บทที่ 2831 ข้ากระทำการใดล้วนคร้านจะแจกแจง 2
ต่อให้เป็นความจริงเขาก็ไม่กลัว! อย่างมากก็แค่สั่นคลอนพลังยุทธ์ของเขาไปครึ่งหนึ่ง ใช้พลังยุทธ์ครึ่งหนึ่งแลกกับอิสระได้ก็คุ้ม!
กู้ซีจิ่วกลับชะงักไปแวบหนึ่ง “ข้ากลัว…”
อัสนีจากทัณฑ์สวรรค์นี้สำหรับเซียนทั่วไปอาจจะไม่เป็นอะไร แต่สำหรับเธอแล้วเป็นอันตรายถึงชีวิต! ด้วยสมรรถภาพของเธอในตอนนี้ เกรงว่าจะทานรับอัสนีสวรรค์นี้ไม่ไหว…
ถึงแม้นางจะไม่ได้เอ่ยวาจาท่อนหลังออกมา ตี้ฝูอีก็ทราบว่านางหมายถึงอะไร มุมปากเผยรอยยิ้มเยาะหยัน “พระองค์เจ้าผู้สูงส่งกลัวสิ่งนี้ด้วยหรือ?”
กู้ซีจิ่วย่อมไม่อาจอธิบายเรื่องสัญญาณการเสื่อมสลายห้าประการของตนได้ นิ่งไปเล็กน้อย เอ่ยว่า “ข้ามีเหตุผลส่วนตัวของข้า…เรื่องนั้น เจ้าวางใจเถอะ ถึงข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าก็ไม่ต้องการให้เจ้าทำอะไรเพื่อข้าหรอก หากว่าเจ้าไม่ต้องการ ความสัมพันธ์นี้จะไม่ประกาศแพร่งพรายออกไป มีแค่เจ้ากับข้าที่รู้ และข้าจะไม่ใช้อาคมอีก…”
นี่คือการถอยให้ก้าวใหญ่สุดเท่าที่เธอสามารถทำให้ได้แล้ว
สุดท้ายในใจเธอก็ยังรู้สึกผิดอยู่ ใคร่ครวญดูเล็กน้อย หยิบยาลูกกลอนสีม่วงส่องแสงวาววามเม็ดหนึ่งออกมายื่นให้ “นี่คือลูกกลอนแสงม่วงชำระไข กินหนึ่งเม็ดจะลดระยะการบำเพ็ญของเจ้าได้พันปี ยังสามารถ…”
โอสถนี้เป็นสมบัติสุดล้ำค่าของเธอ เป็นโอสถที่เธอใช้สมุนไพรหายากหลอมขึ้นมาเมื่อหลายหมื่นปีก่อน
ถึงแม้เธอจะลืมเลือนเรื่องราวส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่เนื่องจากการหลอมโอสถนี้ยุ่งยากอย่างยิ่ง และหลอมได้ยากเย็นเป็นพิเศษ ตอนนั้นเพื่อหลอมโอสถนี้ทำเอาเธอต้องลำบากยากแค้นแสนสาหัส ดังนั้นเธอจึงจดจำกระบวนการหลอมโอสถนี้ได้ทุกขั้นตอน…
จะหลอมโอสถนี้ได้มีเงื่อนไขอยู่สามอย่าง หนึ่ง พลังวิญญาณของเธอต้องสมบูรณ์พร้อม สอง สมุนไพรแต่ละชนิดจะต้องเป็นของชั้นเลิศ สาม ทักษะการหลอมโอสถต้องเลิศล้ำ
ตอนนี้เงื่อนไขข้อที่สามเธอยังพอถูไถว่าเข้าขั้นได้ ทว่าเงื่อนไขสองข้อแรกไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่เข้าขั้นเลย!
