“ในเมื่อแกอยากหาที่ตาย งั้นฉันก็จะช่วยให้แกได้สมใจอยาก!”

พูดจบ ยามาดะ ทาเคชิมองไปด้านนอกตะโกนไปว่า “คุณยากิวยิโตะ เชิญลงมือ!”

สายลมพัดวูบเข้ามา พัดเอาเสื้อผ้าเฉินโม่กับเล่หรูหั่วพลิ้วสะบัด

เฉินโม่มองไปข้างหน้าที่ว่างเปล่าอย่างนิ่งสงบ พูดเสียงเย็นชาไปว่า “ออกมาเถอะ ต่อหน้าของฉัน วิชาเร้นกายของแกนั้นมันของเล่นเด็ก ๆ”

อากาศธาตุข้างหน้าเกิดอาการพลิ้วไหว ผู้เฒ่าชุดดำท่านหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเฉินโม่กับเล่หรูหั่วอย่างพิสดาร

ที่ต่างกับคนชุดดำสี่คนก่อนหน้านี้คือ ผู้เฒ่าท่านนี้ไม่ได้คลุมปิดหน้า

“ท่านผู้นี้ถึงกับดูออกในวิชานินจาของฉัน?ไม่ทราบว่าเห็นช่องโหว่จากจุดไหน?ขอได้โปรดชี้แนะด้วย!” ผู้เฒ่าท่านนั้นค้อมตัวคำนับ ด้วยท่าทางสุภาพเป็นอย่างมาก

เฉินโม่มองไปที่เขา รู้สึกอคติกับการแสดงมารยาทจอมปลอมแบบนี้ เป็นศัตรูกันเห็นชัด ๆ กลับแสแสร้งทำเป็นมีมารยาท เห็นแล้วอยากอ้วก

“ภูเขาไม่ใช่ภูเขา สายน้ำไม่ใช่สายน้ำ ให้คุณตีความหมายนี้ออก คุณก็จะเข้าใจเองว่าช่องโหว่ของคุณอยู่ตรงไหน!” เฉินโม่พูดจบ ปล่อยหมัดตรงเข้าใส่ผู้เฒ่านั้น

เฉินโม่ออกหมัดนี้ไปอย่างสบายอารมณ์ ดูเชื่องช้ามาก เหมือนไม่มีอานุภาพอะไร ดูเป็นการชกกำปั้นออกไปของคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป

แต่ทว่า ใบหน้าผู้เฒ่านั้นเครียดหนัก ก้าวถอยไปอย่างต่อเนื่อง ถอยไปจนประชิดตัวยามาดะ ทาเคชิที่อยู่ข้างหลัง ไม่มีทางจะถอยต่อไปได้อีก เขาจึงได้คำรามเสียงลั่นออกมา ชักเอามีดดาบยาวที่พกอยู่ที่เอวออกมา กำด้วยมือทั้งสอง ฟันใส่ลงไปที่กำปั้นของเฉินโม่ในฉับพลัน

ประกายแสงหนาวเยือกแสบตาแวบผ่าน เหมือนว่าบรรยากาศถูกแหวกออก ทุกคนรู้สึกปวดแสบบนผิวหน้า อันเป็นผลจากแรงลมคมเฉียบจากมีดดาบของผู้เฒ่าท่านนั้น

เป็นที่ชัดเจนว่า มีดดาบของผู้เฒ่านี้ ก็ไม่ใช่ของธรรมดา

เมื่อกำปั้นเนื้อหนังคู่หนึ่ง ปะทะกันกับมีดดาบยาวเหล็กกล้า ผลที่ออกเชื่อว่าเห็นได้อย่าชัดเจนง่ายดาย

แต่ทว่า หมัดของเฉินโม่กลับไม่เห็นมีอะไรกีดขวางแม้แต่น้อย พอมีดดาบของผู้เฒ่าปะทะข้ากับกำปั้นของเขา ก็เหมือนเต้าหู้เจอมีด

ง่ายดายเหมือนย่ำไม้ผุ โดนหมัดของเฉินโม่อัดใส่ไปกลางอก

ปึง!

