ขณะที่บนยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของอาณาจักรเสวียนคงปรากฏเปลวเพลิงปะทุขึ้นไปบนท้องฟ้า ห้องที่ซูจิ่นซีกับเยี่ยโยวเหยาพักอยู่ก็ปรากฏแสงสว่างเจิดจ้าสีขาวปะทุขึ้นบนท้องฟ้าเช่นกัน
คุณชายฉู่มีสัญชาตญาณไม่ค่อยดี เขารีบพาคนไปที่ห้องของซูจิ่นซีกับเยี่ยโยวเหยา ทว่าแสงสว่างภายในห้องกลับเจิดจ้าอย่างมาก ไม่ว่าเขาจะเคาะประตูห้องอย่างไรก็ไม่มีการตอบสนอง
“โยวอ๋อง พระชายาโยวอ๋อง พวกท่านอยู่หรือไม่? ”
“พวกท่านอยู่หรือไม่? ”
“อยู่ข้างในหรือไม่”
“หากอยู่ข้างในโปรดขานรับด้วย”
“หากพวกท่านไม่ตอบ ข้าต้องขออภัย พังประตูเข้าไปด้านใน! ”
ครู่หนึ่ง ด้านในยังไม่มีเสียงขานรับ
คุณชายฉู่เรียกชายฉกรรจ์ร่างกายกำยำจำนวนหนึ่งมาพังประตูเข้าไป ทว่าทั้งสองคนกระแทกจนเหงื่อท่วมตัว ก็ราวกับพวกเขากำลังกระแทกเข้ากับกำแพงเหล็ก ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอันใดกับประตูแม้แต่น้อย
นี่… มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
ในเวลาเดียวกัน ถนนทุกสายภายนอกหุบเขาหลูเหว่ย ล้วนเต็มไปด้วยผู้คน
อุณหภูมิภายในหุบเขาหลูเหว่ยกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทั้งหุบเขาหลูเหว่ยกำลังลุกเป็นไฟ
ผู้คนจำนวนมากกำลังจะตายเพราะความร้อน สิ่งของที่ค่อนข้างไวไฟและมีจุดหลอมเหลวต่ำต่างละลายและเผาไหม้ไปหมดแล้ว
ตอนนี้ เกิดอันใดขึ้นกันแน่?
ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาไปที่ใด?
แท้จริงแล้ว ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยายังอยู่ภายในห้อง ทว่าพวกเขาไม่ได้ยินเสียงเรียกของคุณชายฉู่ และไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้านนอกจวนเจ้าหุบเขา
เพราะดวงจิตของพวกเขาถูกเรียกเข้าไปในดินแดนลึกลับเสวียนคง
ทันทีที่พวกเขาเข้าสู่ดินแดนลึกลับเสวียนคง ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาก็รู้สึกถึงบรรยากาศอันร้อนระอุผิดปกติที่กระทบใบหน้าพวกเขา
เยี่ยโยวเหยาไม่ลืมความผิดปกติก่อนหน้านี้ของซูจิ่นซี เขากังวลว่าร่างกายของนางยังอ่อนแอ จึงรีบเข้าไปพยุง
เมื่อเห็นใบหน้ากังวลของเยี่ยโยวเหยา ซูจิ่นซีจึงส่ายศีรษะเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอันใด”
ไม่รู้เพราะเหตุใด หลังจากซูจิ่นซีมาปรากฏตัวที่นี่อย่างกะทันหัน ร่างกายของนางก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนก่อนหน้านี้อีกเลย
ทั้งสองมองสถานการณ์ตรงหน้า พวกเขาเห็นเพียงเปลวเพลิงที่ปะทุอย่างรุนแรง ดูเหมือนว่าไกลออกไปจะมีหินลาวา และภูเขา ทว่าทั้งหมดกลับถูกเปลวเพลิงแผดเผาเป็นสีแดงฉาน แม้แต่พื้นดินที่พวกเขายืนอยู่ก็ร้อนระอุ อีกทั้งลาวาในแอ่งน้ำบริเวณเท้าของพวกเขาก็เดือดพลุ่งพล่าน
ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด แม้พวกเขาจะรู้สึกร้อนระอุ ทว่าไม่ได้ร้อนจนไหม้เกรียม
นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
ที่นี่คือที่ใด?