ดังนั้นกล่าวได้ว่ายาเม็ดนี้เป็นสมบัติชั้นเลิศที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกหล้า บนโลกนี้ยากจะเสาะหาเม็ดที่สองได้อีก
เดิมทีนี่เป็นสมบัติก้นกรุของกู้ซีจิ่ว ไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มพูนพลังยุทธ์ของคนขึ้นพันปีเท่านั้น ยังมีสรรพคุณในการปลุกตายฟื้นเป็นด้วย หากว่าตายไปยังไม่พ้นสามวัน ก็สามารถใช้โอสถนี้ชุบชีวิตคนกลับมาได้…
เดิมทีเธอมองโอสถนี้เป็นยารักษาชีวิตในขั้นสุดท้าย เตรียมการไว้ หากว่าถึงวันที่ตนต้องดับขันธ์มอดม้วยแล้ว ยังไม่ได้จัดการเรื่องราวหลังสิ้นไปแล้วให้ดี เช่นนั้นเธอจะกินโอสถนี้เข้าไป ให้มีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสามปีห้าปี…
ตอนนี้จะมอบให้เขาเป็นการชดเชยก็แล้วกัน
วาจาประโยคนี้ของกู้ซีจิ่วยังกล่าวไม่จบ ยาลูกกลอนในมือก็ถูกตี้ฝูอีสะบัดแขนเสื้อตวัดใส่แล้ว “ข้าไม่ต้องการ!”
เขาออกแรงไม่น้อยเลย กวาดให้ยาลูกกลอนเม็ดนั้นลอยหวือออกไป กระเด็นไปหลายจั้ง
ช่างประเหมาะบังเอิญนัก จุดนั้นมีธารนำแข็งที่ไหลเชี่ยวอยู่พอดี หลังจากยาลูกกลอนหล่นลงไปแล้วก็หายลับไปโดยที่แม้แต่ฝอยน้ำก็ไม่กระเด็นขึ้นมา…
สีหน้ากู้ซีจิ่วแปรเปลี่ยนในทันใด เคลื่อนย้ายเข้าไปตามสัญชาตญาณแทบจะทันที
แต่ก็กั้นขวางยาลูกกลอนเม็ดนั้นไว้ไม่ทัน
เธอยืนอยู่ริมแม่น้ำจ้องมองผิวน้ำด้วยใบหน้าซีดเผือด
นี่คือโอสถที่เธอหลอมขึ้น ย่อมทราบถึงคุณลักษณะของมันดี โดนน้ำแล้วจะละลาย…
ดังนั้นต่อให้เธอกระโดดลงไปทันทีก็งมขึ้นมาไม่ได้แล้ว…
โอสถที่สำคัญถึงเพียงนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้!
มือเธอสั่นระริกเล็กน้อย หลังจากทึ่มทื่อไปครู่หนึ่งก็มองเขาอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้า! ทำไมเจ้าถึง…”
ตี้ฝูอีกอดอกทันที สายตาเยียบเย็นยิ่งกว่าเธอ “ยาลูกกลอนผุๆ เม็ดเดียวก็คิดจะเอามาแลกกับอิสระของข้าหรือ? ฝันไปเถอะ!”
ไม่สนใจเธออีก สะบัดแขนเสื้อจากไปเลย
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
เธอค่อยๆ ทรุดนั่งลงบนศิลาน้ำแข็ง
ผ่านไปสักพัก ก็ถอนหายใจออกมา
ช่างเถอะ! การหลอมยานั้นออกมาได้ เดิมทีก็เป็นการฉกฉวยโชคมาจากฟ้าดินอยู่แล้ว ไม่สมควรจะมีอยู่ บางทีสูญเสียไปเช่นนี้อาจจะเป็นเจตจำนงสวรรค์อย่างอ้อมๆ แล้ว
เธอก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าการรับศิษย์สักคนจะได้รับปฏิกิริยาอันใหญ่หลวงเช่นนี้จากเขา
ถ้ารู้แบบนี้แต่แรก…
เฮ้อ สำนึกเสียใจเหลือเกิน!