เสียงกระดูกเอ็นขาดหักดังขึ้น หน้าอกของผู้เฒ่ายุบลง ชีวิตก็จบลงเดี๋ยวนั้น!

“เป็นไปได้ยังไง!” ความไม่อยากเชื่อเต็มหน้ายามาดะ ทาเคชิ ฝีมือคุณยากิวยิโตะเป็นถึงนินจาชั้นสูงแล้วนะ กลับโดนหมัดเดียวถึงตาย!

“ไอ้หนู แกไม่ใช่ปรมาจารย์ แกเหนือยิ่งกว่าปรมาจารย์อีก!หรือจะว่า……..” ยามาดะ ทาเคชิคิดไปถึงคนคนหนึ่ง ตกใจจนใจแทบขาดมองหน้าเฉินโม่ “คุณคือเฉินไต้ซือแห่งฮ่านหยาง!”

เฉินโม่พูดเนือย ๆ ว่า “ดูท่าแกนี่ซ่อนตัวอยู่ในหัวเซี่ยนานมากแล้วนะ ขนาดรายชื่อเทพที่เพิ่งออกมาใหม่ก็ยังรู้”

“ปล่อยแกไว้ไม่ได้เสียแล้ว”

“เดี๋ยวก่อน!” พอรู้ว่าเฉินโม่ก็คือเฉินไต้ซือแล้ว ยามาดะ ทาเคชิหวาดกลัวขึ้นมาในที่สุด “เฉินไต้ซือ ท่านเป็นยอดฝีมืออาวุโส จะมาใช้วิสัยแบบผมได้ยังไง อีกทั้งผมก็เป็นคนประเทศต้าเหอ และเป็นนายน้อยของมัตสึดะ กรุ๊ป ถ้าท่านฆ่าฉัน ก็เท่ากับเป็นการท้าทายให้เกิดความขัดแย้งของสองประเทศ ต้องขอให้เฉินไต้ซือไตร่ตรองให้รอบคอบด้วย!”

“ขอเพียงเฉินไต้ซือได้ปล่อยโอกาสให้ผมสักครั้ง หลังจากนี้ไปผมจะไม่ย่างกรายเข้ามาที่หัวเซี่ยอีกแม้แต่ครึ่งก้าว!” ยามาดะ ทาเคชิก้มหน้า ไม่มีใครมองเห็นสายตาละห้อยของเขา

ไม่เห็นแสดงอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้าเฉินโม่ ควงหมัดซัดตรงออกไป ยามาดะ ทาเคชิเป็นเพียงคนธรรมดา จบชีวิตลงในทันที

“พวกแกคนประเทศต้าเหอ ไม่มีศักดิ์ศรีพอ!อีกอย่าง ต่อให้สองประเทศขัดแย้งกันขึ้นมาแล้วจะมีอะไร?ในโลกนี้ยังไม่มีเรื่องอะไรที่ฉันต้องกลัว!”

เฉินโม่มองไปที่เจ้าหน้าที่สองคนที่ตกใจกลัวจนตัวหดเป็นจักจั่นจำศีล พูดเสียงเย็นชาว่า “แก้มัด!”

“ขอรับ!” ด้วยมือสั่นไม่ยอมหยุดของทั้งสอง แก้เชือกที่มัดเล่ชิงชางสองพ่อลูกออก

เล่ชิงชางทำการคำนับอย่างสูงกับเฉินโม่ “ขอบพระคุณเฉินไต้ซือที่ช่วยชีวิต!”

เฉินโม่หันหน้าเลี่ยงไปทางอื่น พูดอย่างเฉยเมยว่า “คุณไม่ต้องมาขอบคุณผม เพราะคนที่ผมช่วยคือหรูหั่ว”

เล่ชิงชางมองไปที่เล่หรูหั่ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกละอาย “หรูหั่ว ขอบใจนะที่เธอยังมีพ่อคนนี้อยู่ในใจ!”

“ก่อนนี้ พ่อผิดไปแล้ว!”

เล่หรูหั่วแหงนหน้าสูง พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา “กลับบ้านกันก่อนแล้วค่อยคุยกันเถอะ คุณแม่ห่วงทุกคนอยู่!”

“อือม์!”