ซือถูเหิงกำหมัด สายตาเย็นชาและมืดมน ห้าปีในอาณาจักรแห่งความมืด ไอ้เจ้าโง่ฉินเกอและหลงจิ่วถูกนังสารเลวจวินอู๋เสียหลอกให้เงียบมาตลอด แม้แต่เขาเองก็โดนหลอกด้วย จวินอู๋เสียเอาแต่พูดว่านางต้องการพลังเพื่อแก้แค้น แต่นางไม่เคยพูดว่าใครคือศัตรูของนาง จนกระทั่งตอนอยู่ในวังจ้าววิญญาณ เขาถึงได้รู้ว่าเป้าหมายที่จวินอู๋เสียต้องการแก้แค้นคืออาณาจักรบน!
”ครั้งนี้เจ้าโชคดีรอดไปได้ แต่ครั้งหน้าเจ้าไม่โชคดีแบบนี้แน่!” แววตาของซือถูเหิงทอประกายชั่วร้าย การตกลงช่วยรักษาจวินอู๋เสียไม่ใช่ความตั้งใจจริงของเขาตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าเป็นไปได้ เขาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจวินอู๋เสียจะตายให้เร็วที่สุด แต่ถ้าเขาไม่ตอบอะไร ด้วยพลังของจ้าววิญญาณและฉินเกอ การรักษาให้เสร็จสมบูรณ์ก็ดำเนินไปได้แม้จะไม่มีเขา ยิ่งกว่านั้น……
เขาจะนั่งอยู่เฉยๆดูจวินอู๋เสียอาการดีขึ้นเรื่อยๆทุกวันได้อย่างไร?!
น่าเสียดายที่ครั้งนี้มีจ้าววิญญาณกับพวกฉินเกออยู่ด้วย เขาจึงไม่สามารถใช้วิธีการที่รุนแรงเกินไปได้ ทำได้แค่ใช้พลังจิตวิญญาณโจมตี และไม่กล้าที่จะทำโจ่งแจ้งเกินไปนัก แต่ว่า……
คราวหน้าคงมีคนอยู่ในวิหารใต้ดินไม่มากนัก!
รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่มุมปากของซือถูเหิง ทำให้ใบหน้าที่มืดมนอยู่แล้วของเขาดูดุร้ายขึ้น
……………
จวินอู๋เสียกลับจากวังจ้าววิญญาณ ในที่สุดความไม่สบายในจิตวิญญาณก็หายไป ก่อนถึงบ้าน นางเห็นแสงไฟกระพริบวูบวาบ เมื่อมองดูดีๆ จวินอู๋เสียก็พูดไม่ออก
สิ่งที่นางพบก็คือภาพที่ภูติประจำตัวของนางกำลังต่อสู้ติดพันกันอยู่ที่หน้าประตูห้องของนาง ดอกซากศพที่มีร่างกายกำยำแข็งแรงที่สุดมีสภาพที่น่าสังเวชมากที่สุด ร่างกายกำยำของเขาถูกเถาวัลย์จับแขวนห้อยหัวลงจากต้นไม้ ขาข้างหนึ่งของเขาถูกเถาวัลย์พันเอาไว้และแกว่งไปมาตามสายลม ปากถูกแช่แข็งอยู่ใต้น้ำแข็งใสราวคริสตัล ดูท่าทางน้อยใจจนอยากจะร้องไห้แต่ไร้น้ำตา
ด้านล่างของดอกซากศพ มีร่างเตี้ยๆของบัวน้อยกระโดดขึ้นลงอย่างกระวนกระวาย สองขาสั้นๆอ้วนๆของเขากระโดดไปทางนั้นทีทางนี้ที พยายามจะช่วยดอกซากศพ ขณะที่เซวี่ยหรงฮวา ตู๋เถิง อิงซู่ และสุ่ยจิงหลานยืนนิ่งอยู่อีกด้าน ส่วนพวกเฉียวฉู่ที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไรกำลังยืนมุงดูอยู่ข้างๆพร้อมกับกลั้นหัวเราะ
”เกิดอะไรขึ้่น?” จวินอู๋เสียเดินเข้าไปอย่างอ่อนใจ นางไม่อยู่แค่หกวัน ทำไมหกคนนี้ถึงได้ก่อเรื่องวุ่นวายกันแบบนี้?
”เจ้านาย!!” พอบัวน้อยเห็นจวินอู๋เสีย ขาสั้นๆเล็กๆของเขาก็กระโจนเข้าหาอ้อมแขนของจวินอู๋เสียทันที น้ำตาร่วงหล่นราวกับว่าวที่สายขาด เจ้าแมวดำใช้หางของมันถือขวดกระเบื้องสีขาวรอที่ใต้คางของบัวน้อยเพื่อเก็บน้ำตาด้วยความเคยชิน……
”ฮืออออออ……เจ้านาย ช่วยเสี่ยวยู่ยู่ด้วย!! พวกนั้นรังแกเขา” บัวน้อยฟ้องพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นจนเกือบหายใจไม่ออก
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นและมองไปทางภูติประจำตัวทั้งสี่ที่ดูสบายอกสบายใจ
เซวี่ยหรงฮวายิ้มอย่างสดใสและโบกมือให้จวินอู๋เสียโดยไม่รู้สึกผิดสักนิด สุ่ยจิงหลานเบนสายตาออกไปอย่างสงบ อิงซู่ยิ้ม ส่วนตู๋เถิงแค่ขมวดคิ้ว
ไม่ว่าจะมองยังไง ทั้งสี่คนก็ไม่มีใครรู้สึกผิดสักนิด
”เสี่ยวเสีย เจ้ากลับมาสักที! ถ้าเจ้ายังไม่กลับมา ข้าว่าพวกเขาจะจับดอกซากศพลงตุ๋นในหม้อแล้ว!” เฉียวฉู่เดินเข้ามาทักทายทันที จวินอู๋เสียมองเฉียวฉู่อย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เฉียวฉู่มองจวินอู๋เสีย แล้วยกนิ้วขึ้นชี้ไปที่ดอกซากศพซึ่งถูกห้อยอยู่กลางอากาศ และพูดว่า “นั่นก็……คาดไม่ถึงจริงๆว่าดอกซากศพของเจ้าจะมีงานอดิเรกแบบนี้”