ลั่วชิงเฉิงมองผู้หญิงที่งดงามไร้ที่ติในกระจก นางหายใจเข้าลึกๆ แล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ราวกับเป็นลั่วชิงเฉิงอย่างที่เคยเป็นในอดีต
“ทหาร! เตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะไปที่คุกนรกขังมังกร!”
คุกนรกขังมังกร ก็ตามชื่อของมัน เป็นสถานที่ที่ใช้คุมขังผู้ที่แข็งแกร่ง แม้แต่มังกรที่ทรงพลังก็ไม่สามารถหนีไปจากที่นี่ได้
นี่เป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในอาณาจักรบน และเป็นสถานที่ที่น้อยคนจะกล้าเหยียบย่างเข้าไป
ลั่วชิงเฉิงเดินเข้าไปในคุกนรกขังมังกรด้วยสีหน้าเย็นชา นางเดินอยู่ในหมอกบางๆจนมาถึงทางเข้าถ้ำ
นอกถ้ำมีทหารมากกว่าสิบคนยืนเฝ้าอยู่ที่ทางเข้าถ้ำทั้งสองด้าน หลังจากเห็นว่าเป็นลั่วชิงเฉิง พวกเขาก็เปิดประตูใหญ่ของถ้ำให้ทันที จากนั้นลั่วชิงเฉิงก็ก้าวเข้าไป
ภายในถ้ำที่มืดมิด แสงไฟสลัวเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้บริเวณโดยรอบสว่างขึ้น แรงกดดันมหาศาลครอบคลุมทั่วทั้งถ้ำ แรงกดดันนั้นทำให้ยอดฝีมือทุกคนรู้สึกราวกับกำลังแบกรับพลังหนักหมื่นชั่ง แม้แต่คนอย่างลั่วชิงเฉิงก็ต้องชะลอฝีเท้าหลังจากเข้าไปในถ้ำ
ถ้ำนี้เป็นกรงขังที่มีแรงกดดันรุนแรงที่สุดในคุกนรกขังมังกร มันใช้พลังวิญญาณของยอดฝีมือหลายพันคน และอาจารย์ของลั่วชิงเฉิงก็สร้างมันขึ้นด้วยตัวเอง ไม่มีใครหนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างแน่นอน
ที่ด้านลึกสุดของถ้ำ มีร่างในความมืดนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นอย่างเงียบๆ โซ่ตรึงวิญญาณที่ทำขึ้นเป็นพิเศษหลายร้อยเส้นไขว้สลับไปมาด้วยวิธีการที่ซับซ้อน ล่ามอีกฝ่ายไว้อย่างแน่นหนาในถ้ำที่มืดมิดและเงียบสงัด
ภายใต้แสงไฟสลัว ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏสู่สายตาของลั่วชิงเฉิง แววตาของนางหวั่นไหวเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้านั้น แต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติ นางแอบสูดหายใจเข้า ทำให้ตัวเองยังดูหยิ่งผยองและเย็นชา
“ข้ามาวันนี้ก็เพราะมีข่าวมาบอกเจ้าสองเรื่อง” ลั่วชิงเฉิงมองชายคนนั้นและพูดขึ้น
แต่ดูเหมือนว่าชายคนนั้นกำลังหลับอยู่ เนื่องจากดวงตาของเขาปิดสนิท ไม่มีการตอบสนองใดๆ
ความเงียบของเขาเป็นสิ่งที่ลั่วชิงเฉิงคาดไว้อยู่แล้ว ในช่วงห้าปีที่เขาถูกขังอยู่ที่นี่ เขาไม่เคยพูดกับนางเลย ไม่เคยแม้แต่คำเดียว กระทั่งมองสักนิดก็ยังขี้เหนียวเกินกว่าจะทำบุญสุนทานให้นาง
ลั่วชิงเฉิงข่มกลั้นความไม่พอใจที่ถูกเมินและพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะตอบข้าหรือไม่ ข้าแค่มาบอกข่าวเจ้า ทั้งข่าวดีและข่าวร้าย”
“ข่าวดีก็คือนังแพศยาที่เจ้าคอยปกป้องยังมีชีวิตอยู่ และข่าวร้ายก็คือ……อีกสองเดือนข้าจะทรมานนางจนตายด้วยมือข้าต่อหน้าเจ้า!” ลั่วชิงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงมืดมนและเย็นชา มีความเกลียดชังอย่างรุนแรงอยู่ในน้ำเสียงนั้น
ถึงกระนั้น ภายในถ้ำก็ยังคงเงียบสนิท คนที่ถูกขังอยู่ในนั้นยังคงไม่เปิดปากพูด ดวงตาที่ปิดสนิททั้งสองข้างไม่เคยลืมขึ้นเลยสักครั้ง
ลั่วชิงเฉิงมองคนผู้นั้นเป็นครั้งสุดท้าย นางรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตา คำพูดของนางจะไม่มีวันได้รับการตอบสนอง นางหันกลับไปด้วยความโกรธ ความเกลียดชังในแววตารุนแรงยิ่งขึ้น
เมื่อลั่วชิงเฉิงออกจากถ้ำ คนที่ถูกขังไว้ก็ลืมตาขึ้นในความมืด มันเป็นดวงตาสีม่วงคู่หนึ่ง รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลานั้น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่แฝงนัยบางอย่าง ดวงตาสีม่วงทรงเสน่ห์คู่นั้นไม่มีความสิ้นหวังหดหู่เลยแม้แต่น้อย ราวกับเขาไม่เคยถูกขังอยู่ในถ้ำแห่งนี้
“เป็นข่าวดี……จริงๆซะด้วย” จวินอู๋เหยาหัวเราะเบาๆ
ห้าปีแล้ว ไม่รู้ว่าเสี่ยวเสียเอ๋อร์ของเขาโตเป็นสาวแล้วรึยัง?
รออีกสักหน่อย แค่รออีกหน่อย……