ในโลกวิญญาณ เมื่อจ้าววิญญาณได้ยินว่าจวินอู๋เสียกำลังกลับมา เขาก็รวบรวมคนของเขาทันที และรีบไปรอที่ประตูพร้อมจงจง น่าหลานเยว่ และมังกรเพลิง วิญญาณกลุ่มใหญ่ติดตามอยู่ด้านหลังเขา ทั้งหมดเป็นวิญญาณมนุษย์ที่สวมเครื่องแบบของกองทัพรุ่ยหลิน
“ท่านปู่ เราจะได้เจอคุณหนูแล้วใช่ไหม?” เด็กหนุ่มรูปงามคนหนึ่งดึงแขนเสื้อของเวินซินหาน ดวงตาของเขาทอประกายชื่นชม
เวินซินหานยิ้มตาหยีและตบหัวหลานชายของเขาเบาๆ พร้อมกับพูดว่า “ใช่ เราจะได้เจอนางแล้ว”
ในอดีต เวินซินหานถูกพรรคชิงอวิ๋นบังคับให้กดดันวังหลินอ๋องเพื่อช่วยหลานชายของเขา เขาไม่เคยคิดเลยว่าคุณหนูแห่งวังหลินอ๋องจะช่วยหลานชายเขาไว้ได้ด้วยยาเพียงเม็ดเดียว หลายปีที่ผ่านมา สุขภาพของหลานชายของเวินซินหานค่อยๆฟื้นตัวขึ้นทุกวัน เวินซินหานจึงเริ่มสอนวิธีฝึกฝนพลังวิญญาณให้เขา หลังจากโลกวิญญาณย้ายที่ตั้งมา เขาก็พาหลานชายของเขาเข้ามาในฝึกในโลกวิญญาณด้วย ต้องพูดเลยว่าเวินฉินเองก็สมกับเป็นหลานชายของเวินซินหาน หลังจากได้ฟังข่าวลือมากมายเกี่ยวกับจวินอู๋เสียและกองทัพรุ่ยหลิน เวินฉินก็อาศัยช่วงที่เวินซินหานเผลอไปสมัครเข้ากองทัพรุ่ยหลิน ตอนนี้เวินฉินได้เป็นสมาชิกคนหนึ่งของกองทัพรุ่ยหลินแล้ว!
สิ่งที่เวินฉินเสียใจมากที่สุดคือเขาไม่เคยเจอจวินอู๋เสียเลย
จ้าววิญญาณยืนมองคู่ปู่หลานด้วยแววตายิ้มแย้ม เขาทั้งประหลาดใจและดีใจมากตอนที่ได้ข่าวว่าจวินอู๋เสียกำลังมาที่โลกวิญญาณ โลกวิญญาณติดหนี้บุญคุณจวินอู๋เสีย แต่แล้วจู่ๆนางก็หายตัวไปเมื่อห้าปีก่อน แม้ว่าจ้าววิญญาณจะกังวลมาก แต่เขาก็ไม่สามารถไปตามหานางด้วยตัวเองได้ แล้ววันนี้เขาก็ได้ข่าวว่าจวินอู๋เสียกลับมาอย่างปลอดภัย แน่นอนว่าเขาจะต้องดีใจและมีความสุขมาก
ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ประตูที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และโลกวิญญาณก็สว่างจ้าขึ้น สายตาของเหล่าวิญญาณทุกตนจับจ้องไปที่แสงนั้นทันที
ร่างของคนหลายคนเดินออกมาจากแสงนั้น วินาทีที่คนแรกเดินออกมา ร่างเพรียวบางนั้นก็ดึงดูดความสนใจของวิญญาณทุกตน!
“โฮก!!” จงจงแทบรอไม่ไหวแล้ว มันพุ่งเข้าหาแสงสว่างและกอดคนที่เดินอยู่ตรงหน้าด้วยอ้อมกอดหมีใหญ่ทันที!
จวินอู๋เสียเพิ่งเข้าสู่โลกวิญญาณก็ถูกร่างใหญ่โตกอดหมับเข้าให้ ดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็พบว่าคนที่พุ่งเข้ามากอดนางคือจงจงที่นางไม่ได้เจอมานานนั่นเอง!
“อ๊าวววว! โฮกกกกกก! โว้วววววว!” จงจงส่งเสียงร้องอย่างมีความสุขเป็นที่สุด และกอดจวินอู๋เสียแน่น เสียงของมันราวกับฟ้าร้องที่ดังก้องสนั่นหูวิญญาณทุกตนที่อยู่ที่นั่น
“พูดให้เป็นภาษา!” น่าหลานเยว่ก้าวออกมาและตบจงจงที่เอาแต่ร้องโหยหวนเข้าหนึ่งที ดูเหมือนว่าแรงที่เขาใช้ตบจงจงนั้นไม่ได้เบาๆเลย แต่มันก็ไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากผิวหนังของจงจงหยาบและหนา
จงจงไม่รู้สึกเจ็บ มันกอดจวินอู๋เสียเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าคนที่อยู่รอบๆจะแย่งนางไปจากมัน
“ข้าไม่ถนัดพูดภาษามนุษย์” จงจงขยับจมูกดุ๊กดิ๊ก อุ้งเท้าของมันยังคงกอดจวินอู๋เสียแน่น แต่ก็ยังระมัดระวังไม่ให้ตัวเองทำนางเจ็บ
เป็นวิญญาณสัตว์อสูรก็ต้องคำรามตามสัญชาตญาณอยู่แล้ว แม้ว่ามันจะพูดภาษามนุษย์ได้ แต่มันไม่สามารถปลดปล่อยความตื่นเต้นดีใจออกมาได้อย่างเต็มที่!
“เอาล่ะ ใจเย็นๆก่อนเจ้าหมีวิญญาณ คุณหนูจวินเพิ่งมาถึง เจ้าตื่นเต้นขนาดนี้เดี๋ยวก็ทำคนอื่นกลัวกันหมด” จ้าววิญญาณพูดยิ้มๆความดีใจในน้ำเสียงของเขาไม่ต้องบอกก็เห็นได้อย่างชัดเจน
“โฮก?” หมีหยินหยางที่เพิ่งตามหลังเฉียวฉู่เข้ามาเห็นจวินอู๋เสียถูกหมีวิญญาณกอด มันก็ขยับอุ้งเท้าขึ้นมาสะกิดแขนจวินอู๋เสียเบาๆ ดูเหมือนตั้งใจจะแข่งกับหมีวิญญาณเพื่อเรียกร้องความสนใจจากนาง