ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าลั่วชิงเฉิงคือกู่อิ่งที่หนีรอดจากมือของจวินอู๋เหยาด้วยวิชาย้ายวิญญาณ ในเวลาห้าปีเขาได้สร้างร่างเนื้อขึ้นใหม่และวิญญาณของเขาก็กลับเข้าร่าง ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากกู่อิ่งในอดีตเลย แต่เจตนาฆ่าในแววตาของเขารุนแรงขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
กู่อิ่งหัวเราะเยาะลั่วชิงเฉิงที่ลืมตัวเสียกริยา “ไม่ต้องเครียดขนาดนั้น ข้าแค่พูดความจริง ข้อตกลงที่ข้าทำกับเจ้าตอนนั้น คนที่ข้าต้องการก็คือจวินอู๋เสีย ตอนนั้นเหรินหวงระเบิดตัวเองตาย ข้าคิดว่านางคงถูกระเบิดร่างแหลกตายไปแล้ว ข้าไม่ได้โทษเจ้าที่ทำตามข้อตกลงไม่สำเร็จ แต่ใครจะคิดว่านางยังมีชีวิตอยู่ และห้าปีต่อมานางจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับเราแบบนี้”
กู่อิ่งหรี่ตา ความรู้สึกที่ซับซ้อนสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา มีกระทั่งประกายแห่งความพอใจ ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจมากที่นางยังมีชีวิตอยู่
ลั่วชิงเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ นางไม่คิดว่าคนที่กู่อิ่งต้องการตัว แท้จริงแล้วคือจวินอู๋เสีย!
ใครจะคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของจวินอู๋เสีย นางจะรอดชีวิตจากการระเบิดที่รุนแรงนั้นได้?
ต้องรู้ว่าผลกระทบจากการระเบิดตัวเองเหรินหวงนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง แม้แต่ผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองที่ลั่วชิงเฉิงทิ้งไว้เบื้องหลังก็ถูกกำจัดจนหมดสิ้น ตอนนั้นจวินอู๋เสียเป็นเพียงผู้ใช้พลังวิญญาณสีเงิน นางจะรอดชีวิตได้อย่างไรในเมื่อผู้ใช้พลังวิญญาณสีทองทั้งหมดยังไม่สามารถป้องกันตัวเองได้?
แค่คิดว่าจวินอู๋เสียยังมีชีวิตอยู่ ใบหน้าเย็นชาของลั่วชิงเฉิงก็แสดงออกถึงความเกลียดชังอย่างรุนแรง รอยบางๆที่น่าสงสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เรียบตึงนั้น
เมื่อกู่อิ่งเหลือบมองมา ลั่วชิงเฉิงก็รู้สึกถึงสายตาของเขาทันที นางหันหน้าหนีหลบสายตาสอดรู้สอดเห็นของเขา
“เจ้ามาหาข้าเพราะเรื่องนี้หรือ?” ลั่วชิงเฉิงพูดอย่างเย็นชา ไม่สามารถซ่อนความหงุดหงิดในน้ำเสียงของนางได้
กู่อิ่งถอนสายตากลับอย่างช้าๆ เขาหัวเราะและพูดว่า “ถ้าแค่เรื่องนี้ ข้าคงไม่มาหาเจ้าหรอก หนานกงเล่ยกลับมา และนำคำพูดที่จวินอู๋เสียฝากมาให้เจ้าด้วย”
“ให้ข้า? นางพูดว่าอะไร?” ลั่วชิงเฉิงขมวดคิ้วถาม
กู่อิ่งกล่าวว่า “นางพูดว่า ‘ถ้าเจ้าอยากได้กระดูกวิญญาณ เจ้าต้องพาเย่เจว๋ไปที่อาณาจักรล่าง’ ”
“อาณาจักรล่าง?” นางตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วความโกรธก็เริ่มก่อตัวขึ้นภายใน “กระดูกวิญญาณอยู่กับนางจริงๆหรือ?”
“เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน หนานกงเล่ยไม่เห็นกระดูกวิญญาณ แต่คำพูดพวกนี้ นางเป็นคนพูดจริงๆ” กู่อิ่งยักไหล่อย่างไม่สนใจ
แต่สีหน้าของลั่วชิงเฉิงไม่ได้ผ่อนคลายแบบนั้น
ตอนที่เหรินหวงระเบิดตัวเองและทำยอดเขาหายไป หลังจากนั้นลั่วชิงเฉิงก็ส่งคนไปค้นหาร่องรอยของกระดูกวิญญาณ เหรินหวงเป็นคนเอากระดูกวิญญาณไป ในเมื่อเหรินหวงตายแล้ว กระดูกวิญญาณก็อาจจะหล่นอยู่แถวนั้น
แต่สุดท้ายนางก็ต้องผิดหวังอย่างมากเมื่อหากระดูกวิญญาณไม่เจอ เนื่องจากต้องนำจวินอู๋เหยาไปที่อาณาจักรบนให้เร็วที่สุด นางจึงไม่สามารถอยู่ในอาณาจักรกลางนานๆได้ ทำได้เพียงส่งมอบภารกิจการค้นหากระดูกวิญญาณให้หนานกงเล่ย แต่ห้าปีผ่านไปก็ยังไม่มีข่าวคราวของกระดูกวิญญาณ
แล้วจู่ๆจวินอู๋เสียก็ปรากฏตัวขึ้นบอกหนานกงเล่ยว่ากระดูกวิญญาณอยู่ในมือนาง!
เหยื่อที่จวินอู๋เสียโยนออกมานั้นน่าตกใจจริงๆ และเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถระบุได้ว่าสิ่งที่นางพูดเป็นความจริงหรือไม่ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงระเบิดควันที่ขว้างออกมา พวกเขาก็ต้องจำใจงับมัน!