“โยวอ๋อง พระชายาโยวอ๋อง… ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังสงสัย จู่ๆ ก็มีเสียงเด็กน้อยดังขึ้นมาจากสถานที่ไกลออกไป
ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยามองไปยังทิศทางของเสียง ก่อนจะเห็นเด็กชายสองคนที่ท่อนบนสวมชุดเอี๊ยมอวยพรสีแดงและกางเกงเข้ารูป กำลังเดินมาหาพวกเขา
เด็กชายทั้งสองเดินมาถึงด้านหน้าของซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาอย่างรวดเร็ว และโค้งคำนับพวกเขา
“พวกเราขอโทษจริงๆ ที่เชิญท่านทั้งสองมาที่อาณาจักรเสวียนคง ทว่าพวกเรามีเรื่องที่ต้องขอความช่วยเหลือจากพวกท่าน”
ที่แท้ที่นี่ก็คืออาณาจักรเสวียนคง?
“พวกเจ้ารู้จักเราสองคนได้อย่างไร”
เด็กชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “แม้หุบเขาหลูเหว่ยจะไม่ติดต่อกับโลกภายนอก ทว่าสามารถรับรู้เรื่องราวทุกอย่างในใต้หล้าได้ ดินแดนลึกลับเสวียนคงคอยพิทักษ์หุบเขาหลูเหว่ย พวกเราคือเด็กน้อยในดินแดนลึกลับเสวียนคงที่คอยรับใช้ท่านเทพผู้ดูแลดินแดน ดังนั้นพวกเราย่อมทราบถึงชื่อเสียงของพวกท่านทั้งสอง”
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้
ซูจิ่นซีพยักหน้าเข้าใจ นางสบตาเยี่ยโยวเหยา “เมื่อครู่พวกเจ้าบอกว่า พวกเจ้าเรียกพวกเราเข้ามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากเราสองคนหรือ? ”
แท้จริงแล้ว สิ่งที่ซูจิ่นซีกังวลมากกว่าคือ พวกเขาจะออกจากดินแดนลึกลับเสวียนคงได้เมื่อไร และจะออกจากหุบเขาหลูเหว่ยได้เมื่อไร
เด็กอีกคนหนึ่งพูดว่า “มีเรื่องที่ต้องการให้พวกท่านทั้งสองช่วยเหลือจริงๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของพระชายาโยวอ๋อง ทว่าไม่ใช่ท่าน”
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ใช่ข้าหรือ? แล้วมันเกี่ยวข้องอันใดกับข้า? ”
“เป็นเพราะไฟอมฤตที่พระชายาโยวอ๋องนำติดตัวมาด้วย ได้ปลุกสัตว์ภูตในดินแดนลึกลับให้ตื่นขึ้น ซึ่งสัตว์ภูตได้ขโมยบุตรของท่านเทพไป ทำให้ท่านเทพทรงพิโรธอย่างมาก”
ซูจิ่นซียังไม่เข้าใจ เด็กชายจึงยกมือขึ้น ทันใดนั้น เบื้องหน้าของซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาก็ปรากฏภาพเสมือนจริง
ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาเห็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจภายนอกทั้งหมด
ก่อนหน้านี้พวกเขาเข้ามาภายในหุบเขาหลูเหว่ย ชาวบ้านที่นี่ต่างเดือดร้อนเพราะสารพิษ ทว่าพวกเขายังอยู่อย่างสงบสุข และมีชีวิตที่เรียบง่าย
ทว่าตอนนี้ พวกเขากลับตกอยู่ในความทุกข์ทรมานของเปลวเพลิง
ทั้งหมดเป็นเพราะนางหรือ?
แม้ไม่รู้ว่าสิ่งที่เด็กสองคนพูดนั้นจริงหรือไม่ ทว่านางมีไฟอมฤตอยู่จริงๆ
นอกจากนั้น เมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชของชาวบ้านเหล่านั้น นางก็รู้สึกเศร้าใจอย่างมาก
แม้นางจะมีเวลาไม่มาก ทว่านางไม่สามารถทำลายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้!
“ต้องการให้เราสองสามีภรรยาช่วยเหลือสิ่งใด? ”
ทันทีที่สิ้นเสียงของซูจิ่นซี เยี่ยโยวเหยาก็จับมือของซูจิ่นซีอย่างเงียบงัน
“แม้ท่านเทพจะทรงพิโรธมาก ทว่าข้าขังท่านไว้ภายในตำหนักเทพชั่วคราว เวลานี้ภายในหุบเขาหลูเหว่ยมีเพียงท่านสองสามีภรรยาเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับสัตว์ภูตได้ รบกวนท่านช่วยนำตัวบุตรของท่านเทพกลับมา
ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงระงับความโกรธของท่านเทพได้ แต่ยังช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ภายนอกได้อีกด้วย
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ท่านเทพจะต้องทำลายหุบเขาหลูเหว่ยทั้งหมดเป็นแน่ ซึ่งมันอาจนำหายนะมาสู่โลก”
ถึงขั้นนำหายนะมาสู่โลกเชียวหรือ?
