บทที่ 656 ล้อมเรือนตระกูลเสี่ยว

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 656 ล้อมเรือนตระกูลเสี่ยว

ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มของหลิงตู้ฉิงได้อาศัยอยู่แต่ในเรือนของตระกูลเสี่ยวอย่างเงียบเชียบราวกับว่าไม่สนใจเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นภายนอกเลยแม้แต่น้อย

ความเงียบเชียบเช่นนี้มันทำให้หานฉีรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก

ไม่ใช่ว่าพวกนั้นเป็นชนชั้นสูงแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมพวกมันไม่ทำอะไรเลย? หรือว่าพวกมันกำลังวางแผนอะไรกันอยู่?

หานฉีสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่ากลุ่มของหลิงตู้ฉิงน่าจะมีแผนการบางอย่างแอบแฝงอยู่ในใจ แต่เขาเดาไม่ออกว่ามันคืออะไร

ในอดีตตอนที่ตระกูลหนิงถูกขับไล่ออกไปจากเมืองขนนกอัคคี มันเป็นเขาเองที่เป็นคนเปิดโปงตระกูลหนิง ส่งผลให้เขาได้รับความดีความชอบจนได้รับปูนบำเหน็จให้เป็นผู้ดูแลเมืองขนนกอัคคี

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ หลังจากที่เขารับเจ้าเมืองได้ไม่ถึง 200 ปี ภูเขาฟีนิกซ์กลับเริ่มมาเพ่งเล็งเมืองขนนกอัคคีของเขาอีกครั้งแถมยังส่งหวงเซียะเข้ามาทำการสืบสวนเรื่องในอดีตเกี่ยวกับตระกูลหนิง ซึ่งมันทำให้ใครหลายคนเริ่มรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี

แผนการหลายอย่างพวกเขาจึงจำเป็นต้องชะงักตัวลง

แต่แล้วแต่เมื่อพวกเขาแน่ใจว่า หวงเซียะเอาแต่สนใจเรื่องการทรยศของตระกูลหนิงเพียงอย่างเดียวและไม่สนใจสอบสวนเรื่องอื่น ๆ เขาและคนอื่น ๆ ก็เริ่มที่จะรู้สึกเบาใจลง

จากนั้นต่อมาเมื่อสองพ่อลูกตระกูลหนิงถูกสังหารและบรรดาผู้สมรู้ร่วมคิดกับตระกูลหนิงคนอื่น ๆ ถูกจับกลับมารับโทษ ประเด็นเรื่องทรยศมันก็เงียบลงไปไม่มีการสืบสวนขยายผลอะไรต่อ

อันที่จริงเรื่องราวที่ดำเนินไปแบบนี้มันก็ทำให้คนบางกลุ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์เช่นกัน แต่มันก็นับได้ว่าพวกเขายังรอดตัว

ต่อมาเมื่อเรื่องราวทุกอย่างมันสงบแล้ว พวกเขาก็เริ่มดำเนินการตามแผนการที่วางเอาไว้ต่อ

แต่แล้วในระหว่างที่พวกเขาเพิ่งเริ่มแผนการไปได้ไม่นานสักเท่าไหร่ จู่ ๆ เสี่ยวเยว่เฟิง กลับปรากฏตัวขึ้นมาอีกแถมพวกนางยังกลายเป็นชนชั้นสูงไปแล้วอีกต่างหาก

สถานการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้มันทำให้หานฉีรู้สึกสงสัย

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ เสี่ยวเยว่เฟิงควบแน่นร่างฟีนิกซ์ที่แท้จริงได้ยังไง?

ต้องรู้ว่าแม้แต่ชนชั้นสูงหลายคนยังไม่สามารถควบแน่นร่างฟีนิกซ์ที่แท้จริงได้สำเร็จด้วยซ้ำ

ในระหว่างที่หานฉีกำลังงุนงงอยู่กับสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญ คนที่เขาส่งไปภูเขาฟีนิกซ์ก็กลับมาส่งข่าว

“หืม? สถานะที่พวกนางอ้างเป็นเรื่องโกหกงั้นเหรอ?” หานฉีเลิกคิ้วขึ้น

“ถูกต้องแล้วท่านเจ้าเมือง ผู้อาวุโสชิวได้ทำการตรวจสอบแล้วและไม่พบพวกนางอยู่ในรายชื่อของชนชั้นสูง” หานอู่รีบตอบกลับทันที

เมื่อหานฉีได้ยินคำยืนยันเช่นนี้ เขาก็เริ่มตื่นเต้นทันที

ต่อให้พี่น้องตระกูลเสี่ยวควบแน่นร่างฟีนิกซ์ที่แท้จริงได้สำเร็จ แต่ถ้าหากพวกนางไม่ได้เป็นชนชั้นสูง เขาก็สามารถจัดการกับพวกนางได้อย่างไม่มีปัญหา

เขาเริ่มคิดแผนการที่จะจับตัวสองพี่น้องตระกูลเสี่ยวมารีดเอาข้อมูลวิธีการควบแน่นร่างฟีนิกซ์ที่แท้จริงทันที

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หานฉีก็สั่งการออกไปทันที “รวมกำลังพลและไปจับตัวพวกคนที่อยู่ในเรือนตระกูลเสี่ยวมาให้หมด!”

หลังจากนั้นไม่นานกองทหารจำนวนมากของเมืองขนนกอัคคีก็ทำการล้อมเรือนของตระกูลเสี่ยวไว้ทุกทิศทาง

ในลานกลางเรือนตระกูลเสี่ยว เสี่ยวถิงไห่และภรรยาต่างอยู่ในอาการตื่นตระหนกไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ

“ลูกพ่อ ไหนว่าเจ้าบอกว่าเจ้าเป็นชนชั้นสูงแล้วไง? ทำไมพวกเขาถึงได้กล้ามาล้อมพวกเราแบบนี้?” เสี่ยวถิงไห่ถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล

เหตุการณ์แบบนี้มันเท่ากับขุนนางนำกองทัพมาโจมตีเชื้อพระวงศ์ นี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น

เสี่ยวเยว่เฟิงถามตอบกลับด้วยสีหน้างุนงงเช่นกัน “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพวกเขาถึงได้กล้าทำแบบนี้ แต่ท่านพ่อไม่ต้องเป็นกังวลอะไรไปหรอก”

เนื่องจากในตอนนี้นางมีหลิงตู้ฉิงหนุนหลังอยู่ นางจะไปกลัวอะไรกับแค่เจ้าเมืองขนนกอัคคีได้ยังไง?

เสี่ยวเยว่เฟิงก้าวออกไปนอกเรือนและตะโกนถามขึ้นด้วยสีหน้าไม่เกรงกลัว “พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงมาล้อมเรือนของข้าแบบนี้?”

หานฉียิ้มและพูดว่า “นังหนู เจ้านี่มันบ้าบิ่นดีจริง ๆ”

“เจ้าหมายความว่ายังไง?” เสี่ยวเยว่เฟิงถามกลับด้วยสีหน้าเย็นชา

หานฉีเยาะเย้ย “ข้าไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าเจ้าจะกล้ากล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นชนชั้นสูงต่อหน้าข้า เจ้าไม่รู้รึไงว่าข้าสามารถส่งคนไปตรวจสอบสถานะของเจ้าได้จากที่ภูเขาฟีนิกซ์? เลิกฝันเฟื่องได้แล้วข้ารู้แล้วว่าตอนนี้เจ้าไม่ใช่ชนชั้นสูง ที่ภูเขาฟีนิกซ์ไม่มีบันทึกรายชื่อของเจ้าเป็นชนชั้นสูงแม้แต่น้อย!”

“แอบอ้างเป็นชนชั้นสูงมีโทษเท่ากับข้อหาเป็นกบฏ! ตอนนี้ข้าได้รับคำสั่งโดยตรงมาจากภูเขาฟีนิกซ์ให้มาจับตัวเจ้าและน้องของเจ้าเพื่อทำการไต่สวน และข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าได้ขัดขืนไม่เช่นนั้นก็อย่าได้โทษข้าหากข้ารุนแรงกับพวกเจ้า”

“ส่วนบรรดาผู้คนที่ตามเจ้ามาด้วยนั้น พวกเขาจะต้องยอมจำนนทั้งหมดเช่นกัน ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าทุกคนไม่ให้เหลือ ข้ารู้ว่าพวกเขาบางคนแข็งแกร่งกว่าข้า แต่อย่าได้ลืมว่าเมืองขนนกอัคคีของข้านั้นมีพลังอำนาจของภูเขาฟีนิกซ์เกื้อหนุนอยู่!”

ในเวลาเดียวกันที่ด้านในเรือนตระกูลเสี่ยว หลิงตู้ฉิงพูดกับหลิงไช่หยุนว่า “เอาล่ะ ถึงตาของเจ้าออกโรงแล้วลูกพ่อ!”

