนที่ได้ยินอดอุทานพร้อมส่งสายตาที่เปล่งประกายเสียไม่ได้
“มันหอมจนอดไม่ได้ที่จะสูดเข้าไปเต็มแปลกเลยทีเดียว”
“เห็นเขาว่ากันว่ามันไม่มีผลเสียต่อร่างกายด้วยนะ ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า”
“ก็ลองรุ่นห้าสิบหยวนดูสักกล่องสิ เดี๋ยวก็รู้”
เมื่อได้ยินดังนั้น แต่ละคนก็อดไม่ได้ที่จะซื้อกันไปคนละกล่อง ตอนแรกๆนั้นก็มีเพียงไม่กี่คนที่แบ่งๆกันมาซื้อ แต่เพียงพักเดียว ก็มีคนมารอต่อแถวกันซื้อเต็มไปหมด
นี่เองก็ทำให้ภรรยาของเจ้าของร้านอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชมเชยสามีตัวเองอยู่ในใจ ตอนแรกที่เธอไม่เชื่อก็ต้องยอมเชื่อคำพูดของเขาในที่สุด
แต่ทันทีที่เธอเห็นเขาทำท่าจะหยิบออกมาอีกมวนแล้ว นั่นเองก็ทำให้ความจริงที่เขาเก็บงำไว้เปิดเผยออกมา จนทำให้เธออดที่จะบิดหูคนที่เป็นสามีเสียเดี๋ยวนั้นเลยมิได้

“เลิกงานแล้ว เลิกงานสักที” หลังจากเสร็จงานแล้ว เฉาเล่ยอดไม่ได้ที่จะวิ่งออกไปในทันที
“อ้าวเฮ้ย จะรีบไปไหนล่ะนั่น” หวังเสี่ยวอดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
“หืม พี่ไม่ได้ยินเหรอว่าบุหรี่ของพี่จิ้งวางตลาดวันนี้น่ะ” เฉาเล่ยพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
“บุหรี่ของซูจิ้ง….ห้ะ บุหรี่นั่นน่ะนะ” หวังเสี่ยวและจ้าวหมิงที่ได้ยินก็ตาเป็นประกายในทันที พวกเขาเองก็ได้พาซูจิ้งไปช่วยงานของพวกเขาอยู่บ่อยครั้งจนทำให้ได้มีโอกาสสูบอยู่บ้าง

พวกเขาต้องยอมรับในทันที่ได้สูบว่าบุหรี่ของซูจิ้งนั้นสุดยอดและหอมหวลตราตรึงใจจนมาถึงทุกวันนี้ เฉาเล่ยเองก็เคยฉีกยิ้มเพื่อขอจากซูจิ้งอยู่หลายครั้งแล้วแต่ว่าซูจิ้งนั้นไม่ยอมให้เขาสักที แม้แต่ยอมจ่ายเงินให้เขาก็ไม่เคยจะได้มาเลยสักซองเดียว
“ไปซื้อมาลองดูกันสักซองก็แล้วกัน” หวังเสี่ยวพูดออกมาในทันที ยังไงซะนี่เป็นช่วงเวลาเลิกงานของเขาแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน
ทั้งหมดได้ตรงดิ่งไปยังร้านค้าที่ใกล้ที่สุดในทันที พวกเขาซื้อมากันคนละซองและรีบจุดสูบกันอย่างไว
“รสชาติเยี่ยม กลิ่นหอมยอด” หวังเสี่ยวพูดออกมาด้วยความสดชื่น
“ถึงแม้จะไม่ดีเท่าที่เคยสูบจากของซูจิ้งแต่รสชาติก็ดีทีเดียว” เฉาเล่ยเองก็พูดออกมาด้วยท่าทีสดชื่นเช่นเดียวกัน
“จริง แม้ไม่ดีเท่าแต่สุดยอดกว่าของทั่วไป” จ้าวหมิงเองก็กล่าวชมออกมา
ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้สูบบุหรี่ที่ซูจิ้งพกอยู่นั้นนั่นก็คือใบไม้จากโลกแห่งเซียน หากมองกันด้วยเรื่องสรรพคุณล่ะก็แน่นอนว่าใบยาสูบแห่งไซร์นี้ยังถือว่าห่างไกลนัก บุหรี่ที่พวกเขาซื้อมานี้แห่งความสดชื่นแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ใบไม้แห่งโลกเซียนนั้นมีสรรพคุณในการเติมเต็มจิตวิญญาณ หากสูบนานๆเข้ายังช่วยเพิ่มปริมาณจิตวิญญาณได้เป็นอย่างดี นี่คือสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามหากพูดถึงความหอมและรสชาติแล้วบอกได้เลยว่าใบยาสูบแห่งไชร์นี้ถือว่าเหนือล้ำกว่า

ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ที่คล้ายๆกันนี่ต่างก็เกิดขึ้นแทบจะทุกพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ทั่วทั้งประเทศ คนส่วนใหญ่นั้นทำได้เพียงไขว่คว้าและทดลองบุหรี่เกรดห้าสิบหยวนนี่เท่านั้น
แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้เหล่าคนรวยหลายๆคนอย่างถังฮ่าว อันจือฮ่าว และผู้อาวุโสหวู่ต้องกักตุนกันไปกว่าสิบ ยี่สิบคอตตอน บางคนตอนไว้ร้อยคอตตอนเลยเห็นจะได้ และคนที่สามารถตุนได้ร้อยคอตตอนนั้นก็หนีไม่พ้นคนรวยอย่างผู้อาวุโสหวู่และอันจือฮ่าวนั่นเอง

อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะซื้อไปมากเท่าไหร่ แต่ละคนก็อดไม่ได้ที่จะสูบไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัวจนเกือบหมดเพียงไม่นาน พวกเขาต่างก็สงสัยกันว่าหากมีบุหรี่แบบนี้อยู่ในโลกล่ะก็สมควรจะทำออกมาขายตั้งนานแล้ว
หลายๆคนเองก็เริ่มเป็นแผนคลับพันธุ์แท้ของซูจิ้งจากการซื้อบุหรี่ของซูจิ้งสูบนี่แหล่ะ
แน่นอนว่าหากพูดถึงเรื่องนี้ล่ะก็ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง