เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 1101
ไป๋หู่มองไปที่ตงกั๋วและพูดด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัวว่า “ฉันยังไม่ได้ถามเลยว่าพวกเป็นใคร พวกแกกล้าดียังไงถึงบุกเข้ามาในอาคารสํานักงานของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปของเรา พวกแกอยากตายนักหรือไงกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ตงกั๋วก็เข้าใจทันที ไป๋หู่และคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงหน้าเขา รายล้อมพวกเขาไว้ทั้งหมดนั้น ทุกคนล้วนเป็นสมาชิกของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป คนพวกนี้มาเตรียมรอรับมือพวกเขาอยู่ที่นี่ไว้แล้ว
แต่เป็นคนของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปแล้วมันยังไง ในขณะนี้ ตงกั๋วไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร เขามั่นใจในบารมีตระกูลหลี่และฝีมือของเขา เขามองไปที่ไป๋หู่และคนอื่นๆ ด้วยสีหน้า ท่าทาง และแววตา เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือ แต่สำหรับเขาแล้ว ยอดฝีมือที่ไหนก็เอาชนะพวกเขาไม่ได้แน่นอน
“พวกแกทั้งหมดมาจากเฟิงเมิ่งกรุ๊ปใช่ไหม เอางี้นะ รีบไสหัวไปจากสิงเตาได้แล้ว หัดเคารพเชื่อฟังตระกูลหลี่ผู้เป็นนายใหญ่แห่งสิงเตาบ้าง ไม่อย่างนั้น ฉันเอาพวกแกตายแน่!”
สิ้นเสียงนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นสามครั้ง
ปัง!
ปัง!
ปัง!
……
ผู้คนหลายสิบคนที่ดงกั๋วนํามาทั้งหมดรีบดึงมีดพร้าที่แหลมคมออกมาจากเอวของพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาเตรียมตัวมาพร้อม ไม่มีทางมามือเปล่าเพื่อจัดการอีกฝ่ายในสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้อยู่แล้ว
ถ้าหากไป๋หู่และคนอื่นๆ กล้าที่จะต่อต้าน ตงกั๋วก็ไม่รังเกียจที่จะฟาดฟันไป๋หู่และคนอื่นๆ ให้ตายคาที่ เลือดย้อมห้องทำงานนี้ได้ยิ่งดีเลย!
“เฮอะ!”
เมื่อได้ยินคําพูดของตงกั๋ว ไป่หูก็เยาะเย้ยทันที เขาลุกขึ้นยืนและแววตาอาฆาตแฝงจิตสังหารของเขาค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น ท่าทางของไป๋หู่พร้อมแล้วที่จะลงมือ
” ถ้าแกต้องการให้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปของเราออกจากสิงเตา แกไปยืนฉี่หน้ากระจกดูหน่อยไหม ดูว่าหนอนน้อยของแกฉี่ใส่ตัวแกเองแล้วแกรู้สึกยังไงบ้าง”
ไป๋หู่จงใจกล่าววาจายั่วยุอย่างเด่นชัด เขาไม่ได้มีดีแค่การใช้กำลัง แต่เขายังเจตนาใช้จิตวิทยาในการปั่นหัวอีกฝ่ายก่อนจะลงมือเล่นงานหรือเก็บกวาดอีกฝ่ายให้เรียบร้อยด้วย ถ้าอีกฝ่ายเสียสมาธิหรือคุมอารมณ์ไม่ได้ ย่อมมีช่องว่างง่ายกว่าและจัดการได้ง่ายกว่า ไม่ต้องเหนื่อยแรงและไม่ทำให้สถานที่แห่งนี้เสียหายมากนักด้วย
“ในเมื่อมาที่นี่แล้ว ก็ไม่ต้องคิดหนีหรอก นี่คือที่ตั้งสำนักงานสาขาของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปของเรา ถ้าแกกล้ามาที่เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเพื่อสร้างปัญหา สิ่งที่รอพวกแกอยู่มีแต่หายนะเท่านั้น!”
สิ้นเสียงนั้น จิตสังหารของไป๋หู่ก็แผ่ออกมาเต็มที่ พริบตานั้นเอง ทุกคนรู้สึกราวกับว่าอุณหภูมิของอาคารสํานักงานทั้งหมดลดลงอย่างรวดเร็ว ตงกั๋วและคนอื่นๆ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นไหวในใจของพวกเขา
ตงกั๋วตะโกนว่า “อย่ามาก่อกวนนะ ไม่อย่างนั้น…”
เพี๊ยะ!
ก่อนที่ตงกั๋วจะพูดจบ ไป่หู่ก็ตรงเข้าไปตบเขาโดยตรงอย่างรุนแรง น้ำหนักมือในคราวนี้รุนแรงกว่าที่ตบหน้าเจ้าของอาคารเมื่อตอนบ่ายอยู่หลายเท่า เสียงตบหน้าดังลั่นพร้อมกับเลือดที่สาดกระเด็นจากปากของตงกั๋วออกไปพร้อมฟันอีกหลายซี่ แต่ไป๋หู่ยังไม่หนำใจแต่เพียงเท่านี้
จังหวะที่ตงกั๋วอ้าปากกว้างเพื่อพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถควบคุมเลือดที่ไหลออกมาได้ ไป๋หู่ก็ลงมือตบหน้าอีกครั้งด้วยน้ำหนักมือ จังหวะเวลา และความแรงเท่าเดิม
เพี๊ยะ!