————————————————————————————-
บทที่ 2832 ข้ากระทำการใดล้วนคร้านจะแจกแจง 3
กู้ซีจิ่วรับศิษย์ไม่มาก หลายหมื่นปีก่อนเธอเคยรับศิษย์หรือไม่ตัวเองก็ลืมเลือนไปแล้ว แต่สองคนนี้ที่รับไว้ในปัจจุบัน คนแรกว่าตอแยยากแล้วคนที่สองกลับยากกว่า คนแรกว่าน่าหงุดหงิดแล้วคนที่สองกลับน่าหงุดหงิดกว่า
ถึงแม้ในตอนแรกฟั่นเชียนซื่อจะกราบเธอเป็นอาจารย์ด้วยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ แต่โชคดีที่หลังจากรับไว้แล้วท่าทางคงไม่เลวเลย มีความเคารพต่อเธอมากพอ นิสัยจิตใจก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากนัก เพียงแต่เด็กคนนี้มีจิตใจที่คำนึงถึงผลประโยชน์ยิ่งนัก ซ้ำยังมีความคิดเป็นอื่นกับเธออีก ทำให้เธอไม่ค่อยพอใจอยู่บ้าง
ตอนนี้คนนี้ที่รับเข้ามานิสัยใจคอสอดคล้องกับเธอมาก หากอบรมบ่มเพาะดีๆ น่าจะเหนือกว่าฟั่นเชียนซื่อเสียอีก ไม่แน่ว่าตำแหน่งของเธออาจส่งมอบให้เขาสืบทอดได้…
กลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะชิงชังเรื่องที่ถูกเธอรับเป็นศิษย์จนเข้ากระดูกดำ อยากจะซัดเธอให้ตายใจแทบขาด…
ล้มเหลวแล้วจริงๆ
เธอเกิดเงามืดต่อเรื่องการรับศิษย์แล้ว!
วันหน้าจะไม่เป็นฝ่ายคิดรับศิษย์ก่อนอีกแล้ว! การซื้อขายจะกระตือรือร้นเกินไปไม่ได้
เธอสูดหายใจเบาๆ คราหนึ่ง ส่ายหน้า ตัดสินใจจะไม่นึกถึงเรื่องที่น่าหงุดหงิดเช่นนี้แล้ว ค่อยๆ ก้าวเข้าสู่กลุ่มพายุพลังวิญญาณ
….
ตี้เฮ่าใช้วิชาย้อนทวนปางบรรพ์ดูมาถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ ไม่คาดคิดเลยว่าระหว่างท่านพ่อท่านแม่ของตนจะมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วย ท่านพ่อเคยเป็นศิษย์ของท่านแม่ เพียงแต่เป็นการถูกบังคับให้เป็น ไม่รู้ว่าต่อไปพวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันในฐานะศิษย์อาจารย์ไหมนะ?