ซูจิ่นซีครุ่นคิดภายในใจครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยปากถาม “สัตว์ภูตตนนั้นอยู่ที่ใด? อยู่ในดินแดนลึกลับเสวียนคงนี้หรือไม่? ”
“ดินแดนลึกลับทุกแห่งล้วนมีสัตว์เทพคอยพิทักษ์ดินแดนพร้อมทั้งสัตว์ภูตซึ่งเป็นคู่ถ่วงดุลกัน ดินแดนลึกลับดำรงอยู่อย่างสมดุลได้เพราะมีสัตว์เทพและสัตว์ภูตคอยถ่วงดุล ดังนั้นสัตว์ภูตย่อมอยู่ในดินแดนลึกลับเสวียนคงแน่นอน หากข้าเดาไม่ผิด มันต้องอยู่ในถ้ำปีศาจเป็นแน่”
“พวกเราขอดูได้หรือไม่ว่าบุตรของท่านเทพมีหน้าตาอย่างไร? ”
“แน่นอน! ”
เด็กทั้งสองสบตากัน จากนั้นพวกเขาก็ยกมือกอดอกและประสานมือเข้าหากันทันที
ภาพเสมือนจริงพลันปรากฏขึ้นมาในจุดที่ทั้งสองคนประสานมือกัน
เด็กทั้งสองมองซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาด้วยดวงตากลมโตสุกสกาว ความหมายของพวกเขาคือ สิ่งนี้คือบุตรของท่านเทพ
ซูจิ่นซีตกตะลึงเป็นเวลานานเมื่อเห็นว่าในภาพเสมือนจริงคือสิ่งนั้น
แม้แต่เยี่ยโยวเหยาก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน
“อันใด เป็นไข่หรือ? ”
เด็กน้อยเห็นท่าทางตกตะลึงจนหน้าถอดสีของซูจิ่นซี จึงอธิบายว่า “นี่ไม่ใช่ไข่ธรรมดา ท่านเทพของพวกเราคือเทพมังกรที่จักรพรรดิฝูซีทรงใช้เป็นพาหนะในสมัยโบราณ แต่เพราะท่านทำผิดกฎของเผ่าจึงถูกส่งตัวมาสำนึกผิดที่ดินแดนลึกลับเสวียนคงแห่งนี้”
เพราะฉะนั้น ไข่ใบนี้คือไข่มังกร?
เอาเถิด ที่แท้ก็เป็นเรื่องของคนที่มีชื่อเสียง
“ขอแผนที่ถ้ำปีศาจได้หรือไม่? ”
อย่างไรเสีย ดินแดนลึกลับเสวียนคงก็มีพื้นที่กว้างขวาง ทั้งพวกเขายังไม่คุ้นเคยเพราะมาที่นี่เป็นครั้งแรก หากมีแผนที่จะสะดวกมากกว่า
เด็กน้อยพลันพลิกฝ่ามือ ปรากฏแผนที่หนึ่งฉบับให้ซูจิ่นซี
ซูจิ่นซีหยิบแผนที่ขึ้นมาและหันไปมองเยี่ยโยวเหยา “พวกเรารีบจัดการให้เสร็จโดยเร็วเถิด”
“อืม” เยี่ยโยวเหยายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย และลูบผมหน้าม้าของซูจิ่นซีแผ่วเบา
ก่อนจากไป เด็กน้อยกำชับว่า “แม้พวกเราจะผนึกท่านเทพไว้ในตำหนักชั่วคราว ทว่าความสามารถของพวกเรามีจำกัด คงยืนหยัดได้ไม่นาน ท่านทั้งสองต้องกลับมาให้เร็วที่สุด”
“ทางเข้าถ้ำสัตว์ภูตมีสัตว์ร้ายจำนวนมาก พวกท่านต้องระวังด้วย”
ไม่จำเป็นต้องให้เด็กน้อยทั้งสองบอก ซูจิ่นซีก็คิดจะจัดการโดยเร็วอยู่แล้ว เพราะนางยังมีเรื่องของตนเองที่ต้องจัดการ
แม้ซูจิ่นซีจะรับปากเด็กน้อยทั้งสองว่าจะไปตามหาสัตว์ภูตเพื่อนำบุตรของท่านเทพกลับคืนมา ทว่าเยี่ยโยวเหยาสังเกตเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของนาง จึงพูดปลอบใจว่า “อย่ากังวล หากเรื่องไม่เป็นดั่งที่คาดไว้ ข้ามีแผนสำรอง”