หลิงไช่หยุนหัวเราะคิกคัก “ไม่มีปัญหา! มันก็แค่ออกไปขู่พวกคนโง่พวกนั้นเฉย ๆ แค่นั้นเอง!”

หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ไม่ใช่แค่ออกไปขู่พวกเขา แต่เจ้าจำเป็นต้องเผยพลังของสายเลือดของเจ้าด้วย ครั้งนี้ พ่อต้องการใช้สายเลือดของเจ้าในการล่อเหยื่อสักหน่อย พ่ออยากรู้ว่าจะมีสักกี่คนที่เข้ามาติดกับดักของเรา”

ถึงแม้ว่าพลังสายเลือดของหลิงไช่หยุนในตอนนี้จะยังไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้พวกคนที่มีแผนการร้ายอยู่ในใจต้องอยู่ไม่เป็นสุขหากได้รู้ข่าวของนาง

หลิงไช่หยุนพยักหน้า “ข้าจะไม่ทำให้ท่านพ่อผิดหวังแน่นอน!”

ในตอนนี้เสี่ยวถิงไห่และภรรยาของเขาต่างออกมาที่ด้านนอกเรือนเรียบร้อยแล้วด้วยสีหน้าซีดขาว

พวกเขาไม่นึกมาก่อนว่าสถานะชนชั้นสูงของลูกสาวพวกเขาจะเป็นเรื่องโกหก

หานฉีเคลื่อนไหวอย่างดุดันขนาดนี้ มันแปลว่าหานฉีไม่น่าจะกุเรื่องขึ้นมา ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์ที่หานฉีจะต้องเผชิญจากการล่วงเกินชนชั้นสูงแบบนี้มันจะร้ายแรงมาก

แต่ถ้าหากเป็นในทางกลับกัน ลูกสาวของพวกเขาแอบอ้างเป็นชนชั้นสูงจริง ๆ สิ่งที่ลูกสาวของพวกเขาจะต้องเผชิญอาจจะถึงกับต้องโทษประหาร

“ลูกพ่อ นี่พวกเจ้าแอบอ้างเป็นชนชั้นสูงจริง ๆ รึเปล่า?” เสี่ยวถิงไห่ถามขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึงปนโมโห “นี่เจ้ารู้ตัวรึเปล่าว่าเจ้าทำอะไรลงไป?”

เสี่ยวหลิงเฟิงอยู่ในอาการมึนงงเหมือนกัน นางไม่เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง

ในทางกลับกัน เสี่ยวเยว่เฟิงตอบกลับด้วยท่าทีสงบ “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านไม่ต้องเป็นกังวล สถานะของพวกข้านั้นถูกต้องแล้ว ส่วนเรื่องที่ภูเขาฟีนิกซ์หารายชื่อของพวกข้าไม่เจอนั้นมันมีเหตุผลบางอย่างอยู่เบื้องหลัง”

“มีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง?” หานฉีเย้ยหยัน “เจ้าค่อยไปอธิบายเหตุผลบ้าบอของเจ้าอีกทีหลังจากนี้ก็แล้วกัน! ตอนนี้ข้าสงสัยว่าจะต้องมีใครส่งพวกเจ้ามาสอดแนมภูเขาฟีนิกซ์แน่นอนโดยใช้สถานะชนชั้นสูงปลอมที่เจ้าอ้างขึ้นมาเพื่อแฝงกาย เอาล่ะเจ้าจะยอมจำนนดี ๆ หรือจะให้ข้าต้องใช้กำลัง?”

ก่อนที่เสี่ยวเยว่เฟิงจะได้ตอบอะไรกลับไป หลิงไช่หยุนก็เดินออกมาจากเรือนและเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้ารำคาญ “เฟิง เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงมีเสียงดังหนวกหูขนาดนี้?”

“นายหญิง ข้าต้องขออภัย บังเอิญว่ามีกลุ่มคนโง่เง่ามาล้อมเรือนของเราและพูดจาไร้สาระตั้งใจทำลายความสงบของพวกเรา!” เสี่ยวเยว่เฟิงรีบตอบกลับ

“พวกมันพูดจาไร้สาระว่ายังไง?” หลิงไช่หยุนถามขึ้น

เสี่ยวเยว่เฟิงตอบกลับอีกครั้ง “พวกมันบอกว่าพวกเราไม่ใช่ชนชั้นสูงของเผ่า!”