ถึงแม้วิชาย้อนทวนปางบรรพ์จะสิ้นเปลืองพลังวิญญาณยิ่งนัก แต่การดูเช่นนี้จะดำเนินไปว่องไวยิ่ง เทียบได้กับการอ่านความทรงจำที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของดวงวิญญาณท่านแม่เขา สามารถย้อนทวนช่วงชีวิตที่ยืนยาวของคนผู้หนึ่งได้อย่างง่ายดายในเวลาหนึ่งชั่วยาม…
สิ่งที่เขาใช้วิชาย้อนทวนดูก็คือชาติก่อนของกู้ซีจิ่ว ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับนางได้ ถึงขั้นที่ถ้านางอยู่ในอารมณ์ที่รุนแรง เขาก็สามารถรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวทางอารมณ์ของนางในขณะนั้นได้…
เขากำนิ้วมือที่เริ่มจะแข็งทื่อแล้วเบาๆ รับชมต่อไป
เขาอาจรับชมเรื่องนี้เพียงครู่เดียว แต่ด้านในอาจจะผ่านไปพ้นไปนานกว่ายี่สิบปีแล้ว…
เผลอแวบเดียวก็ผ่านพ้นไปยี่สิบปีแล้วจริงๆ ในยี่สิบปีนี้ สุขภาพของกู้ซีจิ่วเสื่อมถอยลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพียงแต่เธอยืนหยัดค้ำยันเอาไว้ได้เสมอมา ประกอบกับทุกปีเธอจะเข้าไปบำเพ็ญที่แดนน้ำแข็งแห่งนั้นหนึ่งครั้ง ก็สามารถคงโฉมอันพรั่งพร้อมของเธอเอาไว้ได้ดียิ่งนักแล้ว ถึงขั้นที่วรยุทธ์ก็คงอยู่ที่ประมาณสองส่วนตลอดมา
ยี่สิบปีมานี้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมายนัก ถูซานอิงจิ้งจอกเก้าหางแห่งเผ่าปีศาจตนนั้นขึ้นเป็นราชินีปีศาจได้ด้วยการเกื้อหนุนจากนักบวชเทียนโม่เวิ่น หลายปีมานี้ได้ทุ่มเทกายใจพัฒนาอาณาจักร รุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนของภพปีศาจอยู่เย็นเป็นสุขยิ่ง
ในอดีตเผ่าปีศาจไม่มีกฎหมายที่เข้าท่าไว้ควบคุมเลย ประชาชนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตดั่งโจรขโมย คนไหนหมัดหนักกว่าคนนั้นก็ได้เป็นลูกพี่ ปีศาจมากมายเข่นฆ่าปล้นชิงก่อกรรมทำเข็ญเป็นอาจิณ ราชวงศ์ของเผ่าปีศาจมีอำนาจควบคุมชีวิตความเป็นความตายของทั้งเผ่าปีศาจ พวกเขาสามารถสังหารประชาชนได้ตามอำเภอใจโดยไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น สามารถปล้นชิงทรัพย์สินของประชาชนได้ทำให้ประชาชนโกรธเคืองทว่ามิกล้าเอื้อนเอ่ย
ชาวบ้านไม่กล้ายุแหย่ชนชั้นสูง ย่อมนำเอาโทสะที่สุมอยู่ในท้องไประบายใส่ร่างของชาวปีศาจที่อ่อนแอกว่าเขาแทน ด้วยเหตุนี้ในภพปีศาจผู้ที่แข็งแกร่งก็จะแข็งแกร่งไปตลอดกาล ส่วนผู้อ่อนแอก็จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ ประชาชนอยู่ไม่เป็นสุข ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรลุ่มๆ ดอนๆ ทุกคนล้วนมีชีวิตอยู่ไปวันๆ ถ้าวันนี้มีสุราก็จะดื่มให้เมามาย ถ้าวันนี้มีเงินก็จะใช้สุรุ่ยสุร่าย ไม่มีใครสนใจเพาะปลูกทำการเกษตร ด้วยเหตุนี้ไร่นาจึงรกร้าง อดอยากไม่สิ้นสุด
เมื่อถูซานอิงขึ้นครองราชย์เป็นราชินี ได้แต่งตั้งตำแหน่งสำคัญแก่นักบวชเทียนโม่เวิ่น เทียนโม่เวิ่นได้บัญญัติและประกาศใช้ข้อกฎหมายนับไม่ถ้วนให้ภพมารด้วยตัวเอง ทุกคนที่ฝ่าฝืนทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือขุนนาง วาณิชหรือราชา ล้วนต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ไม่ละเว้นผ่อนปรนทั้งนั้น!
แม้แต่ถูซานอิงที่ทำผิดกฎหมายไปหนหนึ่ง ก็ได้รับโทษโบยสิบแส้เช่นกัน ซ้ำยังเป็นการลงโทษในที่สาธารณะต่อหน้าข้าราชสำนักและประชาชนมากมายด้วย
————————————————————————————-