ก่อนที่ตงกั๋วจะตั้งสติตอบโต้ได้ ไป่หู่ตบเขาอย่างแรงเป็นครั้งที่สอง สติของตงกั๋วหลุดลอยไปในทันที
อั่ก!
เสียงร้องดังลั่นของตงกั๋วทำให้ทุกคนที่ตงกั๋วพามาด้วยรู้สึกสั่นสะท้าน แค่ไม่กี่อึดใจ ตงกั๋วก็โดนไป๋หู่จัดการตบหน้าจนหมดสภาพไปแล้ว ร่างของตงก่วร่วงลงมากองกับพื้น หมดสภาพต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง
ไป๋หู่เดินไปคว้าคอของตงกั๋วด้วยมือข้างขวาของเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่สนใจว่าพวกแกเป็นคนของตัวไหนในตระกูลหลี่ ไม่สนว่าพวกแกจะมีประวัติโด่งดังจากไหนใต่ร่มเงาตระกูลหลี่ แต่ถ้าพวกแกกล้ามาเหยียบพื้นที่ของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปของเราเพื่อสร้างปัญหา ฉันจะฆ่าทิ้งให้หมด ไม่ปรานีอะไรทั้งนั้น!”
สิ่นเสียงตะคอกดุดันในประโยคสุดท้ายของตนเองแล้ว ไป๋หู่ก็เตะเข้าที่ร่างของตงกั๋วอย่างรุนแรง แค่ฟังเสียงกระดูกแตกก็บ่งบอกได้ถึงความรุนแรงและความเจ็บปวดที่ตงกั๋วได้รับ แน่นอนว่าต้นขาข้างหนึ่งของตงกั๋วหักทันที หักละเอียดมากพอจะทำให้ตงกั๋วต้องใช้ชีวิตบนเตียงไปอีกหลายเดือน
อ๊าก!
เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังก้องไปทั่วอาคารสํานักงานและผู้คนที่ได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ทว่าสำหรับคนที่ไป๋หู่พามานั้น สีหน้าของพวกเขาไม่เปลี่ยนแปลงเลย สำหรับองครักษ์มังกรแล้ว เรื่องแค่นี้เป็นเรื่องปกติมาก
ตงกั๋วระงับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ได้รับ เขากัดฟันและตะโกนว่า “พวกแกยังยืนทําซากอะไรอยู่ รีบไปจัดการฆ่าแม่*เลยสิวะ!”
ในเวลานี้หัวใจของ ตงกั๋วเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเคียดแค้นอย่างรุนแรง เขาแทบรอไม่ไหวที่จะฆ่าไป๋หู่และคนอื่นๆ ด้วยมือตัวเองแล้ว นี่เป็นความรู้สึกอัปยศที่สุดเท่าที่เคยมีมาในชีวิตของเขาเลย
บัดซบ กล้าดียังไงมาหักขาของเขา ตงกั๋วผู้นี้ เดี๋ยวจะให้พวกมันได้ลิ้มรสความเจ็บปวดบ้าง ให้พวกมันรู้ว่าการทําให้เขาขุ่นเคืองจะเป็นอย่างไรบ้าง ที่ผ่านมา ถ้าทำให้เขาขุ่นเคืองแล้ว ไม่เคยมีใครรอดไปได้สักรายเดียว
เมื่อเห็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับตงกั๋ว ยอดฝีมือหลายสิบคนของตระกูลหลี่ก็อดสั่นประสาทกับความเหี้ยมโหดของไป๋หู่ไม่ได้ สำหรับพวกเขาแล้ว ไป๋หู่ไม่ใช่คน แต่เป็นปีศาจ!
บัดซบเอ๊ย พวกเขาไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของตงกั๋ว ทำได้แค่รีบจัดการให้จบแล้วรีบไปจากที่นี่ให้ได้เท่านั้นเอง
“ฆ่า!”
พริบตานั้นเอง องครักษ์มังกรเจ็ดแปดคนที่นั่งบนเก้าอี้พนักงานก็พุ่งตัวเข้าใส่
อ๊าก!
อ๊าก!
เพียงไม่ถึงสองนาทีต่อมา ยอดฝีมือตระกูลหลี่ทั้งหมดที่ตงกั๋วพามากด้วยก็ทอดร่างกองลงบนพื้นด้วยสภาพไม่ต่างกับตงกั๋วงมากนัก มีเพียงเสียงกรีดร้องโหยหวนและเสียงครางด้วยความเจ็บปวดเท่านั้น
คนทั้งหมดที่ตงกั๋วพามาด้วยมีฝีมือก็จริง แต่องครักษ์มังกรจัดการหักข้างข้างหนึ่งของคนพวกนี้ทั้งหมด!
พอเห็นแบบนี้แล้ว ตงกั๋วดูงุนงง เขาไม่ได้คาดหวังว่าไป๋หู่และคนอื่นๆ จะดุดันและฝีมือร้ายกาจมากขนาดนี้